xs
xsm
sm
md
lg

จนท.อปท.พะเยา วอนผู้ว่าฯ ช่วยด่วน เมียเป็นมะเร็ง-ต้นสังกัดขาดงบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พะเยา - จนท.ทต.เวียงลอ วอน ผวจ.ช่วยภรรยาที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง ที่ต้องเข้ารักษา รพ.ของรัฐ แต่ รพ.แจ้งหยุดให้ยา เหตุต้นสังกัดค้างชำระค่ารักษากว่า 700,000 บาท ระบุขอเป็น “จ่ายตรง” เช่น ขรก.ทั่วไป ระบุ มีเพื่อน ขรก.ท้องถิ่นอีกมาก ต้องประสบปัญหานี้ “ย้ำ” ไม่ได้ออกมาร้องเรียนใคร หรือหน่วยงานใด เพียงต้องการความช่วยเหลือตน-ภรรยา เพื่อน ขรก.ถ่ายโอนทุกคน

วันนี้(5 พ.ค.) นายทองสุข สุวรรณประภา อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 219 ม.8 ต.ลอ อ.จุน จ.พะเยา ซึ่งรับราชการเป็น ลูกจ้างประจำ ตำแหน่งพนักงานสูบน้ำ สังกัดกองช่าง สำนักงานเทศบาลตำบลเวียงลอ อ.จุน จ.พะเยา และนางนุศรา สุวรรณประภา ภรรยา อายุ 30 ปี ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากเข้ายื่นหนังสือต่อทางจังหวัดพะเยาเมื่อวานที่ผ่านมา (4 พ.ค.) เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยเหลือ เนื่องจากนางนุศรา สุวรรณประภา ภรรยา เข้ารับการรักษาโรงมะเร็งเต้านมที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เมื่อเดือนกันยายน 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งทางโรงพยาบาลได้รับเป็นผู้ป่วยในแล้ว

ซึ่งตามแผนการรักษาโรค แพทย์จะต้องให้ฉีดยา ซึ่งตกเข็มละ 98,000 บาท ในทุกๆ รอบ 21 วัน แต่วันที่ 2 พ.ค.55 ที่ผ่านมา ที่ครบรอบของการฉีดยารักษาโรค ทางโรงพยาบาล (ส่วนการเงินของ รพ.) แจ้งว่า ไม่สามารถจ่ายยาให้ได้อีกต่อไป เนื่องจากทางต้นสังกัด คือ เทศบาลตำบลเวียงลอ ค้างชำระเงินค่ารักษาพยาบาล เป็นเงิน 706,468 บาท ตามรายละเอียดเอกสารการเรียกเก็บหนี้ของทางโรงพยาบาลฯ ทำให้ภรรยาไม่ได้รับยาต่อเนื่องตามแผนการรักษา โดยเกรงว่า ภรรยาจะเป็นอันตรายเพราะขาดยาดังกล่าว เนื่องจากเป็นโรคร้ายแรง จึงปรึกษากับภรรยา ก่อนจะเดินทางมาขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้

นายทองสุข กล่าวว่า เดิมตนเองเป็นลูกจ้างประจำ ตำแหน่งพนักงานสูบน้ำ โครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ก่อนโอนถ่ายงานมา ทต.เวียงลอ ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2546 ต่อมา เมื่อราวปี 54 พบว่า ภรรยาป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม ก็เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ (รพ.สวนดอก) และรับการรักษาตามแผนที่แพทย์สั่งมาตลอด แต่เกิดปัญหาขึ้น คือ ทางการเงินของโรงพยาบาลฯแจ้งว่า ไม่สามารถจ่ายยาให้แก่ภรรยาได้อีกต่อไป เนื่องจากต้นสังกัดค้างชำระค่ารักษาพยาบาลอยู่กว่า 7 แสนบาท ซึ่งทางต้นสังกัดเอง ก็แจ้งว่าไม่สามารถชำระเงินค่ารักษาพยาบาลดังกล่าวได้ เนื่องจากเงินหมวดดังกล่าวมีไม่พอ แต่ทางต้นสังกัดก็ได้ทำหนังสือขออนุมัติเงินค่ารักษาฯ ไปทางท้องถิ่นจังหวัดแล้ว
 
แต่ทางท้องถิ่นจังหวัดแจ้งว่า เงินอุดหนุนค่ารักษาพยาบาลสำหรับข้าราชการถ่ายโอนมีน้อย ไม่เพียงพอต่อการชำระค่ารักษาดังกล่าว ซึ่งต้องรออุดหนุนไตรมาสต่อไป ตนและภรรยาจึงพากันเดินทางมาขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยเหลือให้ภรรยาได้รับยาต่อไปตามแผนการรักษาของแพทย์ที่กำหนดไว้ ซึ่งทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เอง ก็อนุเคราะห์ให้เลื่อนนัดการให้ยาออกเป็นวันที่ 16 พ.ค.55 และให้ทางต้นสังกัดชำระหนี้ก่อนวันที่ 16 พ.ค.55 แต่เกรงว่าภรรยาจะเป็นอันตรายจากการให้ยาไม่ตรงตามกำหนด จึงอยากขอให้ทางจังหวัดรวมไปถึงท้องถิ่นจังหวัดช่วยหาทางให้ภรรยา ได้รับการให้ยาต่อจากโรงพยาบาลด้วย

“ปัญหาดังกล่าวนี้ มีเพื่อนข้าราชการถ่ายโอนอีกหลายคนประสบอยู่ และหากเป็นไปได้ ก็จะขอให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หาทางให้ข้าราชการถ่ายโอน จ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นแบบ “จ่ายตรง” เหมือนกับข้าราชการพลเรือนทั่วไปด้วย เพราะตนเองขณะนี้ก็ยังเบิกจ่ายเงินจากสังกัดเดิมทุกอย่าง ก็น่าจะทำเบิกจ่ายตรงได้ แต่ระเบียบของท้องถิ่นขณะนี้ไม่สามารถเบิกจ่ายตรงได้ หากเรื่องนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไขปัญหาได้ ก็จะเป็นการช่วยเหลือข้าราชการถ่ายโอนได้อีกมากเลย” นางทองสุข กล่าว

นายทองสุข ย้ำด้วยว่า การออกมาให้ข่าวในครั้งนี้ ตนเอง และภรรยาไม่ได้มีเจตนาจะร้องเรียนใคร หรือหน่วยงานใดๆ ทั้งนั้น แต่อยากให้หน่วยงาน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้แก่ตนและภรรยา รวมถึงเพื่อนข้าราชการถ่ายโอนทุกคนที่ประสบปัญหานี้เท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น