เอเจนซี - จอยซ์ เคน อยู่กับผู้หญิงสองคนที่จ่ายค่าเช่าบ้าน ไม่สูบบุหรี่ และรักแมวของเธอ
เคน หญิงม่ายวัย 64 ปี อยู่ร่วมบ้านกับคนแปลกหน้ามา 10 ปี และพึ่งพิงผู้หญิงทั้งคู่ทั้งในเรื่องรายได้และการมีเพื่อนพักพิงทางใจ
เคนเป็นหนึ่งในผู้สูงวัยจำนวนมากขึ้นทั่วอเมริกาที่อยู่ร่วมกับแขกที่จ่ายค่าเช่าบ้านให้ และค้นพบว่าการเป็นเจ้าของบ้านไม่ได้เป็นการต่อลมหายใจด้านเงินๆ ทองๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นการเกื้อหนุนทางจิตใจด้วย
“เพื่อที่จะอยู่ในบ้านหลังเดิมได้หลังหย่า ฉันจำเป็นต้องมีรายได้เพิ่ม” เคนที่ต้อนรับแขกแปลกหน้ามาอยู่ร่วมชายคาแล้ว 7 คน ยังบอกว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ของชีวิตเพราะเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ที่ร่วมแบ่งปันพื้นที่ในบ้าน
ที่นิวเจอร์ซีย์ รูปแบบความสัมพันธ์นี้มีโฮมแชริ่ง องค์กรที่ไม่หวังผลกำไร เป็นตัวกลางเชื่อมโยงเจ้าของบ้าน ที่มักเป็นคนแก่ กับคนที่ไม่สามารถซื้อหรือเช่าบ้านได้ และเต็มใจแบ่งปันพื้นที่ 1 หรือ 2 ห้องในบ้านของผู้อื่น
โฮมแชริ่งให้บริการฟรี แต่เต็มใจรับบริจาค โดยทั้งเจ้าของบ้านและผู้ที่มองหาบ้านจะถูกสกรีนและสัมภาษณ์อย่างละเอียด
“อัตราความสำเร็จของเราสูงกว่าการแต่งงานครั้งแรก” เรอเน เดรลล์ ผู้อำนวยการบริหารโฮมแชริ่ง หนึ่งในองค์กรรูปแบบนี้ที่ปัจจุบันมีอยู่ทั่วไปในสหรัฐฯ บอกและว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ความต้องการทั้งจากเจ้าของบ้านและผู้ที่ต้องการแชร์ที่พักอาศัยเพิ่มขึ้นทุกปี
เฉพาะโฮมแชริ่งมีผู้ต้องการใช้บริการเพิ่ม 19% จาก 1,610 รายในปี 2009 เป็น 1,912 รายเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยผู้ที่ต้องการย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านคนอื่นส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงโสดวัยกลางคนที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน
แพตตี้ มิลาโน วัย 54 ปี กับแม่วัย 80 ปี ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านขนาด 4 ห้องนอนของเฮเลน วัย 87 ปี เมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจากไม่สามารถซื้ออพาร์ตเมนท์เองได้
มิลาโนที่ช่วยทำความสะอาดบ้านทุกครั้งที่มีโอกาส มีรายได้หลักจากบำเหน็จของสามีที่เป็นอดีตนาวิกโยธินที่เสียชีวิตไปแล้ว เธอต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 700 ดอลลาร์สำหรับห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำและครัวที่ใช้ร่วมกับเจ้าของบ้าน
แม้ยอมรับว่าค่าเช่าบ้านเป็นส่วนสำคัญ แต่เฮเลนสำทับว่าการมีเพื่อนอยู่ร่วมบ้านด้วยเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด