กาญจนบุรี - อสม.กาญจน์ กว่า 1,000 คน บุกศาลากลางยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมผ่าน ผวจ.กาญจนบุรี หลังถูกทาง สตง.ออกมาให้ข่าวเสื่อมเสียกล่าวหา อสม.กาญจนบุรี ทำงานเดือนละ 4 วัน ไม่คุ้มค่าเงินตอบแทน วอนผู้ให้ข่าวดูตัวเองเหมาะเป็นผู้ตรวจเงินแผ่นดินของประเทศหรือไม่ ชี้ อสม.ทั่วประเทศทำงานด้วยจิตอาสาไม่หวังผลตอบแทน
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (14 ก.ย.) อาสาสมัครหมู่บ้าน (อสม.) กว่า 1,000 คนนำโดย นายศิวโรฒ จิตนิยม ประธาน อสม.กาญจนบุรี นายนพดล สงวนพันธ์ รองนายก อบจ.กาญจนบุรี ในฐานะประธานดูแล อสม.อ.เมืองกาญจนบุรี เดินทางไปรวมตัวกันที่บริเวณสนามหญ้าด้านหน้า พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมชูป้ายประท้วงเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ที่ให้ข้อมูลหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 11 ก.ย.ลงข่าวกล่าวหาว่า อสม.กาญจนบุรี ทำงานเดือนละ 4 วัน ไม่คุ้มค่าเงินตอบแทนเดือนละ 600 บาท ที่รัฐจ่ายให้ ทำให้ อสม.กาญจนบุรี เสื่อมเสีย ชี้ทุกคนทำงานด้วยจิตอาสาไม่หวังผลตอบแทน พร้อมวอนผู้ให้ข่าวดูตัวเองเหมาะเป็นผู้ตรวจเงินแผ่นดินของประเทศ หรือไม่ ก่อนที่ นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผวจ.กาญจนบุรี จะเดินทางมารับหนังสือด้วยตนเอง
นายนพดล สงวนพันธ์ รองนายก อบจ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นประธานผู้ดูแลอาสาสมัครหมู่บ้านอำเภอเมืองกาญจนบุรี (อสม.) รู้สึกตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก ตามที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อทำการสุ่มตรวจการทำงานของ อสม.กาญจนบุรี แล้วมีบันทึกแจ้งต่อสาธารณะว่า อสม.จังหวัดกาญจนบุรีทำงานไม่คุ้มค่าเงินเดือน ซึ่งหนังสือพิมพ์มติชน ได้นำข้อความนี้ลงนำเสนอต่อสาธารณะ ฉบับวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา การที่ สตง.ให้ข่าวกับสื่อแบบนี้ เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของ อสม.อย่างร้ายแรง
ที่ผ่านมา อสม.ทำงานโดยไม่ได้มุ่งหวังสิ่งตอบแทนแต่อย่างใด ทุกคนทำงานด้วยจิตอาสาและเสียสละมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี เพื่อต้องการเห็นพี่น้องประชาชนและลูกหลานที่อยู่ในชุมชนเดียวกันมีความสุขปราศจากโรคภัยและห่างไกลยาเสพติด นั่นคือ ความสุขในการทำงานของ อสม.ที่แท้จริง การที่ สตง.ให้ข้อมูลกับสื่อเพื่อนำไปตีพิมพ์ออกมาสู่สาธารณเช่นนี้ เราถือว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยาม และดูหมิ่นศักดิ์ศรีของ อสม.อย่างร้ายแรง
การกระทำเช่นนี้มันแสดงให้เห็นว่า สตง.ไม่มีความรู้เลยว่า การที่ใครก็ตามที่เข้ามาเป็นอาสาสมัครหมู่บ้าน หรือ อสม.นั้นต้องทำงานอย่างไรบ้าง อสม.ทุกคนไม่เพียงแต่ทำงานให้กับกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น ทุกคนยังต้องทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยด้วย โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องสิ่งเสพติด เช่น สารระเหย หรือยาบ้า ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ตามชุมชน หมู่บ้าน และสถานศึกษาต่างๆ อสม.ทุกคน จะมีหน้าที่เข้าไปช่วยดูแลสอดส่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดเหล่านี้เป็นอันขาด โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ โครงการพลังแผ่นดิน เอาชนะยาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทยในปัจจุบัน อสม.ทุกคนก็ต้องเข้าไปมีบทบาทตรงนี้ ซึ่ง สตง.ไม่มองถึงตรงจุดนี้เลย
