น่าน - เกษตรกรเมืองน่าน ฮือปิดถนน ทวงเงินชดเชยภัยแล้งปี 53 กว่า 150 ล้าน ระบุ ทวงมาหลายครั้ง ไม่ได้ แถมถูก จนท.ตอกหน้า แต่ล่าสุดเมื่อมีข่าวชุมนุมประท้วง กลับมีเงินโอนเข้าบัญชีชาวบ้านดักทางไว้ก่อน
รายงานข่าวจากจังหวัดน่าน แจ้งว่า วันนี้ (25 ก.พ.) เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดจังหวัดน่านกว่า 1,000 คน ได้ชุมนุมหน้าสำนักงานเกษตรอำเภอเวียงสา ปิดถนนสายหลักน่าน-แพร่ หรือทางหลวงหมายเลข 1080 (ช่วงก่อนเข้าตัวจังหวัด ห่างอำเภอเวียงสา 3 กิโลเมตร) ขาออก 1 เลน เพื่อทวงถามเงินช่วยเหลือภัยแล้งปี 53 ที่ยังไม่เข้าบัญชีและเข้าไม่ครบ ขอให้ทางราชการชี้แจงหากยังไม่ชัดเจนก็จะปิดทั้ง 2 เลน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงสา
จากนั้น นายวุฒิไกร กุลกัลป์ไชย ประธานสมาพันธ์ผู้ปลูกข้าวโพดจังหวัดน่าน, นายรัตน์ ครุฑนา รองประธาน แกนนำกลุ่มเกษตรกร ได้ขึ้นกล่าวโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอเวียงสา และอำเภออื่นๆ เรียกร้องให้เกษตรอำเภอและผู้เกี่ยวข้องชี้แจงงบประมาณช่วยเหลือภัยแล้งของเกษตรกรจำนวน 150.72 ล้านบาท ซึ่งยังไม่มีเงินเข้าบัญชีของเกษตรกร 16,372 ราย ทั้ง ๆ ที่ให้หมายเลขบัญชีไปหมดแล้ว และเกษตรกรก็ได้ติดตามทวงถามมาโดยตลอด แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่เกษตรบางคนต่อว่าใส่หน้าเกษตรกร
นายรัตน์ กล่าวว่า เราทวงถามมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2553 ก็ไม่มีคำตอบชัดเจน กระทั่งเกษตรกรเริ่มเคลื่อนไหว และนัดรวมตัวกันในวันนี้ กลับมีการโอนเงินให้ได้เพียงข้ามคืน แต่ก็ยังมีเกษตรกรที่เงินเข้าไม่ครบ และหลายรายที่ยังไม่เข้าจะทำอย่างไร
ต่อมา นายธนาธร ใหม่คำ เกษตรอำเภอเวียงสา ได้เข้าชี้แจงว่า เหตุล่าช้า เนื่องจากต้องตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด เพราะเป็นเงินงบประมาณจำนวนมาก สำหรับอำเภอเวียงสา อนุมัติแล้ว 5,827 ราย จำนวนเงิน 69,628,527 บาท เหลือเพียง 49 รายที่ไม่ได้เนื่องจากเลขบัญชีไม่ชัดเจน บางรายบัญชีปิดไปแล้ว และนำเลขบัญชีคนอื่น เช่น สามี หรือ ภรรยา หรือคนในครอบครัวมาแทน ซึ่งที่จริงแล้วไม่สามารถใช้แทนกันได้ จึงทำให้โอนเงินไม่ได้
ด้าน นายสมศักดิ์ ฟุ่มเฟือย ผู้จัดการ ธ.ก.ส.เวีรยงสา ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้มีเงินจากกรมบัญชีกลางเข้าบัญชีเกษตรกรผ่าน ธกส.เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.พ.54 ที่ผ่านมา โดยเป็นเงินงบประมาณก้อนใหญ่ และทางเจ้าหน้าที่ต้องแยกเข้าแต่ละบัญชีของเกษตรกร ที่มีจำนวนหลายราย ใช้เวลานานล่วงเลยถึงกลางคืนจึงแล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม เกษตรกร ที่มาร่วมชุมนุม ยังติดใจเรื่องข้าวโพดเกษตรกรเสียหายกว่า 10 ล้านบาท แต่ได้รับชดเชยเพียง 3 ล้านบาท และไม่ได้รับข้อมูลไม่เพียงพอ และไม่ตรงกัน ระหว่างการช่วยเหลืองบภัยแล้งไร่ละ 800 บาท และงบประกันราคาไร่ละ 1,000 บาท โดยให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เกษตรกรทราบว่าสามารถได้เงินชดเชยทั้ง 2 อย่าง
ระหว่างที่มีการถกเถียงกัน นายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 จังหวัดน่าน ได้เดินทางเข้าพบเกษตรกร และชี้แจงว่า ได้ประสานงานจนงบเงินเข้าบัญชีแล้วเกือบทั้งหมด ส่วนที่ยังไม่ได้หรือไม่ครบจะได้ประสานและติดตามให้ พร้อมกับยืนยันว่า เกษตรกรที่เดือดร้อนจะได้รับการช่วยเหลือทุกราย ทำให้กลุ่มเกษตรจึงได้สลายการชุมนุมในช่วงบ่ายวันเดียว และก่อนแยกย้ายกลับบ้านได้ย้ำฝากให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ประสานงาน และทำความเข้าใจเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อลดปัญหาเกษตรกรเสียสิทธิ์