xs
xsm
sm
md
lg

ป้ายยินดี “ณัฐวุฒิ” ส่อเป็นเรื่องใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - ป้ายแสดงความยินดี “ณัฐวุฒิ” นั่ง รมช.เกษตรส่อเป็นเรื่องใหญ่ศึกสายเลือดศิษย์เก่า ขาว-แดง เบญจมราชูทิศ ศิษย์เก่าเริ่มฮึ่มเตรียมขยับล่าชื่อบุกพบ ผอ.คาดอีกหลายป้ายเตรียมขึ้นทั่วเมือง เตือนอย่าท้าทายความรู้สึกคนไม่เอาเสื้อแดง


วันนี้ (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกระแสที่สร้างความไม่พอใจให้กับศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช จำนวนมาก เนื่องจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ได้ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ เป็นข้อความว่า “โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ขอแสดงความยินดีกับ ฯพณฯณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” โดยหลังจากที่มีการขึ้นป้ายดังกล่าวนั้นได้มีกระแสไม่พอใจของศิษย์เก่าเป็นอย่างมาก ที่ก่อนหน้านี้ได้รวมตัวกันอัปเปหินายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ จากการเป็นสายเลือดขาวแดงไปแล้ว

โดยมีการลงนามในแผ่นป้ายผ้าจำนวนมากซึ่งในขณะนั้นมีทั้งครู อาจารย์ ภายในโรงเรียนได้แสดงความไม่พอใจ ที่นายณัฐวุฒิ ได้แสดงความก้าวร้าวกับผู้ใหญ่หลายคนในบ้านเมือง เมื่อช่วงปี 2553 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันได้มีคณาจารย์ท่านหนึ่งออกมาตักเตือนนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ว่า “หยุดเถอะลูก” และเล่าถึงการพูดคุยกับนายณัฐวุฒิ ในทำนองว่า “อาจารย์เคยเห็นเงินร้อยล้านหรือยัง ผมเคยเห็นแล้วและจับต้องได้ด้วย”

ซึ่งหลังจากนั้นนายณัฐวุฒิ ได้ใช้ประเด็นนี้ตอบโต้อาจารย์คนดังกล่าวบนเวทีปราศรัยว่า อาจารย์คนนั้นได้ให้ตนวิ่งเต้นในตำแหน่งผู้อำนวยการ ส่วนอาจารย์ท่านนั้นได้ยุติการตอบโต้กับนายณัฐวุฒิซึ่งในครั้งนั้นการเตือนนายณัฐวุฒิเป็นครั้งสุดท้าย

โดยล่าสุดนั้นหลังจากที่มีการขึ้นป้ายแสดงความยินดีกับนายณัฐวุฒิ ได้มีการวิพากษ์วิจารย์ถึงการขึ้นป้ายข้อความดังกล่าวหน้าโรงเรียนอย่างกว้างขวาง ซึ่งส่วนใหญ่แสดงความไม่เห็นด้วยเพราะขัดกับความรู้สึกของศิษย์เก่าจำนวนมาก รวมทั้งชาวนครศรีธรรมราช ที่ต้องยอมรับว่า โดยส่วนใหญ่แล้วไม่ชอบวิถีทางและการกระทำของคนเสื้อแดง

นายสุเมธ สอดจิตต์ อาจารย์โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะศิษย์เก่า ร.ร.เบญจมราชูทิศนครศรีธรรมราช รุ่น 25/28 ซึ่งเป็นแกนนำในครั้งนี้กล่าวว่า ในวันจันทร์นี้จะมีการรณรงค์เชิญชวนให้นักเรียน นักศึกษาที่เป็นศิษย์เก่า และปัจจุบัน มาร่วมแสดงพลังในการคัดค้านให้พิจารณาเอาป้ายหน้าโรงเรียนลง

ผมจะเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมในครั้งนี้ช่วยกันเขียนความรู้สึกใส่ลงในกระดาษขนาด เอ 4 พร้อมลงชื่อให้เรียบร้อย จากนั้นในวันที่ 24 ก็จะรวบรวมยื่นให้กับผู้บริหารโรงเรียน บริเวณหน้าเสาธง เพื่อให้น้องๆได้เห็นว่า เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และต้องประกาศเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไร ไม่ใช่ก่อนหน้านี้อับเปหิ แต่มาวันนี้ยกย่องเชิดชู จุดยืนอยู่ตรงไหน แล้วเด็กรุ่นน้องจะเอาแบบอย่างได้อย่างไรอยากให้ผู้บริหารคิดทบทวนให้ดีว่าที่กระทำอยู่นั้นดีหรือไม่

ซึ่งเมื่อวานนี้ เพื่อนครูที่โรงเรียนเมืองได้รับโทรศัพท์จากผู้ที่อ้างว่า เลขา รมว.ศึกษาธิการ โทร.มาเพื่อสอบถามตนเองเป็นใคร สอนวิชาอะไร ดูเหมือนว่าเพื่อนครูของผมจะตกใจมาก แต่สำหรับผมแล้วไม่ตกใจอะไรเลย ผมเป็นครูสอนวิชาสังคม ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม จึงรู้ว่า คุณธรรมและจริยธรรมเป็นอย่างไร เพราฉะนั้นคนที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองอย่าทำเรื่องแบบนี้ อย่ามาข่มขู่ผม อยากรู้เรื่องอะไรก็เจอกันในโรงเรียน” อาจารย์ท่านนี้กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเตรียมจัดทำป้ายแสดงความยินดีกับนายณัฐวุฒิ โดยเป็นป้ายคัตเอาท์ขนาดใหญ่ไปติดยังจุดสำคัญต่างๆ ทั่วเมืองนครศรีธรรมราชอีกหลายป้าย โดยคาดว่าจะมีการติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 วันนี้

