“ศศิธารา” โอดเด็กเรียนสายเกษตรกรรมแค่ร้อยละ 5 ทำ วษท.ทั่วประเทศทรุดโทรม ครูหนี การสอนไร้ประสิทธิภาพ สั่งจัดมาตรการเชิงรุก จับมือกระทรวงเกษตรฯ-ส.ป.ก.มอบที่ 3 ไร่ พ่วงบ้านน็อกดาวน์ จูงใจผู้เด็กเรียนเกษตรแบบปฏิบัติจริง ปีการศึกษา 54 คาดช่วยเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนถึงร้อยละ 10
ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีศึกษา (สอศ.) ได้เล็งเห็นความสำคัญของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่ที่ผ่านมา สัดส่วนของผู้ที่เลือกเรียนสายเกษตรมีเพียงร้อยละ 4-5 เท่านั้น ทั้งๆ ที่วิทยาลัยเกษตรฯ เรียนฟรี มีที่พักและอาหารให้ฟรี ในขณะที่ช่างเทคนิคต่างๆ มีถึงร้อยละ 55 ที่เหลือจะเป็น พาณิชยกรรม คหกรรม และศิลปกรรม ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะเรียนเกษตรจบไปแล้วทำงานได้เงินน้อย และอาคารสถานที่ รวมทั้งหอพักของ วษท.ทั้ง 47 แห่งทั่วประเทศอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม ไม่ได้รับการซ่อมแซมมาเป็นเวลานาน เมื่อไม่ค่อยมีคนมาเรียนครู อาจารย์ก็ถดถอย ส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นตนจึงให้ วษท.ร่วมกันจัดนโยบายเชิงรุก โดยจัดกิจกรรม “เปิดบ้าน เปิดใจ” ที่ วษท.สิงห์บุรี ระหว่างวันที่ 11-13 ก.พ.นี้ เพื่อให้นักเรียน ผู้ปกครองและผู้ที่สนใจได้เห็นถึงศักยภาพการเรียนการสอนเกษตรและเทคโนโลยี
น.ส.ศศิธารา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สอศ.จะร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำเรื่องการอบรมเกษตรกรรุ่นใหม่ และเกษตรกรมืออาชีพ โดยมี วษท.สิงห์บุรี เป็นแกนกลาง เมื่อใครมาเรียนเกษตรแบบปฏิบัติจริงแล้ว ทางกระทรวงเกษตรฯ จะมอบที่ดินให้คนละ 3 ไร่ โดยขณะนี้ได้ดำเนินการขอที่ดินจาก สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) แล้ว จำนวน 1,000 ไร่ นอกจากนี้ สอศ.จะสร้างบ้านน๊อคดาวให้อีกด้วย ดังนั้นผู้ที่ตัดสินใจมาเรียนเกษตรในปีการศึกษา 2554 จะได้ทั้งความรู้ บ้าน และ ที่ดินทำกิน จำนวน 3 ไร่ ซึ่งตนเชื่อว่าการจัดกิจกรรมเปิดบ้าน เปิดใจ รวมทั้งการมอบบ้านและที่ดินทำกินดังกล่าว จะเป็นแรงจูงใจให้เด็กสนใจหันมาเรียนเกษตรมากขึ้น เชื่อว่าสัดส่วนของผู้เรียนสายเกษตรกรรมจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 อย่างแน่นอน
