xs
xsm
sm
md
lg

แม่ม่ายพิจิตรเหยื่อเงินกู้ดอกโหดซวยซ้ำ-เจ้าหนี้แจ้งจับลูกสาวอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิจิตร - แม่ม่ายลูก 2 เมืองชาละวันยังโชคร้ายไม่สิ้นเคราะห์ หนี้ล้นพ้นตัวจนถูกยึดบ้าน ต้องอาศัยส้วมวัดซุกหัวนอน ล่าสุด ลูกสาววัย 15 ปี ถูกเจ้าหนี้แจ้งจับ หลังเห็นเจ้าหนี้ทวงเงินแม่ออกร้อนแทน ก่อเหตุวิวาทจนเจ้าหนี้บาดเจ็บ ภาครัฐเร่งเข้าช่วยแต่ปัญหาสาหัสทำเอาปวดหัวกันทั่วหน้า

หลังมีการนำเสนอข่าวแม่ม่ายลูก 2 ชาวพิจิตร มีหนี้นอกระบบล้นพ้นตัว จนถูกยึดบ้าน ต้องไปอาศัยส้วมวัดซุกหัวนอน ล่าสุด นายธนชาติ ยอดสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสังคมที่ 35 และเจ้าหน้าที่นิติกรของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องเดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอโพธิ์ประทับช้าง เพื่อติดตามคดีและให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับครอบครัว “คงแหน”

หลังจาก นางสมควร เฟืองสนิท อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ที่ให้เงินกู้แก่ นางสังเวียน คงแหน แม่ค้าขายผักสด สาวใหญ่วัย 60 ปี หน้าวัดโพธิ์ประทับช้าง เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์ประทับช้าง ว่า นางสาวกิ๊ฟ อายุ 15 ปี ที่เป็นบุตรสาวของนางสังเวียน ทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลได้รับบาดเจ็บ ขณะไปทวงถามหนี้สินที่ นางสังเวียน กู้ยืมไปจำนวน 2 หมื่นบาทเพื่อนำไปใช้หนี้นายทุนเงินกู้นอกระบบที่เธอไปกู้ยืมมาอีกทอดหนึ่ง แต่เมื่อไปทวงถามกลับถูกบุตรสาวของ นางสังเวียน คงแหน ลูกหนี้ทำร้ายร่างกาย

คดีดังกล่าวพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์ประทับช้าง ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และในวันนี้ (25 ก.พ.) จะนำตัวนางสาวกิ๊ฟ ไปสอบสวนต่อหน้าพนักงานอัยการแผนกคดีเด็กและเยาวชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะส่งเจ้าหน้าที่นิติกรไปให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายด้วย

ทั้งนี้ นางสังเวียน คงแหน สาวใหญ่ที่เป็นแม่ม่ายลูกสอง ที่ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบยึดทั้งบ้านและที่ดินจนไร้ที่อยู่ต้องไปอาศัยส้วมของวัดโพธิ์ประทับช้าง เป็นที่ซุกหัวนอน เพราะไปกู้เงินนอกระบบดอกโหด และค้ำประกันเพื่อนแม่ค้าด้วยกันเองมูลค่ากว่า 2 แสนบาท ปัจจุบันยึดอาชีพขายผักสดที่หน้าตลาดวัดโพธิ์ประทับช้าง

หลังจากถูกยึดบ้านแล้ว หนี้สินยังไม่จบแค่นั้น ปัจจุบัน นางสังเวียน ยังมีหนี้สินที่กู้ยืมเพื่อนแม่ค้าด้วยกัน รวมถึงยังไปเป็นหนี้ธนาคารออมสินที่ไปกู้ยืมมา เพื่อใช้หนี้เงินกู้นอกระบบทั้งส่วนที่ตนเองกู้ และค้ำประกันเพื่อนแม่ค้าด้วยกันเองที่หลบหนีไป อีกจำนวนกว่า 110,000 บาทเศษ ขณะนี้ก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดถูกทางธนาคาร มีหนังสือมาทวงถามและเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมาย เพราะขาดส่งทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ขณะนี้ศูนย์พัฒนาสังคมที่ 35 และศูนย์ประชาบดีของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้หาแนวทางการสร้างที่อยู่อาศัยหลังใหม่ให้ทดแทน และกำลังหาลู่ทางช่วยเหลือ ซึ่งถือว่าเป็นกรณีศึกษาที่อาการหนักมาก และอยากฝากเตือนพวกชอบกู้หนี้ยืมสินประเภทไม่กลัวดอกให้ดูเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียน และควรจำไว้ว่าถ้ายึดแนวเศรษฐกิจพอเพียงตามคำที่ในหลวงสอน

กำลังโหลดความคิดเห็น