เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์/ เอเอฟพี - ขุนคลังฮ่องกงเตือน การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อเป็นปัญหาใหญ่สุดที่ฮ่องกงกำลังเผชิญขณะนี้ พร้อมกับประกาศจัดหาที่ดินให้แก่ชาวฮ่องกงเพิ่มขึ้น อันเป็นมาตรการล่าสุดในการแก้ไขปัญหาราคาอสังหาริมทรัพย์แพงลิ่ว จนชาวฮ่องกงไม่สามารถหาซื้อได้
นาย จอห์น เจิง จวิ้นหวา รัฐมนตรีคลังของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงกล่าวในการแถลงงบประมาณประจำปีต่อสภานิติบัญญัติฮ่องกง(23 ก.พ.) ว่า เศรษฐกิจแผ่นดินใหญ่และเอเชีย ที่เติบโตแข็งแกร่งมีส่วนหนุนให้เศรษฐกิจของฮ่องกงในปี2553 ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์จากวิกฤตเศรษฐกิจโลกเมื่อปี 2551 และด้วยย่างก้าว ที่รวดเร็วเกินคาด โดยเศรษฐกิจฮ่องกงในปีที่แล้วโตถึงร้อยละ 6.8 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4.0-5.0
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของฮ่องกงยังเผชิญปัญหาท้าทาย ที่สำคัญอีกหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งกำลังพุ่งสูงขึ้น โดยเขาเตือนว่า เงินเฟ้ออาจพุ่งถึงร้อยละ 4.5 ในปีนี้ ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจฮ่องกงจะโตถึงร้อยละ 5.0
นอกจากนั้น การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และแนวโน้ม ที่ราคาอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์ในโลกปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อของฮ่องกง
ขณะเดียวกัน วิกฤตหนี้สินภาครัฐในยุโรปยังไม่หมดไปอย่างสิ้นเชิงจึงอาจทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของฮ่องกงในปีนี้พร่ามัวไปบ้าง นอกจากนั้น เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างเปราะบางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปยังจะทำให้ในปีนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการทดสอบสำหรับการส่งออกของชาติในเอเชียและฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม ข่าวดีสำหรับฮ่องกงก็คืออัตราการว่างงานในฮ่องกงลดลงร้อยละ 1.7 จากช่วงที่มีการว่างงานสูงสุดเมื่อกลางปี 2552 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.8 เมื่อเร็ว ๆ นี้
ขุนคลังฮ่องกงยังได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายภาระของประชาชนในการแบกรับราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ที่แพงขึ้น เช่นการให้เงินอุดหนุนด้านพลังงานและค่าเช่าบ้าน
สำหรับการแก้ปัญหาฟองสบู่ราคาบ้านและที่ดินบนเกาะฮ่องกงนั้น เขาให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการจัดหาที่ดินให้แก่ประชาชนมากขึ้น โดยทางการจะทยอยจัดการประมูลขายที่ดินเป็นลำดับในปีนี้ เพื่อเพิ่มอุปทานและสร้างเสถียรภาพในตลาดอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา คณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้ประกาศมาตรการต่าง ๆ เพื่อสกัดราคาอสังหาริมทรัพย์ ที่พุ่งทะยานบนเกาะ ซึ่งมีประชากรอาศัยกันอย่างแออัด 7 ล้านคนแห่งนี้ อาทิ การขายทอดตลาดที่ดิน และควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคารอย่างเข้มงวด แต่ก็ไม่สามารถสกัดราคาที่ดิน ที่แพงขึ้นได้
ชาวฮ่องกงจำนวนมากถูกบีบให้ต้องซื้อที่อยู่อาศัยราคาแพง หรือไม่มีเงินพอ ที่จะซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง จึงก่อความโกรธแค้นในหมู่ประชาชนบนเกาะฮ่องกง ที่มีสภาพเศรษฐกิจแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา ขณะเดียวกันยังมีเสียงเตือนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟอีกด้วยว่า ให้ฮ่องกงระวังการเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์