xs
xsm
sm
md
lg

"ลำไย" สายพันธ์อีดอโป่งน้ำร้อนเป็นที่ต้องการตลาดต่างประเทศ - ยอดส่งออกสูงถึง 5 พันล้านต่อปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดาบตำรวจวชิวิชญ์  จันทร์เขียว  นายกเทศมนตรีตำบลโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวสวนสอยดาว-โป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี สุดปลื้มลำไย ราคาดี เนื่องจาก มีรสชาติที่ต่างลำไยทั่วไปและมีผลผลิตตลอดทั้งปี เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยมีมูลค่าการส่งออกกว่า 5 พันล้านบาทต่อปี

ดาบตำรวจวชิวิชญ์ จันทร์เขียว นายกเทศมนตรีตำบลโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยถึงผลผลิตทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อของอำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว ในขณะนี้ คือลำไย เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ตลาดต่างประเทศต้องการมากที่สุดและไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคชาวต่างประเทศที่ชอบรับประทานลำไยของ ทั้ง 2 อำเภอดังกล่าว

สาเหตุที่ชื่นชอบลำไยโป่งน้ำร้อน-สอยดาว สายพันธุ์อีดอ คือจะมีลักษณะผลใหญ่ ,รสหวานนุ่ม , เนื้อมาก และไม่มีน้ำไหลเปอะเปื้อนมือ ทำให้เป็นที่ถูกใจ โดยเฉพาะประชาชนชาวจีน ส่วนลำไยจังหวัดเชียงใหม่ มีปัญหา คือ น้ำมากเกินไป จึงไม่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค

ดาบตำรวจวชิวิชญ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีเพียง 2 อำเภอ คือ อำเภอโป่งน้ำร้อนและอำเภอสอยดาว ประสบผลสำเร็จ ที่สามารถปลูกลำไยพันธ์ดังกล่าวได้ เนื่องจาก สภาพอากาศที่ชุมชื้น ,สภาพพื้นที่ในการปลูกเป็นหินกรวด คาดว่าจะมีแร่ธาตุในชั้นหินที่เหมาะสมกับลำไยพันธ์ดังกล่าว เพราะพื้นที่อำเภออื่น เช่น มะขาม , ขลุง และอำเภอแหลมสิงห์ไม่สามารถปลูกได้ หรือถ่าหากนำไปเพาะปลูกก็ไม่มีคุณภาพตามความต้องการ

ขณะนี้ผลผลิตลำไยใน 2 อำเภอ มีทั้งสิ้นประมาณ 5 - 60,000 ไร่ ซึ่งผลผลิตที่ออกมาจะมีพ่อค้ามารับซื้อและส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศทันที โดยจะมีพ่อค้ามาสั่งจอง ที่สวนตั้งแต่ลำไยออกดอก มูลค่าส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในปีนี้ถือว่าลำไยมีราคาดี ปัจจุบันราคาหน้าสวน กิโลกรัมละ 35 บาท

โดยจะจัดส่งไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศมาก พ่อค้าคนกลางจะมาจองหรือเหมาซื้อไว้ตั้งแต่ลำไยยังไม่ออกผล

ดาบตำรวจวชิวิชญ์ กล่าวว่า จากความต้องการดังกล่าว ทำให้ขณะนี้ มีเกษตรเริ่มให้ความสนใจและหันมาปลูกลำไยเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมีการปลูกเพิ่มรวมทั้งสิ้นประมาณ 120,000 ไร่แล้ว แต่ผลผลิตยังไม่ได้เนื่องจากต้นยังเล็ก โดยจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ปี ถึงจะออกผลผลิต แต่ถึงจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ก็ไม่มีปัญหาลำไยล้นตลาดอย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันผลผลิตก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในประเทศจีนอยู่แล้ว เนื่อวงจากสามารถส่งออกไปขายได้เพียงแค่ 2 มณฑลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ทางเกษตรกรเอง ก็ต้องการขยายพื้นที่ในการทำสวนลำไย แต่ติดปัญหา ในที่ดินซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดิน สปก.4-01 ดังนั้นจะไม่สามารถนำที่ดินไปค้ำประกันหรือเข้าสู่ธนาคาร เพื่อนำเงินทุนมาปลูกลำไยได้ เนื่องจากจะต้องใช้เงินลงทุนสูงในช่วงแรกๆ โดยเรื่องนี้หากได้รับการสนับสนุนหรือการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ พื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อนและสอยดาว จะกลายเป็นแหล่งปลูกลำไยที่มีชื่อเสียงของประเทศอย่างแน่นอน “ดาบตำรวจวชิวิชญ์ กล่าว

ดาบตำรวจวชิวิชญ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากลำไยแล้ว ที่โป่งน้ำร้อน ยังมี ลิ้นจี่ สายพันธ์ค่อม ซึ่งมีรสชาติ ที่ดีและ มีชื่อเสียงเช่นกัน และที่สำคัญ มีผลผลิตตลอดทั้งปี โดยปัจจุบันไม่มีขายในประเทศโดยจะส่งออกต่างประเทศทั้งสิ้น ปัจุบันมีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 2,000 ไร่ ซึ่งขณะนี้เกษตรก็เริ่มที่จะปลูกเพิ่มขึ้น

“ถึงแม้ว่าผลไม้ทั้ง 2 ชนิดของโป่งน้ำ เขาสอยดาวจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด แต่ทางเทศบาล เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จัก ผลไม้ทั้ง 2 สายพันธ์ดังกล่าว ทางเทศบาลจึงต้องการจะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักของคนในประเทศ จึงได้จัดกิจกรรม เทศกาล จันทบุรี ...ชิมฟรี ลิ้นจี่-ลำไย” ซึ่งเป็นผลไม้ท้องถิ่น ให้คนไทยทราบว่า ผลไม้ทั้ง 2 ชนิด มีปลูกที่เมืองจันทบุรี แต่ยังไม่มีจำหน่ายเท่านั้น และในอนาคตถ้ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ก็อาจจะจำหน่ายในประเทศให้คนไทยได้รับประทานบ้าง


กำลังโหลดความคิดเห็น