รมช.คมนาคม ยันกู้เรือน้ำตาลล่มทำเป็นระบบ จ่อทำโป๊ะบอลลูนยกเรือ คาดเสาร์นี้ย้ายออกได้แน่ เผยเจ้าของเรือรับผิดชอบค่าเสียหายชนบ้านพัง พร้อมจี้จ่ายค่าปลาในกระชังตายร่วมรัฐ ยันวิธีแก้ทำถูกแล้ว แต่ช่วยช้าเพราะฝนตก-น้ำแรง รับอาจต้องรื้อย้ายบางบ้านเพื่อความปลอดภัย
วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีเรือน้ำตาลล่มที่ จ.พระนครศรีอยุธยาว่า ปัญหาเรือน้ำตาลล่มขณะนี้การกู้เรือขึ้นมาได้ทำเป็นระบบ ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน เช่น ความร่วมมือจาก จ.พระนครศรีอยุธยา กรมเจ้าท่า รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยได้ข้อสรุปว่าตอนนี้เราจะนำโป๊ะเรือไปทำบอลลูนเพื่อยกเรือขึ้น เพราะข้อจำกัดของพื้นที่ทำให้ไม่สามารถนำเครื่องมือทั้งหมดเข้าไปได้ และน้ำก็มีความแรงมาก ซึ่งเดิมทีเราต้องการให้ทางกรมชลประทานปล่อยน้ำลงเพื่อให้น้ำลดเองและสามารถกู้เรือได้ง่ายขึ้น แต่เนื่องจากมีฝนตกติดต่อกันหลายวันทำให้ ไม่สามารถลดปริมาณน้ำลงได้ จึงต้องมีการเปลี่ยนวิธี ซึ่งการน้ำโป๊ะเรือไปทำบอลลูนจะสามารถทำได้ภายในอีก 2 วัน และในวันเสาร์นี้จะสามารถย้ายเรือออกจากพื้นที่ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับความเสียหายของบ้านเรือนนั้น ทางผู้ประกอบการเรือได้รับผิดชอบเพราะมีเหตุผลที่ชัดเจนว่ามีเหตุการณ์เรือชนและจมลง ซึ่งผู้ประกอบการจะไปประสานงานกับทางประกัน ก็เป็นหน้าที่ของเขา
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างไร นายเกื้อกูลกล่าวว่า แยกเป็น 2 กรณี คือ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและเป็นเจ้าของบ้าน ทางผู้ประกอบการได้รับผิดชอบแล้ว แต่ในส่วนของปลา รัฐบาลจะมีเงินส่วนหนึ่ง แต่สุดท้ายทางผู้ประกอบการก็จะต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งทางผู้ประกอบคงต้องหาเงินมาเยียวยาปลาในกระชังที่ตาย ส่วนปลาในธรรมชาติ ทางกรมประมงก็จะมีการปล่อยปลาเพิ่ม
เมื่อถามว่า บริเวณเขื่อนที่มีการกั้นตลิ่งจะมีการช่วยชาวบ้านได้อย่างไร นายเกื้อกูลกล่าวว่า ผู้ประกอบการยืนยันว่า บ้านที่โดนรื้อไปนั้นจะสร้างบ้านใหม่ให้ บริเวณเขตและเขตป้องกันตลิ่ง ทางเจ้าของเรือก็จะเป็นผู้ทำให้ เมื่อถามว่าทำไมรัฐบาลถึงปล่อยให้ประชาชนรู้สึกเครียด เพราะแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้หลายวัน นายเกื้อกูลกล่าวว่า เหตุการณ์มีความเปลี่ยนไปทุกวัน ในตอนแรกเราคิดว่าสามารถใส่น้ำในเขื่อนที่เบาลง แต่ต้องรอเวลา 6-8 ชั่วโมง กว่าที่กระแสน้ำจะลดลง แต่พอฝนตกลงมาอีกก็ไม่สามารถเบาน้ำในเขื่อนได้ จึงต้องมีการเปลี่ยนวิธีการ ส่วนการแก้ไขเยียวยาทางนักวิชาการได้ยืนยันว่าการแก้ไขที่ทำนั้นถูกต้อง ซึ่งการย้ายเรือออกมา ก็จะทำด้วยความระมัดระวัง เพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหาซ้ำซ้อน ตนได้บอกกับทางอธิบดีกรมเจ้าท่าให้นำผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดมาควบคุมการย้ายเรือ รวมถึงอธิบดีเองก็จะมาควบคุมด้วย
เมื่อถามว่า ระหว่างนี้จนถึงวันเสาร์ (11 มิ.ย.) นี้ ชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่งจะต้องมีการอพยพหรือไม่ นายเกื้อกูลกล่าวว่า มีบางส่วนที่จะต้องมีการรื้อย้ายบ้านเพื่อความปลอดภัย เมื่อถามต่อว่า เงินชดเชยในส่วนของค่าปลา รัฐบาลจะใช้เงินส่วนใดมาช่วยเหลือ เพราะปัญหาดังกล่าวไม่ใช่ภัยพิบัติ นายเกื้อกูลกล่าวว่า อาจจะใช้เงินกองทุนในส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากไม่สามารถใช้เงินของรัฐได้ เพราะเหตุการณ์เป็นเพราะความประมาทซึ่งมีผู้ผิดที่ชัดเจน
