xs
xsm
sm
md
lg

มั่นใจ ตอ.ยังมีเสน่ห์ในสายตานักลงทุน คาดถึงสิ้นปีมูลค่ารวมเกือบ 2 แสนล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผอ.บีโอไอ ตอ.ยังคงมั่นใจว่าพื้นที่ภาคตะวันออก จะมีเสน่ห์ในสายตานักลงทุน ทั้งไทย และต่างชาติไปอีกนาน เพราะการมีจุดขายสำคัญที่ท่าเรือน้ำลึก และระบบการขนส่งที่สะดวกสบาย แต่ภาคอุตสาหกรรมในอนาคตจะต้องมีการปรับตัวใหญ่ โดยหันใช้เครื่องจักรกลทดแทนแรงงานคนที่มีค่าจ้างสูงขึ้น ขณะที่อุตฯ สิ่งทอจำเป็นต้องย้ายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากมีค่าแรงถูกกว่า โดยคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปี มูลค่าการลงทุนภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่จะสูงเฉียด 2 แสนล้านบาท

นายสุวิชช์ ฉั่ววิเชียร ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 (บีโอไอ ชลบุรี) เผยถึงแนวโน้มการลงทุนภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกในปี 2555 ว่า มูลค่าการลงทุนรวมเมื่อถึงสิ้นปี น่าจะเฉียด 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มูลค่าการลงทุนรวมมีมากกว่าแสนล้านบาท ทั้งนี้ เป็นเพราะภาคตะวันออก ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดการลงทุนของนักลงทุนทั้งชาวไทย และต่างชาติให้ขยายการลงทุนเข้ามามากกว่าพื้นที่อื่นๆ เพราะปัจจัยบวกเรื่องข้อได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง การมีท่าเรือน้ำลึก และเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบาย รวมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ เป็นจำนวนมาก

“แต่ภาพของการย้ายฐานผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านก็จะมีให้เห็น โดยเฉพาะในภาค อุตสาหกรรมสิ่งทอที่จะต้องย้ายไปยังประเทศที่มีค่าจ้างแรงงานที่ถูกกว่าแทน หลังรัฐบาลประกาศใช้กฏกหมายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน เพื่อหนีปัญหาการขาดทุน

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งไทยเป็นฐานผลิตใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย ที่ในปีนี้มีแนวโน้มว่าจะถึง 2 ล้านคัน ก็ทำให้ภาคการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งฐานผลิตใหญ่อยู่ในภาคตะวันออก จะเติบโตตาม และที่ทราบมาคือขณะนี้ พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง และอมตะนคร มีนักลงทุนให้ความสนใจที่จะเข้ามาตั้งฐานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์อีโคคาร์ เป็นอย่างมาก”

นายสุวิชช์ ยังเผยอีกว่า ในอนาคต รูปแบบการลงทุนภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกจะหันมาใช้เครื่องจักรกลแทนการใช้แรงงานคนเพื่อหนีปัญหาภาวะการขาดแคลนแรงงานฝีมือที่กำลังถือเป็นปัญหาใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก และหนีปัญหาค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งนโยบายในการสนับสนุนให้เกิดแรงงานฝีมือในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในประเทศ และยังเป็นการต่อสู้กับการเปิดประเทศของเวียดนาม และพม่า ในเรื่องของการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่จะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญในการดึงดูดการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในอนาคตเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น