xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์”ปราศรัยใหญ่เชียงใหม่ อ้างประเทศต้องการคนบริหารไม่ใช่เล่นการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ยิ่งลักษณ์” กลับบ้านเชียงใหม่ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์-กู่บรรพบุรุษต่อด้วยเดินสายพบชาวบ้านก่อนปราศรัยหาเสียงที่สนามกีฬา 700 ปีช่วงเย็น บอกประเทศไม่ต้องการคนเล่นการเมืองแต่ต้องการคนมาบริหารจัดการ ด้านแกนนำพรรคพาเหรดหาเสียงเพียบ “ณัฐวุฒิ” ชี้ไม่ต้องสนใจดีเบต ยันอยู่เฉยๆ ก็ชนะปชป.แล้ว อ้อนคนเสื้อแดงให้อดทน อีกไม่นานความยุติธรรมบังเกิด ส่วน “เฉลิม” ยันเดินหน้านิรโทษกรรม “ทักษิณ” แน่

วันนี้ (21 พ.ค. 2554) ที่โรงยิมเนเซียม 2 สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี พรรคเพื่อไทยได้จัดการปราศรัยใหญ่ขึ้น โดยมีว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบแบ่งเขตของจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน รวมถึงผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ อาทิเช่นนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อเข้าร่วมงานและร่วมปราศรัยบนเวที

ในงานดังกล่าว สิ่งสำคัญที่ประชาชนจำนวนมากซึ่งเดินทางมารับฟังการปราศรัยให้ความสนใจมากที่สุดได้แก่การปราศรัยหาเสียงเป็นครั้งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อหมายเลข 1 ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา

นางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งปรากฏตัวบนเวทีปราศรัยท่ามกลางเสียงโห่ร้องต้อนรับอย่างกึกก้องของผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวปราศรัยว่าในอดีตตนเคยช่วยบิดา (นายเลิศ ชินวัตร) ออกหาเสียงเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก และต่อมาก็เคยออกหาเสียงเพื่อขอคะแนนเสียงให้กับพี่ชาย (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) เมื่อในปัจจุบันประเทศประสบปัญหาในหลายๆ ด้าน

ตนจึงตัดสินใจอาสาเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน โดยมุ่งหวังที่จะขอโอกาสเข้ามาแก้ไขปัญหาและทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้น ทั้งนี้ตนเองไม่ได้คิดว่าเข้ามาเพื่อเล่นการเมือง เพราะประเทศชาติไม่ได้ต้องการคนที่เสนอตัวมาเพื่อเล่นการเมือง แต่ต้องการคนที่จะเข้ามาบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาของประเทศและพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้า โดยพรรคเพื่อไทยได้คิดและเตรียมที่จะนำเสนอนโยบายต่างๆ ซึ่งพรรคเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศ และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน

ก่อนหน้าการขึ้นปราศรัยบนเวทีในช่วงเย็น นางสาวยิ่งลักษณ์ได้เดินทางตามหมายกำหนดการไปยังสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเริ่มต้นจากการเดินทางมาสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยและขึ้นไปนมัสการที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ก่อนที่จะเดินทางไปยังอำเภอสันกำแพงในช่วงกลางวัน เพื่อเคารพศพพระราชพุทธิมงคล หรือหลวงปู่ทองบัว ตนฺติกโร ณ วัดโรงธรรมสามัคคี ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ครอบครัวชินวัตรให้ความเคารพนับถือ และไหว้กู่บรรพบุรุษ หรือสถานที่เก็บกระดูกของบรรพบุรุษตระกูลชินวัตร ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดด้วย โดยมีประชาชนจำนวนมากรอต้อนรับและมอบดอกไม้ให้กับนางสาวยิ่งลักษณ์และบุตรชายที่เดินทางมาด้วย

นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวกับสื่อมวลชนภายหลังไหว้กู่บรรพบุรุษว่า เชื่อว่าขณะนี้ทุกคนอยากเห็นการเลือกตั้งที่สร้างสรรค์และสงบเรียบร้อย กรณีการประท้วงของสตรีคนหนึ่งต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในการหาเสียงที่วัดไร่ขิง จ.นครปฐมเมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) คงจะเป็นความต้องการที่จะนำเสนอความเดือดร้อนของตนเองมากกว่า ไม่ใช่การตั้งใจก่อความวุ่นวาย และคงไม่ใช่สัญญาณที่แสดงว่าทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์จะประสบปัญหาในการลงพื้นที่ของอีกฝ่าย เพราะตนเองหากมีโอกาสก็อยากจะลงไปภาคใต้เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรคต่อประชาชนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ได้กำชับผู้สมัครของพรรคแล้วว่าให้ระมัดระวังที่จะไม่ทำอะไรผิดจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดไว้

นอกจากนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับสนามเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่นั้น พรรคตั้งเป้าหมายที่จะได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยกทั้งจังหวัด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าบางพื้นที่เป็นเขตที่พรรคต้องทำงานหนักหากต้องการได้รับชัยชนะ แต่เชื่อว่านโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้ครบถ้วนจะมีส่วนทำให้ประชาชนตัดสินใจให้โอกาสผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยเข้ามาทำงาน

ต่อจากนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์และคณะเดินทางต่อไปยังตลาดวโรรสหรือกาดหลวงเพื่อพบปะกับประชาชน โดยมีนางทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดเชียงใหม่ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ร่วมเดินพบปะประชาชนด้วย โดยนางสาวยิ่งลักษณ์และคณะได้รับการต้อนรับจากประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ซึ่งได้มอบดอกไม้ พวงมาลัยและขอถ่ายรูปกับนางสาวยิ่งลักษณ์ตลอดเส้นทาง อีกทั้งมีประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่ชูป้ายสนับสนุนนางสาวยิ่งลักษณ์ชุมนุมอยู่ด้านนอกตลาด บริเวณสะพานลอย

นอกจากนั้นในระหว่างพบปะประชาชนภายในตลาดวโรรส นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้เข้ามาพบนางสาวยิ่งลักษณ์ผู้เป็นอาและร่วมเดินพบปะประชาชนด้วย

สำหรับบรรยากาศการปราศรัยของพรรคเพื่อไทย ที่โรงยิมเนเซียม 2 สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี นอกเหนือจากการปราศรัยของนางยิสาวยิ่งลักษณ์แล้ว แกนนำหลายคนของพรรคเพื่อไทยได้สลับกันขึ้นปราศรัยบนเวที โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคได้กล่าวกับกลุ่มผู้สนับสนุนถึงการจับสลากในวันสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า ขณะที่จับสลากตนอธิษฐานไว้ 3 ข้อ ได้แก่ 1.ขอให้การเมืองที่เป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงได้รับชัยชนะ 2. ขอให้นางสาวยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และ 3. ขอให้พ.ต.ท.ทักษิณได้กลับบ้าน ซึ่งเมื่ออธิษฐานแล้วปรากฏว่า ตนจับสลากได้หมายเลข 1 ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี

ขณะที่นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 9 กล่าวในการปราศรัยว่า หากเลือกพรรคประชาธิปัตย์นั้นคงไม่ใช่การก้าวต่อไป แต่จะเป็นการก้าวลงเหว ต่างกับพรรคเพื่อไทยที่ได้เตรียมนโยบายต่างๆ ที่จะสร้างความสุขให้กับประชาชน

สำหรับการโต้วาทีที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องนั้น ตนมองว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตาม พรรคเพื่อไทยสนใจแต่การลงพื้นที่และนำเสนอนโยบายของพรรคต่อประชาชนมากกว่า อีกอย่างพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบและมีโอกาสจะชนะการเลือกตั้งมากกว่าอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเล่นในเกมที่พรรคประชาธิปัตย์ถนัด ซึ่งก็คือการเอาแต่พูดแต่ไม่ปฏิบัติ

ส่วนกรณีของคนเสื้อแดงที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและบางส่วนยังถูกควบคุมตัวนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่าตนเองก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าพี่น้องทุกคน แต่วันนี้เราต้องนำความเจ็บปวดนั้นมาขับเคลื่อนให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นและเสร็จสิ้นอย่างเรียบร้อยให้ได้ เมื่อประชาชนได้เลือกพรรคการเมือง ที่ตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงแล้ว ความยุติธรรมต่างๆ จะเกิดขึ้นตามมาเอง

ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 3 กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเป็นรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ พรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นจะต้องเข้าบริหารประเทศแทนเพื่อแก้ไขปัญหาที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำไว้ โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ มีประสบการณ์ในการบริหารงานองค์กรธุรกิจให้ประสบความสำเร็จมาแล้ว ต่างจากนายอภิสิทธิ์ที่เคยแต่บริหารประเทศ และยังทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

พร้อมกันนี้ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวด้วยว่าหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะเดินหน้าเรื่องการนิรโทษกรรมให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามการนิรโทษกรรมจะไม่ทำเฉพาะกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียว แต่จะนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบนับตั้งแต่เหตุการณ์การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ทั้งหมด

ทั้งนี้ในการปราศรัยของแกนนำพรรคเพื่อไทย รวมทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์นั้น ได้มีการนำเสนอนโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทยที่ได้นำเสนอต่อสาธารณชนมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยเน้นในเรื่องของการต่อยอดจากนโยบายเดิมในสมัยพรรคไทยรักไทย รวมทั้งกล่าวถึงนโยบายใหม่ๆ อย่างการเพิ่มค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ เพิ่มรายได้ของผู้ที่เรียนจบปริญญาตรี หรือโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ มาสู่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น











กำลังโหลดความคิดเห็น