พิษณุโลก – 2 นักวิชาการดัง “ชัยอนันต์ – ลิขิต” ประสานเสียง เมืองไทยวันนี้ มีวิกฤตการเมือง ขาดจิตวิญญาณประชาธิปไตยที่แท้จริง ย้ำการเมืองไม่ใช่แค่หย่อนบัตรเลือกตั้ง ที่กลายเป็น “การลงทุนทางธุรกิจ” ส.ส.แต่ละคนต้องลงทุน 70 ล้าน และเป็นจุดเริ่มต้นการถอนทุนผ่านกฎหมาย-นโยบาย ไม่ใช่แค่ฉ้อราษฎรบังหลวงธรรมดา ชี้การตัดสินคดี 7.6 หมื่นล้านเป็นเรื่อง “ความถูก ความผิด”
เมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ก.พ.53) ที่โรงแรมท๊อปแลนด์พลาซ่า คณะสังคมศาสตร์ ม.นเรศวร จ.พิษณุโลก ได้จัดเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ “การขับเคลื่อนการศึกษาของสังคมไทยในบริบทการปกครองท้องถิ่นและการเมือง”โดยมีวิทยาการชื่อดัง คือ ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ/อดีตผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย และ ศ.ลิขิต ธีรเวคิน นักวิชาการรัฐศาสตร์และอดีตนักการเมือง โดยมี ศ.สุจินต์ จินายน อธิการบดี ม.นเรศวร ให้การต้อนรับ ท่ามกลางผู้ฟังไม่ต่ำกว่า 500 คน
ศ.ลิขิต กล่าวว่า ปัญหาวันนี้ เริ่มจากประเทศไทยต้องเลือกตัวแทน แต่ไม่ใช่เลือกตั้ง สิ่งที่เห็นวันนี้ แค่ พิธีกรรม หรือ หย่อนบัตรเท่านั้น คำว่า ประชาธิปไตยมีมากกว่าคำว่า เลือกตั้งหย่อนบัตร ส.ส. วันนี้ จึงต้องลงทุน 70 ล้านบาทต่อ 1 ที่นั่ง นี่คือ การประกอบธุรกิจ เป็นที่มาของการตั้งรัฐบาล เปลี่ยนตำแหน่ง ข้าราชการประจำโดยนักการเมือง การเป็น ส.ส.หมายถึงจุดเริ่มต้นของรัฐมนตรี จากนั้นค่อยใช้งบจัดซื้อ จัดจ้าง ชักเงิน 30-40 %เข้ากระเป๋าตัวเอง จะเห็นได้ว่า มักจะมีอภิมหาโปรเจกต์ออกมาเรื่อย ๆ
ศ.ลิขิต กล่าวต่อว่า วันนี้ประชาธิปไตยบ้านเรามีปัญหา อนาคตในส่วนภูมิภาค ต้องรวมเป็นกลุ่มจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด มีหน้าที่คอยประสานนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเท่านั้น
และวันนี้(26 ก.พ.)ประเทศไทยจะมีคำตอบให้กับสังคม ประเด็นก็คือ ยอมรับและทำได้หรือไม่ ออกหัว ออกก้อย คนไทยจะอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ นี่คือ ทางอยู่รอดของคนไทย ทางออกคำวินิจฉัยของศาล หากเริ่มผิดก็ผิดตลอด ทุกอย่างรวนหมด องค์กรอิสระรวนหมด จิตวิญญาณจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
“วันนี้สังคมไทยขาดจิตวิญญาณ ส่วนแนวทางสมานฉันท์ คือ การนั่งลงคุยกัน ไม่มีฝ่ายใดถูก ฝ่ายใดผิด วันนี้เชื่อว่า ศาลไทยมีความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม การตัดสินคดี 7.6 หมื่นล้าน วันนี้ใช้ระบบไต่สวน ทั้งผู้ร้องให้ผู้ค้านมีสิทธิ์โต้ ผลคำพิพากษาออกมาอย่างไร ค่อยว่ากันใหม่” ศ.ลิขิต กล่าว
ขณะที่ ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช กล่าวว่า ประชาธิปไตยในเมืองไทยใช้เงินมาก เป็นการลงทุน เสียดายที่ใช้ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ กลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุน กลายเป็นทำธุรกิจการเมืองไป การเมืองแย่งชิงทุนงบประมาณ การตั้งงบประมาณไว้มากๆก็เพื่อแย่งชิงเงินกัน
ศ.ดร.ชัยอนันต์ ย้ำว่า คนไทยวันนี้ ไม่มีกิจกรรมทางการเมือง พรรคการเมืองไม่ทำกิจกรรม มองแค่ การหย่อนบัตร กิจกรรมทางการเมืองเริ่มเมื่อตุลาคม 16 หลังจากนั้นไม่มีกิจกรรมทางการเมือง กระทั่งปี 35 รัฐบาลสุจินดา มีการเคลื่อนไหว ครั้งเดียวก็จบ ทำให้คนไทยยุคนี้ ไม่มีประสบการณ์ร่วม
ปัจจุบันนักการเมืองได้ยกระดับการโกงกิน ไม่ใช่เพียงแค่ฉ้อราษฎร์บังหลวงธรรมดาๆ กลายเป็นว่าอาศัยกฎหมาย หมายความว่า แก้กฎหมายเพื่อเอื้อผลประโยชน์ ทำนโยบายที่เอื้อประโยชน์ ทำให้มีความซับซ้อนมากขึ้น มองเห็นลำบากมากขึ้น นำไปสู่การเสื่อมโทรมทางการเมืองมากกว่าพัฒนาทางการเมือง แต่การโกงในระดับท้องถิ่นตรวจสอบได้ง่ายกว่า ไม่ว่า อบจ.หรือเทศมนตรี
“คำตัดสิน เรื่องการยึดทรัพย์ ไม่ใช่สีเสื้อว่า แดงหรือเหลือง แต่เป็นเรื่องความผิด ความถูก ผมเชื่อมั่นใจในศาลยุติธรรม เพราะศาลใช้ระบบไต่สวนไม่ใช่ระบบกล่าวหา ทั้งนี้ผู้ร้อง ผู้คัดค้านมีสิทธิ์คิดเห็นต่าง สามารถคัดค้าน แต่ศาลมีหลักฐาน และข้อมูลพอ ขอให้ทุกคนฟังศาล เชื่อว่าไม่มีอะไร” ศ.ดร.ชัยอนันต์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นงานเสวนา