มาร์คเดินสายทั่วเมืองชลช่วยลูกพรรคหาเสียงโค้งสุดท้าย‏

ศูนย์ข่าวศรีราชา - “มาร์ค” เดินสายทั่วเมืองชลฯ นำลูกพรรคอ้อนขอคะแนนประชาชนช่วงโค้งสุดท้าย ระบุความปรองดองเกิดขึ้นได้แต่ไม่ใช่การล้างความผิด เชื่อมีการนิรโทษกรรม ทักษิณ ชินวัตร จะทำชาติวุ่นวาย ย้ำผลงงานที่ผ่านมาระบุชัดทำงานเพื่อผลประ โยชน์ส่วนร่วม

ค่ำวันนี้ (22 มิ.ย.2554 ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมลูกทีมชุดใหญ่ ประกอบด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช นายอลงกรณ์ พลบุตร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายสาธิต ปิตุเตชะ เดินทางช่วยลูกพรรคหาเสียง ทั่วจังหวัดชลบุรี โดยเริ่มตั้งแต่ ตลาดหนองมน ถิ่น กำนันเป๊าะ นายสมชาย คุณปลื้ม บ้านบึง พนัสนิคม บางละมุง ศรีราชา และเวทีสุดท้ายขึ้นเวทีปราศรัยที่หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี โดยมีประชาชน ร่วมเข้ารับฟังประมาณกว่า 6,000 คน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า 2 ปีจากการเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ทำงานเพื่อประชาชนมาโดยตลอด และจากจากเข้าไปเป็นรัฐบาลได้เพียง 99 วันก็เดินหน้านโยบายเรียนฟรีจนเป็นรูปเป็นร่างจับต้องได้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชนต่อไปเพราะประชาชนยังไม่มีคำสั่งให้ถอย เมื่อไม่มีคำสั่งให้ถอยรัฐบาลประชาธิปัตย์ก็พร้อมจะลุยงานหนักเพื่อประชาชนต่อไปด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังพร้อมที่จะสานต่อนโยบายเพื่อประชาชนต่อไปทั้งในส่วนของการเพิ่มแรงงานขั้นต่ำ 25 % ภายใน 2 ปี การเพิ่มทุนกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำเพื่อการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย 2.5 แสนคนต่อปี รวมถึงการเพิ่มเงินกำไรจากโครงการประกันรายได้ให้เกษตรกรอีกร้อยละ 25 ด้วยเช่นกัน และในส่วนของภาคตะวันออกที่ผ่านมา ส.ส.สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ คือนายประมวล เอมเปีย ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภาคเกษตรกรรม และภาคประชาชน จนปัจจุบันมีความชัดเจนเรื่องการดำเนินการดังกล่าวเป็นอย่างมาก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาภาคตะวันออกเกิดปัญหาภาคอุตสาหกรรมที่กระทบด้านสิ่งแวดล้อมจนประชาชนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ พรรคประชาธิปัตย์ถือได้ว่าเป็นรัฐบาลแรกที่มีการประสานงานนำเอาทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาตั้งโต๊ะคุยถึงเรื่องแนวทางการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี เพราะปัจจุบันมีการแก้ไขปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศอย่างต่อเนืองอยู่แล้ว

ด้านพรรคเพื่อไทยมีการชูนโยบายการนิรโทษกรรมล้มล้างความผิดให้ ทักษิณ ชินวัตร โดยอ้างถึงความปรองดองของชาติ ซึ่งจากมุมมองส่วนตัวนั้นความปรองดองจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากประชาชนจำนวนมากยังไม่เห็นด้วยต่อการลบล้างความผิดให้ทักษิณ ชินวัตร และไม่เชื่อเป็นอย่างยิ่งด้วยว่าความปรองดองคือการลบล้างความผิด ทั้งนี้หากมีการลบล้างความผิดเกิดขึ้นประเทศไทยจะดินต่อไม่ได้ เพราะจะมีผู้คัดค้านออกมาต่อต้านจนเกิดความขัดแย้งและความวุ่นวายในที่สุด ถ้าหากอย่างเห็นประเทศไทยเดินหน้า ต้องเคารพสิทธิความเท่าเทียมและที่สำคัญคือเคารพต่อกระบวนการทางกฎหมาย

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้นมุ่งมั่นการทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนด้วยความซื่อสัตย์ และไม่มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาแอบแฝง แม้ว่าจะถูกบีบคั้นเรื่องแรงกดดันในหลายด้าน โดย เฉพาะในช่วงเวลานี้ซึ่งเป็นช่วงของการหาเสียงพบว่ามีการถูกก่อกวนและกลั่นแกล้งจากผู้ไม่หวังดีมาโดยตลอด อย่างในจังหวัดชลบุรีเองก็พบว่าป้ายของพรรคประชาธิปัตย์ถูกทำลายให้เสียหายไปอย่างมากมาย แต่ก็ได้ใช้ความอดทน อดกลั้น ใช้สติควบคุม เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงและพยายามเน้นความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคม

ซึ่งต่างจากพรรคเพื่อไทยที่มองแล้วจะหาสาระจากเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะมุ่งแต่เพียงการที่จะก้าวเข้ามาเพื่อแก้กฎหมายนิรโทษกรรมให้กับนายทักษิณ ชินวัตร และการแสดงออกให้เห็นว่าไม่มีแนวคิดเรื่องของความปรองดอง เพราะยังปรากฏรายชื่อของนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธ์ อยู่ในรายชื่อของผู้สมัคร ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร แกนนำพรรค ในฐานะผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ ได้กล่าวเน้นย้ำถึงผลงานของพรรคในโอกาสที่ได้เป็นรัฐบาลมาชี้แจงต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งชี้ว่าการทำ งานภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะมีปัญหาการบีบคั้นจากทั้งเรื่องของสถานการณ์การเมือง และภาวะเศรษฐกิจของประเทศ

โดยจากการทำงานที่ทุ่มเทของทีมงานพรรคประชาธิปัตย์สามารถนำประเทศฝ่าฟันวิกฤติต่างๆมาได้อย่างมีประสิทธิภาพจนประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในหลายด้าน อาทิ เรื่องของปัญหาการว่างงานที่ลดลงเหลือเพียง 1 % ของประเทศ เรื่องของการท่องเที่ยวที่พบว่าประสบความสำเร็จสูงสุด รวมถึงเรื่องของการลงทุนที่มีมูลค่าสูงกว่าหลายยุคสมัยที่ผ่านมา และเรื่องของศักยภาพการพัฒนาเรื่องการค้า การคมนาคม การส่งออก จึงได้อนุมัติงบประมาณดำเนินการในส่วนของการสร้างรถไฟความเร็วสูงหรือไฮสปีดเทรนมายังเส้นทางภาคตะวันออกเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน นอกจากนี้จะมีการพัฒนาในส่วนของพื้นที่แหลมฉบังซึ่งมีท่าเรือน้ำลึกระดับโลกให้เป็น Global City เพื่อเป็นศูนย์รวมของระบบการพัฒนาศักยภาพของจังหวัดชลบุรีต่อไปด้วย