นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยหรือ iBank เปิดเผยว่า iBank ได้เปิดตัวนวัตกรรมการตลาดรูปแบบใหม่ครั้งแรกในวงการธนาคาร ด้วยการเปิดตัวไอแบงก์ แฟมมิลี่ เมมเบอร์(ไอเอฟเอ็ม) ที่นำระบบขายตรงมาใช้ในการให้สมาชิกบอกต่อ เมื่อมีผู้มาใช้สินเชื่อiBank สมาชิกจะได้รับส่วนแบ่งจากธนาคารเป็นรายได้เสริมโดยที่ไม่ต้องออกจากงานประจำแต่อย่างใด
หลังจากที่ได้ทดลองตลาดมาตั้งแต่เดือนพ.ย.54 ที่ผ่านมา ขณะนี้มีสมาชิก กว่า7,000 ราย มีการแนะนำลูกค้าสินเชื่อแล้วกว่า 800 ราย คิดเป็น16% ของจำนวนสมาชิก มีวงเงินเบิกใช้แล้ว 500 บัญชี รวม 100 ล่านบาท ทั้งนี้ iBank วางเป้าหมายว่าสิ้นปีนี้จะมีสมาชิกเพิ่มเป็น 10,000 ราย มีการใช้สินเชื่อ 2,000 ล้านบาท
"เราใช้ระบบการบอกต่อผสมผสานกับการคลาดแบบหลายชั้น (เอ็มแอลเอ็ม) ทำให้ไม่ต้องจ้างพนักงานสินเชื่อเพิ่มขึ้น แต่สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น โดยธอท.จะจ่ายผลตอบแทนจากส่วนแบ่งกำไรหลังจากหักต้นทุนให้สมาชิก และในการแบ่งปันผลกำไรให้สมาชิกนั้น จะแบ่งตามประเภทของสินเชื่อ คือสินเชื่อบ้าน แบ่งให้10% สินเชื่อเอนกประสงค์ แบบไม่มีหลักประกัน แบ่งให้ 20% หากมีหลักประกันแบ่งให้ 25% อนาคตจะขยายไปยังสินเชื่อประเภทอื่นๆ ต่อไป อาทิ สินเชื่อรถยนต์สินเชื่อเอสเอ็มอี"
ปัจจุบัน iBank มียอดสินเชื่อทั้งสิ้น 113,000 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มสุทธิอีก 20,000 ล้านบาท มาจากโครงการดังกล่าวนี้ 2,000 ล้านบาท จากการที่สมาชิกจะไปแนะนำลูกค้าสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย หรือ 30% ของสมาชิก
นายธีรศักดิ์กล่าวด้วยว่า ธนาคารจะยังคงตรึงอัตรากำไรไว้อีกระยะหนึ่งแม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 3.0% เนื่องจาก iBank เป็นธนาคารขนาดเล็กต้องรอความเคลื่อนไหวของธนาคารใหญ่ในระบบก่อน
" ตอนนี้เรายังไม่รีบร้อนที่จะปรับอัตรากำไรทั้งเงินฝากและเงินกู้เพราะโดยธรรมชาติแล้วการปรับขึ้นลงของแบงก์เล็กนั้นจะขึ้นเร็วลงช้าอยู่แล้ว ต้องรอผู้เล่นหลักในระบบขยับก่อนจึงค่อยพิจารณาในภายหลัง โดยคาดว่าระยะห่างจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน " นายธีรศักดิ์กล่าว
หลังจากที่ได้ทดลองตลาดมาตั้งแต่เดือนพ.ย.54 ที่ผ่านมา ขณะนี้มีสมาชิก กว่า7,000 ราย มีการแนะนำลูกค้าสินเชื่อแล้วกว่า 800 ราย คิดเป็น16% ของจำนวนสมาชิก มีวงเงินเบิกใช้แล้ว 500 บัญชี รวม 100 ล่านบาท ทั้งนี้ iBank วางเป้าหมายว่าสิ้นปีนี้จะมีสมาชิกเพิ่มเป็น 10,000 ราย มีการใช้สินเชื่อ 2,000 ล้านบาท
"เราใช้ระบบการบอกต่อผสมผสานกับการคลาดแบบหลายชั้น (เอ็มแอลเอ็ม) ทำให้ไม่ต้องจ้างพนักงานสินเชื่อเพิ่มขึ้น แต่สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น โดยธอท.จะจ่ายผลตอบแทนจากส่วนแบ่งกำไรหลังจากหักต้นทุนให้สมาชิก และในการแบ่งปันผลกำไรให้สมาชิกนั้น จะแบ่งตามประเภทของสินเชื่อ คือสินเชื่อบ้าน แบ่งให้10% สินเชื่อเอนกประสงค์ แบบไม่มีหลักประกัน แบ่งให้ 20% หากมีหลักประกันแบ่งให้ 25% อนาคตจะขยายไปยังสินเชื่อประเภทอื่นๆ ต่อไป อาทิ สินเชื่อรถยนต์สินเชื่อเอสเอ็มอี"
ปัจจุบัน iBank มียอดสินเชื่อทั้งสิ้น 113,000 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มสุทธิอีก 20,000 ล้านบาท มาจากโครงการดังกล่าวนี้ 2,000 ล้านบาท จากการที่สมาชิกจะไปแนะนำลูกค้าสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย หรือ 30% ของสมาชิก
นายธีรศักดิ์กล่าวด้วยว่า ธนาคารจะยังคงตรึงอัตรากำไรไว้อีกระยะหนึ่งแม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 3.0% เนื่องจาก iBank เป็นธนาคารขนาดเล็กต้องรอความเคลื่อนไหวของธนาคารใหญ่ในระบบก่อน
" ตอนนี้เรายังไม่รีบร้อนที่จะปรับอัตรากำไรทั้งเงินฝากและเงินกู้เพราะโดยธรรมชาติแล้วการปรับขึ้นลงของแบงก์เล็กนั้นจะขึ้นเร็วลงช้าอยู่แล้ว ต้องรอผู้เล่นหลักในระบบขยับก่อนจึงค่อยพิจารณาในภายหลัง โดยคาดว่าระยะห่างจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน " นายธีรศักดิ์กล่าว