พระนครศรีอยุธยา - “สุวิทย์ คุณกิตติ” ลงพื้นที่ตรวจสอบการเตรียมความพร้อมกู้เรือน้ำตาลล่มที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ปภ.กรุงเก่าเตือนประชาชนออกห่างจากจุดเกิดเหตุรัศมี 1 กม.รวมทั้งจะปิดน่านน้ำ และการจราจรทางบกห้ามผ่านตั้งแต่เวลา 07.00 น.จนกว่าทำการกู้เรือสำเร็จ เพราะเกรงว่าเชือกที่โยงเรือน้ำตาลจะขาด ทำให้เกิดอันตรายได้ ด้านผลการเจรจารับผิดชอบความเสียหายระหว่างผู้ว่าฯกรุงเก่ากับบริษัทเจ้าของเรือน้ำตาลและชาวบ้าน โดยทีมอัยการและฝ่ายปกครองจังหวัดมีทิศทางดีขึ้น
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (10 มิ.ย.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ เดินทางมาที่บริเวณเรือน้ำตาลทรายแดงล่ม ม.2 ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพูดคุยหารือกับเจ้าหน้าที่ทหารที่กำลังทำแนวป้องกันตลิ่ง พร้อมทั้งให้กำลังใจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเรือน้ำตาลล่ม
นายสุวิทย์ เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาวันนี้เพื่อติดตามการทำงาน เห็นหน่วยงานต่างๆ ได้บูรณาการกันทำงานต้องขอชมเชย ในส่วนงบประมาณที่เคยตั้งไว้ประมาณ 60 ล้านบาท คงไม่เพียงพอ เพราะยิ่งกู้เรือล่าช้าจะทำให้งบประมาณเพิ่มขึ้น น้ำกัดเซาะตลิ่งบ้านเรือนได้รับผลกระทบ ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้น ซึ่งทางราชการจะต้องสำรองจ่ายไปก่อนแล้วมอบให้กรมเจ้าท่าเป็นผู้รวบรวมฟ้องกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุเรือล่ม
การกู้เรือตามที่กรมเจ้าท่าได้แจ้งให้ทาง ครม.ทราบต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นและไหลแรง การใช้วิธีพอนทูน เป็นวิธีหนึ่ง ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) ทราบว่าจะทำการกู้เรือน่าจะผ่านพ้นไปได้ เพราะหน่วยงานต่างๆ ทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ ได้บูรณาการกันทำงาน ส่วนการเดินเรือต้องให้กรมเจ้าท่า ตรวจสอบเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การเดินเรือว่าควรจะมีการปรับปรุงและแก้ไขตรงไหนบ้าง
ด้าน นางวิมล ไชยวัฒน์ ปภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) จะทำการกู้เรือจึงขอแจ้งให้กับประชาชน เรือขนส่งสินค้า ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ม.2 ต.ภูเขาทอง ใกล้ที่เกิดเหตุให้ออกจากบ้านทุกคน ห่างจากจุดเกิดเหตุรัศมี 1 กม.รวมทั้งจะปิดน่านน้ำและการจราจรทางบกห้ามผ่าน ตั้งแต่เวลา 07.00 น.เป็นต้นไป จนกว่าทำการกู้เรือสำเร็จ เพราะเกรงว่าเชือกที่โยงเรือน้ำตาลอาจจะสะบัดขาดทำให้เกิดอันตรายได้
วันเดียวกันที่ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และทีมอัยการจังหวัด ได้เชิญให้ 4 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเรือน้ำตาลล่มเข้าประชุมเพื่อหาข้อสรุปความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประเด็นความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน
นายวิทยา กล่าวว่า ผลการเจาจรพบว่าเริ่มมีทิศทางดีขึ้นโดยพบว่าทั้ง 4 บริษัทตกลงกันเองว่า บริษัทที่จะรับผิดชอบในเบื้องต้นมี 2 บริษัท คือ 1.กลุ่มบริษัท JNP จำกัด ที่ว่าจ้างให้มีการขนส่งน้ำตาลทางเรือ 2.บริษัท อัลฟา มารีน ซัพพลาย จำกัด ที่เป็นเจ้าของเรือและรับการว่าจ้างขนส่งน้ำตาลทางเรือ โดยอันตราส่วนของการรับผิดชอบในเบ้องต้นนี้ทางบริษัท JNP จำกัด จะรับผิดชอบ 2 ต่อ 3 และบริษัท อัลฟา มารีน ซัพพลาย จำกัด จะรับผิดชอบ 1 ต่อ 3
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 15 หลัง แต่เฉพาะจุดที่ตลิ่งพังนั้นมีบ้านเรือนเสียหายหนักๆ 4 หลัง คือ บ้านที่รื้อทั้งหลังไปแล้ว 1 หลัง รื้อบางส่วน 1 หลัง และยังเหลืออีก 2 หลังที่เชื่อว่าจำเป็นต้องรื้อแน่นอน โดยทั้ง 4 หลังมีการสำรวจประเมินราคานับจากรื้อย้ายจนไปปลูกสร้างบ้านหลังใหม่รวม 3,300,000 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้เสนอให้ 2 บริษัทไปแล้ว แต่ทางบริษัทขอนำตัวเลขไปแจ้งผู้บริหารบริษัทเพื่อตัดสินใจและจะมาแจ้งในการนัดเจรจาครั้งหน้าในวันจันทร์ที่ 13 มิ.ย.นี้
