ชาวศรีสะเกษร้องยกเลิก “ส.ป.ก.” ออกมิชอบทับป่าชุมชน-พบเปลี่ยนมือลอบตัดไม้หวงห้าม

ศรีสะเกษ - คณะกรรมการป่าชุมชน “ป่าสนบุสูง” ต.ศรีสำราญ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ร้องสำนักงาน ส.ป.ก.ศรีสะเกษ ยกเลิกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-10 ออกมิชอบและทับที่ป่าชุมนุม ระบุ เพื่ออนุรักษ์เป็นป่าชุมชนคงความอุดมสมบูรณ์ ไว้ใช้ประโยชน์ร่วมกันสืบต่อชั่วลูกหลาน แฉพบเปลี่ยนมือคนนอกพื้นที่บุกลักลอบตัดไม้ประดู่หวงห้าม

ช่วงบ่ายวันนี้ (22 มี.ค.) ที่บริเวณป่าชุมชนป่าสนบุสูง บ้านหนองทุ่มน้อย ม.3 ต.ศรีสำราญ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นายสุนทร คำเลิศ อายุ 40 ปี ประธานป่าชุมชนป่าสนบุสูงได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ดูจุดที่มีการลักลอบตัดไม้ประดู่ ซึ่งคนที่ตัดอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-10 ได้รับการจัดสรรอย่างถูกต้องจากสำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.ศรีสะเกษ ขณะที่คณะกรรมการป่าชุมชนได้ยื่นคัดค้านการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-10 ดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่าเป็นการออกโดยมิชอบ

โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการป่าชุมชนได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.2 (ต.โสน) หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ (นปม.) จ.ศรีสะเกษ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ให้เข้าตรวจจับและยึดไม้ของกลาง ซึ่งเป็นไม้ประดู่จำนวน 4 ต้น ถูกตัดเรียงไว้จำนวน 28 ท่อน และไม้ทั้งหมดมาไว้ที่ สภ.วังหิน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานสืบหาตัวผู้ที่ตัดไม้จำนวนดังกล่าวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายสุนทร คำเลิศ ประธานป่าชุมชนป่าสนบุสูง กล่าวว่า ในอดีตป่าชุมชนป่าสนบุสูง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่มาถูกยกเลิกเมื่อปี 2532 เพราะเห็นว่าเป็นป่าเสื่อมโทรม ทั้งที่ความจริงแล้วป่าแห่งนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ทำให้ชาวบ้าน ต.ศรีสำราญ ทั้ง ม.2 และ ม.3 คัดค้านประกาศดังกล่าว

ทั้งนี้ เพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นป่าชุมชนให้เด็กรุ่นหลังได้เห็นและใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งในระหว่างที่มีการร้องคัดค้านอยู่นั้น ทางหน่วยงาน ส.ป.ก.ก็เข้ามาจัดสรรที่ดินออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4 -01 ให้ชาวบ้านที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งเข้ามาครอบครอง โดยได้มีการแผ้วถางป่าและปลูกปอแทน

นายสุนทร กล่าวต่อว่า ล่าสุด วันที่ 21 มี.ค.ได้มีบุคคลจากนอกพื้นที่เข้ามาตัดไม้ประดู่ จำนวน 4 ต้น ซึ่งไม้ดังกล่าวอยู่ในเขตที่มีการขีดเส้นสีแดงไว้แล้วว่าเป็นพื้นที่ สปก.ที่ออกโดยมิชอบและทับที่ป่าชุมชน ซึ่งคณะกรรมการป่าชุมชนที่มีทั้งหมด 15 คน กำลังดำเนินการขอยกเลิกที่ ส.ป.ก.แปลงดังกล่าว เพื่อจะได้เวนคืนที่มาฟื้นฟูให้กลับมามีสภาพสมบูรณ์อีกครั้ง เพื่อจะได้ช่วยลดปัญหาโลกร้อนด้วย

“ปัจจุบันพวกเราตระหนักแล้วว่าปัญหาโลกร้อน ภัยแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล นั้น มันเกิดจากสภาพป่าไม้ที่สมบูรณ์ถูกทำลายลงไปมาก เมื่อโลกร้อนทุกคนก็บ่น แต่ไม่คิดถึงสาเหตุว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ พวกเราจึงมีแนวคิดที่จะอนุรักษ์ป่าผืนนี้ไว้ให้อยู่ชั่วลูกชั่วหลานต่อไป” ประธานป่าชุมชนป่าสนบุสูง กล่าว