ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ภาคีคณาจารย์ –นักศึกษา ม.ราชภัฎโคราช สุดทนออกแถลงการณ์ต้านแก้ไข “รธน.50” พร้อมประณามแก๊งซากเน่าทางการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล ไร้ยางอายไม่ยอมรับผลแห่งกรรมชั่ว-ไม่เห็นหัวปชช. 14 ล้านเสียงและไม่เคารพศาลตัดสิทธิ์ 5 ปี สุมหัวดิ้นพล่านแก้รธน.เพื่อตัวเองสร้างปัญหาขัดแย้งรุนแรงในชาติ จี้ยุติพฤติกรรมจับ “รธน.” เป็นตัวประกันชักนำไปสู่การทำลายล้างระบอบปชต.อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
วันนี้ (24 ม.ค.53) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มภาคีคณาจารย์ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา นำโดย ผศ.ดร.สามารถ จับโจร หัวหน้าโปรแกรมทัศนศิลป์ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ , อ.ธนะชัย พรหมรัตน์ , อ.วนัด อ่างสุวรรณ , อ.สุวรรณ ชุมพล และ อ.กิตติชัย ตรีรัตน์วิชชา ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ แสดงจุดยืนคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (รธน.) พ.ศ.2550 และประณามนักการเมืองถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี จากคดียุบพรรคการเมือง ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
โดยสาระสำคัญของแถลงการณ์ ระบุว่า สืบเนื่องจากการพยายามออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์เว้นวรรคทางการเมือง เช่น นายบรรหาร ศิลปะอาชา ,นายเนวิน ชิดชอบ , นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ฯลฯ โดยมีเป้าประสงค์ต้องการแก้ รธน. 2 มาตราคือ 1. มาตรา 94 ในเรื่องระบบเขตเลือกตั้ง ให้เป็นแบบเขตเดียวเบอร์เดียว 2. มาตรา 190 อันเป็นบทบัญญัติในเรื่องการทำหนังสือสัญญาข้อตกลงใดกับนานาประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ ที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงเศรษฐกิจ สังคม มีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุนหรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา
ทั้งนี้การพยายามแก้ไขรัฐธรรม 2 มาตราดังกล่าวในครั้งนี้ ภาคีคณาจารย์และนักศึกษาฯ เห็นว่า ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติเลย แต่กลับเป็นการแก้เพื่อตัวเองและผลประโยชน์ของนักการเมืองทั้งสิ้น และไม่มีหลักประกันใด ๆว่าจะแก้ไขวิกฤตการณ์ของชาติได้ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ,การเมือง และการชุมนุมปกป้องนักโทษหนีคดีของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่อาจลุกลามบานปลายเป็นปัญหาใหญ่ที่รุนแรงทั้งภายในและภายนอกสภาฯได้
ประการสำคัญการแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 2 ประเด็นนี้ นอกจากไม่สามารถสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นและไม่สามารถคลี่คลายความขัดแย้งของปัญหาชาติบ้านเมืองได้แล้ว ยังเป็นการตบหน้าไม่เห็นหัวพี่น้องประชาชนทั่วประเทศกว่า 14 ล้านเสียง ที่ลงประชามติรับรองรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ฉบับนี้ด้วย
ฉะนั้นภาคีคณาจารย์ นักศึกษาฯ จึงขอเรียกร้องและประณามการเคลื่อนไหวของนักการเมืองที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมเพื่อตนเองและพวกพ้อง ดังนี้
1. เรียกร้องให้ผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตามคำพิพากษาได้หยุดเคลื่อนไหว และแสดงบทบาททางการเมืองหรือกิจกรรมทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อเป็นการให้เกียรติกระบวนศาลยุติธรรมและเคารพในหลักนิติรัฐ รวมถึงศักดิ์ศรีพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
2. เรียกร้องให้ซากเน่าทางการเมืองเหล่านี้เคารพในสิทธิ์และเสรีภาพของพี่น้องประชาชนที่ลงมติรับรองรัฐธรรมนูญ 2550 กว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ
3. เรียกร้องให้ผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองได้โปรดปล่อยวางในเรื่องของอัตตา รัก โลภ โกรธ หลง ชำระจิตใจอคติ อาฆาตพยาบาท หมั่นทำกรรมดี หยุดพฤติกรรมที่จะพยายามจี้จับรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำชำเรารัฐธรรมนูญ ชักนำไปสู่การทำลายล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด
4. เรียกร้องให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศออกมาประณามการกระทำของนักการเมืองและบุคคลผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเหล่านี้ ให้หยุดกระทำการที่อุกอาจต่อศักดิ์ศรีของพี่น้องประชาชนโดยไม่เห็นกระบวนการยุติธรรมอยู่ในสายตาและไม่พยายามยอมรับจากผลกรรมชั่วของตัวเองที่ก่อขึ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์เข่นฆ่าประชาชน 7 ตุลาคม 2551 หรือ 7 ตุลาทมิฬ รอยเลือดและคราบน้ำตายังติดตาฝังใจพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2550
และ 5. ขอคารวะและแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพี่น้องประชาชนที่บาดเจ็บเสียชีวิตทุกท่าน ที่มีอุดมการณ์มุ่งมั่นปกป้องรักษาความถูกต้องยุติธรรมให้เกิดขึ้นแก่สังคมไทย เพื่อดำรงสถานะของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้ยั่งยืนสืบไป