xs
xsm
sm
md
lg

เชื่อรัฐเอาอยู่“คอนติเนนทอล”ลงทุนเพิ่ม 600 ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ- “คอนติเนนทอล” ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ แจงแทบไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ เผยผลประกอบการเป็นไปตามเป้า พร้อมเชื่อมั่นประเทศไทย ประกาศแผนลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มมูลค่า 600 ล้านบาท
โธมัส แชมเบอร์ส
โธมัส แชมเบอร์ส กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอนติเนนทอล ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด และหัวหน้ากลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิค รับผิดชอบประเทศในกลุ่มอาเซียนและออสเตรเลีย แถลงผลประกอบการสิ้นสุดไตรมาส 3 ปี 2554 ของบริษัท คอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ว่า สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2554 และมีแนวโน้มที่จะสร้างยอดขายที่ดียิ่งขึ้น คาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 29.5 พันล้านยูโร หรือประมาณ 12 แสนล้านบาท ในปี 2554 และมีกำไรก่อนหักภาษีที่ 10% สำหรับในปีนี้บริษัทจะลงทุนเพิ่มประมาณ 1.5 พันล้านยูโร หรือประมาณ 64,000 ล้านบาท และจัดสรรเม็ดเงินลงทุนด้านวิจัยพัฒนาโดยเฉพาะอีก 1.6 พันล้านยูโร หรือประมาณ 65,500 ล้านบาท

“ในปี 2553 คอนติเนนทอลมียอดขายในเอเชียเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าตัวมาอยู่ที่ 4 พันล้านยูโร (ประมาณ16,300 ล้านบาท) ปัจจุบันยอดขายในเอเชียมีสัดส่วน 21% ของยอดขายรวมของบริษัท บริษัทมีโรงงานผลิต 41 แห่งอยู่ในทวีปเอเชีย สำนักงานขาย 28 แห่ง มีพนักงานกว่า 27,000 คน โดยเอเชียจะเป็นภูมิภาคที่สำคัญ นับแต่ปี 2555 เป็นต้นไป หนึ่งในสองของรถยนต์ที่ผลิตทั่วโลกจะผลิตในเอเชีย”

โธมัส กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในประเทศไทย สิ้นสุดไตรมาส 3 ปี 2554 มีตัวเลขอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก โดยในส่วนของเทรดดิ้ง เพื่อจัดหาและส่งมอบชิ้นส่วนต่างๆ แก่โออีเอ็มในประเทศไทยมีผลประกอบการที่ดีเป็นพิเศษในเดือนสิงหาคม กันยายน และธันวาคม (เดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ประสบอุทกภัย) มีการเติบโตในอัตราสูงถึง 200% เมื่อเทียบกับปี 2553 และคาดว่าจะต่อเนื่องถึงปี 2555 ด้วย

“สำหรับผลกระทบของสภาวะน้ำท่วมในปีที่แล้วนั้น คอนติเนนทอลได้รับผลกระทบน้อยมาก โดยมีซัพพลายเออร์ในจังหวัดปทุมธานี ฉะเชิงเทรา และบางกะปิ ต้องหยุดการผลิต แต่โรงงานของคอนติเนนทอลที่นิคมอมตะ ซิตี้ ที่ระยองสามารถจัดหาชิ้นส่วนจากเครือข่ายโรงงานผลิตฃิ้นส่วนในกลุ่มทั่วโลกส่งมอบให้กับลูกค้าได้โดยไม่มีการหยุด หรือชะลอสายการผลิตแต่อย่างใด และหลังเหตุการณ์ บริษัทได้ตั้งคณะทำงานศึกษาผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาว และวิธีแก้ไข โดยการใช้ประโยชน์ของเครือข่ายทั่วโลกที่มีการทำธุรกิจกับซัพพลายเออร์ทั่วโลก”

โธมัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังคงเชื่อมั่นในความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยที่มีข้อได้เปรียบที่สำคัญ คือ เป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มาต่อเนื่องจากการที่ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากว่า 50 ปี ทำให้ไทยมีภาษีที่ดีกว่าเรื่อง คุณภาพและทักษะแรงงานที่มีฝีมือในอุตสาหกรรมรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งของไทยในภูมิภาค และค่าจ้างแรงงานของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ

เดิร์ค ยานอฟสกี้ ผู้จัดการทั่วไปและผู้จัดการโรงงาน กล่าวเสริมว่า บริษัทมีความเชื่อมั่นและยึดมั่นในการลงทุนในประเทศไทย ด้วยการประกาศแผนซื้อเครื่องจักรที่มีความทันสมัยระดับโลกติดตั้งเพิ่มเติมมีมูลค่า 600 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนหัวฉีดคอมมอนเรล และปั๊มแรงดันสูง เพื่อป้อนผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศคิดเป็นสัดส่วน 10% และอีก 90% เป็นการส่งออก ทั้งนี้บริษัทจะต้องการพนักงานและรวมทั้งวิศวกร เพิ่มอีก 120 ตำแหน่งในปี 2555 นี้

“โรงงานเพาเวอร์เทรนที่อมตะ ซิตี้ มีศักยภาพในการผลิตหัวฉีดเพียโซคอมมอนเรล 2.5 ล้านชิ้นและปั๊มแรงดันสูง 500,000 ชิ้น โดยการผลิตเต็มศักยภาพจะบรรลุในปี 2557 ปัจจุบัน บริษัทใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่า 40% และจะเพิ่มให้ถึง 70% ในอนาคต” เดิร์ค ยานอฟสกี้ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น