อย่างไรก็ตามศิษย์เก่าเบญจมราชูทิศ ซึ่งปัจจุบันรับราชการในระดับบริหารหน่วยงานแห่งหนึ่ง ได้แสดงความเห็นในเรื่องเดียวกันนี้ว่า ผู้บริหารโรงเรียนจะต้องแยกให้ออกว่าอะไรคือการเมือง อะไรคือการรักษาความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของศิษย์ทั้งหลายที่มาจากโรงเรียนที่มีประวัติอันยาวนานแห่งนี้ การจะขึ้นป้ายเพื่ออะไรเพื่อหน้าเพื่อตาของโรงเรียน หรือเพื่อหน้าตาของผู้บริหาร

“ต้องยอมรับว่า คนนครศรีธรรมราช และกล้าพูดว่าเป็นคนส่วนใหญ่ของจังหวัดเสียด้วยซ้ำไม่ชอบวิธีการของคนเสื้อแดง และไม่ชอบการกระทำของนายณัฐวุฒิ “เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” การยุยงเผาเมืองเช่นนี้ไม่ควรออกจากศิษย์เก่าโรงเรียนแห่งนี้ ดังนั้นการที่จะมีการขึ้นป้ายแสดงความยินดีทั่วเมืองนั้นต้องคำนึงถึงความรู้สึกของคนด้วย อย่าท้าทายความรู้สึกของคน มันอันตราย อย่าได้แค่หน้าตาของคนทำป้ายเป็นพอ ความเสียหายจะตามมาอีกมาก คนนครศรีฯ อยู่กันแบบเงียบมานาน ไม่เคยคิดแตกแยก อย่าทำแบบนี้ให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา” ข้าราชการรายนี้กล่าว

“ผมคิดว่า การปลุกปั่นคนไทยด้วยการปั่นหัวประชาชนว่าเป็นพวกไพร่ ทั้งที่สังคมไทยไม่เคยมีไพร่อยู่แล้วทุกคน ทุกครอบครัวมีวิถีทางในการเดิน คนชนบทคนบ้านนอกหาเช้ากินค่ำ มีลูกมีหลานที่ขยันศึกษาเล่าเรียนเป็นใหญ่เป็นโตในประเทศนี้เป็นจำนวนมาก แต่กลับไปยุยงปั่นหัวให้ชาวบ้านสู้จนล้มหายตายจากไปเพียงแค่รู้สึกว่าเป็นคนชั้นไพร่ โดยไม่เป็นความจริงเลย สุดท้ายผลประโยชน์ทั้งทางตรง ทางอ้อมก็ตกอยู่ที่คนปลุกปั่นยุยงทั้งนั้น พ่อแม่ของคนที่ตายมีใครบ้างมานั่งเป็น รมช.เช่นณัฐวุฒิ หรือเป็น ส.ส.เช่นแกนนำทั้งหลาย ส่วนชาวบ้านได้อะไรบ้าง เงินที่เอามาฟาดหัวแล้วเรียกว่าเป็นเงินเยียวยาอย่างนั้นหรือ วิธีการอ้างปลุกปั่นอ้างประชาธิปไตย แล้วจูงจมูกคนไทยให้มีสิทธิแค่กาบัตรเลือกตั้ง นั้นควรจะหมดไปแล้ว นักการเมือง หรือคนที่มีความรู้มีการศึกษาทั้งหลายเราเองจะไปโทษคนที่มาตายมาชุมนุมไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้ เขาไม่มีโอกาสเรียนรู้ เขาจึงถูกคนที่รู้มากกว่านำพาไปอย่างที่เขาต้องการ” ผู้บริหารรายเดิมกล่าวและว่า

ที่ผมไม่อยากเปิดเผยตัวเอง เพราะเดี๋ยวนี้การเมืองแรงมาก ยิ่งใหญ่กันมาก ไม่พอใจข้าราชการคนไหนถึงขั้นข่มขู่โยกย้ายบ้าง รายงานบ้าง ซึ่งข้าราชการคนไหนไม่อยากได้รับผลกระทบเพราะมันไม่คุ้ม เมื่อหลายปีก่อนข้าราชการเป็นผู้ที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายที่มอบกันมาเป็นลำดับ แต่สมัยนี้ข้าราชการเหมือนกับขี้ข้านักการเมือง สั่งแบบบังคับ ไม่ไปรับ ไม่ไปหาก็มีปัญหาถูกกล่าวหาว่าเป็นอำนาจเก่า น่ากลัวมาก เป็นข้าราชการต้องอยู่ใต้อำนาจนักการเมืองเท่านั้นจึงจะอยู่รอดและมีความเจริญก้าวหน้า.
กำลังโหลดความคิดเห็น