และขอบอก สตง.ว่า ที่ผ่านมา อสม.ไม่มีเงินเดือนเลย ดังนั้น การที่ สตง.บอกว่า อสม.ทำงานไม่คุ้มเงินเดือน ถามว่า สตง.นำเกณฑ์อะไรมาวัดว่าคุ้มหรือไม่คุ้มและที่สำคัญ อสม.เขาทำงานกันมาแล้ว 30 ปีในลักษณะจิตอาสาไม่มีค่าตอบแทน ส่วนเงิน 600 บาท ที่รัฐบาลจ่ายให้นั้นเป็นสวัสดิการค่าตอบแทน หรือเรียกว่าค่าป่วยการ หวังว่า สตง.คงเข้าใจตรงนี้ นายนพดล กล่าว
ด้าน นางศรีสุรัตน์ อินทร์ธิราช อายุ 48 ปี ประธาน อสม.ชุมชนบ้านชุกกุ่ม เทศบาลเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวว่า สตง.ให้ข่าวต่อสื่อมวลชนว่า อสม.กาญจนบุรี ทำงานไม่คุ้มค่าเงินเดือน ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เงิน 600 บาท ที่รัฐบาลจ่ายให้เป็นสวัสดิการ หรือค่าป่วยการนั้น คิดแล้วเฉลี่ยวันละ 20 บาท ที่จริงแล้วตนเชื่อว่า อสม.ที่มีจิตอาสาส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการ เพราะทุกคนมีหน้าที่การงานที่ดีอยู่แล้ว บางคนเป็นข้าราชการเกษียร มีเงินบำนาญกินทุกเดือน แต่ที่เข้ามาทำงานตรงจุดนี้เพื่อต้องการช่วยเหลือสังคม สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับคือความสุขและความสบายใจของ อสม.แต่กลับกัน สตง.กำลังทำให้ อสม.ทั่วประเทศหมดกำลังใจที่จะทำงานด้านสังคมไปแล้ว
ด้าน นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยภายหลังรับหนังสือจากแกนนำ อสม.ว่า หลังจากทราบข่าวตนเข้าใจว่า สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อาจจะเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง เนื่องจาก อสม.ถือว่าเป็นกลุ่มผู้นำธรรมชาติ ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกับทรวงใด แต่เขาอาสาเข้ามาทำงานด้านสาธารณสุข และยังช่วยเหลืองานของกระทรวงมหาดไทยอีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด สำหรับเงิน 600 บาทที่ อสม.ได้รับนั้นถือว่าเป็นเงินที่รัฐมอบให้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานเท่านั้น ไม่ใช่เงินเดือนแต่อย่างใด ซึ่งตนจะทำหนังสือไปยังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินส่วนภูมิภาคและส่วนกลางเพื่อชี้แจงการทำงานด้วยจิตอาสาของอาสาสมัครหมู่บ้าน หรือ อสม.ให้ สตง.เข้าใจต่อไป
รายงานข่าวว่า การเสนอข่าวครั้งนี้ทำให้ อสม.จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีกว่า 1.5 หมื่นคน ไม่พอใจ สตง.เป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้นอกจากจะกล่าวโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ สตง.แล้ว อสม.กาญจนบุรี ยังได้ยื่นหนังสืออีก 1 ฉบับ ผ่าน นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผวจ.กาญจนบุรี ถึง บรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน ที่เป็นผู้นำเสนอข่าวในครั้งนี้ด้วย และยังชูป้ายต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขว่า กระทรวงหมอใช้งาน อสม. อสม.ถูกดูหมิ่นจะไม่ช่วยปกป้องหรือ โดยมี น.พ.ไพศาล ดั้นคุ้ม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีเดินทางไปรับฟังความคิดเห็นจาก อสม.ในครั้งนี้ด้วย
