ตาก - ผู้ว่าฯ ตากถึงเวลาใกล้ปิด 3 ศูนย์อพยพชายแดนตากที่เปิดมานานกว่า 25 ปีแล้ว หลังส่วนกลางพยายามให้ UNHCR ลดความช่วยเหลือลงเรื่อยๆ ขณะที่พม่าได้รัฐบาลใหม่ ล่าสุดเริ่มเปิดช่องรับผู้อพยพกลับบ้าน พร้อมแจกที่ดินคนละ 25 เอเคอร์
นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าจะมีการปิดพื้นที่พักพิงผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า ที่ชายแดนไทย-พม่า ประกอบด้วยพื้นที่พักพิงบ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง-พื้นที่พักพิงบ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ และพื้นที่พักพิงบ้านนุโพ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ว่า ขณะนี้มีนโยบายจากส่วนกลางที่ชัดเจนมากขึ้น เกี่ยวกับท่าทีที่จะให้ทางยูเอ็นเอชซีอาร์ ชะลอให้การช่วยเหลือ หรือให้การช่วยเหลือศูนย์อพยพต่างๆ ลดน้อยลง
ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่ดีที่จังหวัดเราเองมีความคิดว่าทางศูนย์อพยพมาอยู่ในพื้นที่จังหวัดตากแล้วไม่ต่ำกว่า 25 ปี ถือเป็นช่วงเวลายาวนาน และได้สร้างผลกระทบในวิถีชีวิตของชาวเขา-พี่น้องตามแนวชายแดน ตลอดจนมีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมค่อนข้างมาก รวมทั้งมีการลักลอบเข้าไปทำงานในพื้นที่ชั้นใน
“ถ้ามีการชะลอการช่วยเหลือ จะทำให้คนศูนย์อพยพต้องกลับไปในภูมิลำเนาของตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่ดี จังหวัดเราก็มีความปรารถนาที่จะให้พวกเขากลับไปสู่ภูมิลำเนาของตัวเองอย่างถาวรต่อไป”
ผู้ว่าราชการจังหวัดตากบอกอีกว่า ทางจังหวัดตากได้เตรียมความพร้อมและรอความชัดเจนจากฝ่ายความมั่นคงว่าจะมีความพร้อมเมื่อไหร่ ซึ่งจังหวัดฯ ได้ติดตามสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด ดูว่าเขาจะมีความพร้อมเมื่อไหร่ อย่างไร และพูดคุยอย่างเป็นทางการว่าเขาพร้อมที่จะรับผู้อพยพให้กลับไปภูมิลำเนาของตัวเองและรับรองความปลอดภัย รวมทั้งให้พื้นที่ทำกินกับชาวกะเหรี่ยงที่พอใจจะกลับคนละ 25 เอเคอร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีของฝ่ายรัฐบาลใหม่พม่า
“ที่ผ่านมาทางจังหวัดก็ได้มีการประสานเป็นการภายในกับชนกลุ่มน้อยในพื้นที่และผู้อพยพซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างน่าพอใจ” ผู้ว่าราชการจังหวัดตากกล่าว