พะเยา - ชาวบ้านกว่า 100 คนเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าฯ แฉบริษัทเอกชน ร่วมมือ จนท.ส.ป.ก.-กำนันเอี่ยวฮุบที่ ส.ป.ก.-ประกาศขายให้ประชาชน ชี้เข้าข่ายผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
วันนี้ (13 ม.ค.) ชาวบ้านในหมู่ 9 และ หมู่ 13 ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา กว่า 100 คน นำโดย จ.ส.อ.พิสิฐ เพียรการ ประธานชมรมสมรภูมิเชียงราย-พะเยา และนายสมบูรณ์ ไกลถิ่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา เพื่อยื่นหนังสือต่อนายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เรียกร้องให้ตรวจสอบการซื้อขายที่ดิน ส.ป.ก. โดยอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จังหวัดพะเยา กำนันตำบลฝายกวาง ร่วมกับบริษัท แซนด์แอนด์ เพิร์ล จำกัด ประกาศขายที่ดิน ส.ป.ก.ในเขตพื้นที่ ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา ให้กับประชาชน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
จ.ส.อ.พิสิฐกล่าวว่า การที่กลุ่มชาวบ้านเดินทางมาในวันนี้ เพื่อร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ตรวจสอบข้อเท็จจริง 4 ข้อด้วยกัน คือ 1.ที่ดินโซน 1 เนื้อที่ประมาณ 1,100 ไร่ ใน ต.ฝายกวาง ที่บริษัท แซนด์แอนด์เพิร์ล จำกัด เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และมีเอกสารสิทธิเป็นโฉนด ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดิน ส.ป.ก.หรือไม่ และหากเป็นที่ ส.ป.ก.ทางการออกเป็นโฉนดได้อย่างไร
2. ขอให้ตรวจสอบกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดพะเยา อนุญาตให้บริษัทครอบครอง ซื้อ-ขายที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 270 ไร่ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ยังได้ร่วมกับนายนาค ไชยสถาน กำนันตำบลฝายกวาง ให้บริษัท แซนด์ แอนด์ เพิร์ล จำกัด ประกาศขายที่ดินจำนวน 270 ไร่ ให้กับประชาชนในราคาไร่ละ 15,000 บาท 3.ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย และ 4.ขอให้ผู้ว่าฯ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 270 ไร่ จัดสรรให้ราษฎรใช้ประโยชน์ เนื่องจากราษฎรไม่สามารถซื้อที่ดินได้ เพราะมีฐานะยากจน
ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้มอบให้นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เข้ารับเรื่องแทน พร้อมทั้งเชิญตัวแทนกลุ่มชาวบ้านจำนวน 5 คนเข้าชี้แจงข้อร้องเรียนต่อนายอนุศร เกียรติปิติ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด และนายบุญสม ทองบุญอยู่ ปฏิรูปที่ดินจังหวัด ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัด พร้อมทั้งระบุว่าเรื่องทั้งหมดทางจังหวัดจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากเป็นที่ ส.ป.ก.จริงก็จะไม่สามารถซื้อขายเปลี่ยนตัวผู้ถือครองได้ ตาม พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ส่วนเจ้าหน้าที่ และกำนันก็จะต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
กรณีที่กลุ่มชาวบ้านอ้างว่า บริษัทเอกชนถือครองที่ดิน ที่คาดว่าน่าจะเป็นที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 1,100 ไร่ ปฏิรูปที่ดินจังหวัด จะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นที่ดิน ส.ป.ก.หรือไม่ รวมถึงให้ทางเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด ตรวจสอบการออกโฉนดว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานก็จะทราบผล
จากนั้นนายนิมิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องและตัวแทนชาวบ้าน ได้ชี้แจงต่อกลุ่มชาวบ้าน โดยระบุว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ชาวบ้านร้องขอ และหากดำเนินการแล้วเสร็จทางจังหวัดจะรีบแจ้งผลให้ประชาชนทราบโดยเร็ว กลุ่มชาวบ้านจึงแยกย้ายกันกลับในเวลาประมาณ 12.00 น.วันเดียวกัน