แอล.พี.เอ็น.ฯ เชื่อวิกฤตยูโรไม่กระทบกำลังซื้อตลาดอสังหาฯ ย้ำผลกระทบยังไม่ถึงไทย คาด ธปท.ไม่หั่นดอกเบี้ย เพียงแค่คงอัตราดูสถานการณ์เท่านั้น
ผลพวงจากวิกฤตการเงินในกลุ่มประเทศยุโรปที่กำลังลุกลามในหลายประเทศ ทำใหรัฐบาลไทยเร่งหามาตรการป้องกันผลกระทบทั้งในภาคการส่งออก ภาคแรงงาน รวมถึงภาคตลาดเงิน ตลาดทุน ล่าสุด ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรครั้งที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะผู้กำกับดู และมีเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งเป็นกลไกในการควบคุมการไหลเข้า-ออกของเงินลงทุน เพื่อหาแนวทางป้องกันปัญหาที่อาจจะส่งผลกระทบเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต จากกรณีดังกล่าว ทำให้ ธปท.มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อป้องกันการไหลออกของเงินลงทุนในประเทศในการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเร็วๆ นี้
จากรณีดังกล่าวนายโอภาส ศรีพยัฆค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ได้ให้ความเห็นว่า วิกฤตการเงินของกลุ่มประเทศยุโรปที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการตัดสินใจลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากตลาดอสังหาฯ ไทยยังมีโอกาสในการขยายตัวอีกมาก ราคาขายยังต่ำ เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์
ส่วนกลุ่มลูกค้าในตลาดที่มีโอกาสได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว น่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าในตลาดระดับบน หรือลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งจะมีการชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตของกลุ่มประเทศยุโรป ส่วนกลุ่มลูกค้าในตลาดกลาง-ล่างนั้น ไม่น่าจะได้รับผลกระทบใดๆ เพราะโดยมากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริง ซึ่งแอล.พีเอ็น.ฯ อยู่ร่วมในกลุ่มดังนี้ จึงมั่นใจว่าจะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว
“หลังวิกฤตปี 2540 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ผู้ประกอบการอสังหาฯ ธนาคารพาณิชย์ และผู้บริโภคไทยมีประสบการณ์ และความเข้มแข็งมากขึ้น หากมีผลกระทบเกิดขึ้นไม่น่าจะส่งผลแต่อย่างใด หากจะมีผลกระทบก็น่าจะกระทบในด้านสภาพคล่องเท่านั้น แต่โอกาสก็เกิดยากเพราะผู้ประกอบการอสังหาฯ ในขณะนี้มีระเบียบทางการเงินสูง สังเกตได้จากการรักษาสัดส่วนของหนี้สินต่อทุนของบริษัทที่จดทะเบียนใน ตลท. แต่ละบริษัทมีหนี้สินต่อทุนไม่สูงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1 เท่า หรือมีบางรายสูงหน่อยก็ไม่เกิน 1.5 เท่า”
นายโอภาส กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ ธปท.มีแนวโน้มว่าจะปรับลดดอกเบี้ยนั้น เชื่อว่าน่าจะยังไม่เกิดเพราะความรุนแรงของวิกฤตยังไม่กระทบถึงไทย ดังนั้น เชื่อว่าอย่างมาก ธปท.จะเพียงแค่คงอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น ซึ่งไม่น่าจะส่งผลต่อตลาดอสังหาฯ ในขณะนี้ แต่หากมีการปรับลดดอกเบี้ยจริงก้ไม่น่าจะมีการลดที่รุนแรง ซึ่งก็จะไม่ส่งผลต่อตลาดเช่นกัน ยกเวนกรณีที่มีการปรับลดดอกเบี้ยที่รุนแรง เช่น ลดดอกเบี้ย 0.5-1% โอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯ ในทิศทางที่ดีจะมีสูง