พิษณุโลก - “นคร มาฉิม” โร่ขึ้นโรงพัก ถูกขู่ฆ่าหลังเดินหน้าตรวจสอบเข้มกลโกงออกโฉนดมิชอบ “ฮุบป่ากิ่วทัพยั้ง-เมืองเชียงราย” ชี้ ป่าไม้-อุทยานฯเพิกเฉย แม้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เผย เป็นผู้มีอิทธิพลตัวจริง อดีตรัฐมนตรี ฝ่ายรัฐบาล ครอบครองป่า 13,600 ไร่ 507 แปลง
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่โรงพัก สภ.เมืองพิษณุโลก นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก ในฐานะ
รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน การออกเอกสารสิทธิและกฎหมาย เกี่ยวข้องที่ดินและป่าไม้ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมชาย เกิดช้าง ผู้กำกับ สภ.เมืองพิษณุโลก และแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐาน กับ พ.ต.ท.รักชาติ เรืองเจริญ สารวัตรเวร สภ.เมืองพิษณุโลก กรณีถูกจดหมายลึกลับข่มขู่เอาชีวิต ถึงบ้านภายในหมู่บ้านชินลาบ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
โดยจดหมายขู่ฆ่าดังกล่าว มีเนื้อหาระบุว่า เรื่อง ขอให้งดเว้นการตรวจสอบ เรียน นายนคร มาฉิม ขอแสดงความยินดีกับตำแหน่ง ส.ส.ที่ท่านได้รับ และขอชื่นชมว่า ท่านเป็นผู้มีความสามารถในการทำงานด้านต่างๆ แต่การที่ท่านไปขุดคุ้ย ตรวจสอบ เรื่อง ป่ากิ่วทับยั้ง นั้น คงจะไม่เป็นผลดีสำหรับตัวท่านและครอบครัวนัก เนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อท่านและครอบครัวได้ จึงขอแจ้งให้ท่านหยุดการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว ด้วยความปรารถนาดี”
นายนคร เปิดเผยว่า ตนในฐานะรองกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน สภาผู้แทนราษฎร ได้ตรวจสอบเอาจริงเอาจังกับการบุกรุกป่ากิ่วทับยั้ง จ.เชียงราย จนกระทั่ง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดผู้ครอบครองที่ดินของรัฐ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าจำนวน 41 ราย โดยใช้ชื่อเป็นนอมินีถือครองโฉนดโดยมิชอบ เรื่องนี้ถูกปกปิดมานานกว่า 10 ปี เจ้าหน้าที่ป่าไม้และอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไม่ยอมเพิกถอนโฉนด ที่ออกทับที่ป่าจำนวน 13,600 ไร่ 507 แปลง ทั้งที่มติ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมติไปแล้ว และให้สั่งเพิกถอนโฉนด แต่ผู้มีอิทธิพลกลับเขียนจดหมายมาข่มขู่เอาชีวิตและครอบครัว ซึ่งบุคคลดังกล่าว เป็นอดีตรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองระดับชาติ อยู่ฝั่งร่วมรัฐบาล และยังเป็นนักธุรกิจสร้างรีสอร์ตอีกด้วย
ส.ส.นคร ยืนยันอีกว่า อย่างไรก็ตาม แม้จะมีจดหมายขู่เอาชีวิต ตนก็จะลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อตรวจสอบการออกโฉนดทับที่ป่าโดยมิชอบเร็วๆนี้ เพราะเป็นสิ่งเลวร้ายมากกว่า วังน้ำเขียว หลายเท่า เพราะ “ป่ากิ่วทับยั้ง” ไม่มีประชาชนครอบครองอยู่เดิม
นายนคร เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ตนได้รับเรื่องร้องเรียนการขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาการออกโฉนดที่ดินทับซ้อน กรณีการบุกรุกพื้นที่สวนป่ากิ่วทับยั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย และการบุกรุกพื้นที่แปลงปลูกป่าของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ตนจึงนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.โดยพบว่า เมื่อ 17 ปีที่แล้ว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ป.) ได้เคยมีมติว่ามีการบุกรุกออกโฉนดในพื้นที่ป่าจริง พร้อมกับชี้มูลความผิดของส่วนราชการและบุคคลที่เกี่ยวข้องรวม 41 ราย และยังให้เพิกถอนโฉนด 507 โฉนด จำนวนพื้นที่ 13,600 ไร่
และหลังจากที่ตนนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.ที่ประชุมได้มีมติเดินหน้าตรวจสอบ โดยเชิญหัวหน้าส่วนราชการเข้าชี้แจง คือ 1.อธิบดีกรมที่ดินต้องตอบคำถามให้ได้ว่า เหตุใดจึงปล่อยให้เรื่องล่าช้ามาถึง 17 ปี โดยไม่ดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ออกโดยมิชอบ ทั้ง 13,600 ไร่ให้แล้วเสร็จ 2.อธิบดีกรมป่าไม้ และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอเรียกร้องว่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกับปัญหาการบุกรุกวังน้ำเขียว
“แต่หลังจากที่ตนเกาะติดเรื่องนี้ จนกระทั่ง กมธ.มีมติเร่งรัดไปยัง ป.ป.ช.สิ่งที่ได้รับในขณะนี้ คือ มีจดหมายข่มขู่ที่จะเอาชีวิต ทั้งต่อครอบครัวและตัวผม ส่งมายังบ้านพักที่ จ.พิษณุโลก แสดงให้เห็นว่า กลุ่มที่มีผลประโยชน์อยู่ในที่ดิน 13,600 ไร่ เป็นบุคคลที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย มีการใช้อำนาจอิทธิพลเถื่อนและมีผลประโยชน์มากมายมหาศาล เกี่ยวข้องกับข้าราชการระดับสูงหลายกรม และนักการเมืองในระดับชาติบางคน ซึ่งบางคนเคยมีตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีร่วมอยู่ในกระบวนการนี้ด้วย จึงเข้าแจ้งความต่อ สภ.เมืองพิษณุโลกเพื่อเป็นหลักฐานต่อไป” นายนคร กล่าว
