พิจิตร - รมต.แรงงาน มั่นใจ “พ.ร.ก.-พ.ร.บ.กู้ 8 แสนล้าน” ผ่านฉลุย ย้ำไม่สน “ทักษิณ” โฟนอิน
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมต.แรงงาน ได้ให้สัมภาษณ์ที่ จ.พิจิตร ถึงเรื่องพระราชบัญญัติกู้เงิน 8 แสนล้านที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ว่า ถือเป็นเรื่องจำเป็นเนื่องจากรัฐบาลจะต้องมีเงินบริหารจัดการประเทศ ซึ่งที่จริงแล้ว เปรียบเสมือนการขอวงเงินเอาไว้สำรองในมือ ซึ่งยังไม่ได้ใช้ แต่มีไว้เพื่อพร้อมใช้ได้ทันทีเท่านั้น รองรับแผนอนาคต 3 ปีข้างหน้า ให้รัฐบาลสามารถสร้างโปรเจกต์ การจ้างงาน และสร้างความมั่นให้แก่นักลงทุนชาวต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนได้ อันจะทำให้ธุรกิจไตรมาส 2 กระเตื้องขึ้น สังเกตได้จากขณะนี้ได้มีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลชัดเจนในไตรมาสที่ 3 และ 4 จึงเชื่อมั่นได้ว่าในการเปิดการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาพระราชบัญญัติเงินกู้ จะต้องให้การสนับสนุนแน่นอน แต่อาจจะมีบ้างที่บางคนมีความคิดขัดแย้ง ซึ่งก็ต้องยอมรับในความคิดของบุคคลนั้นๆ แต่อย่าไปอคติหรือปรักปรำว่าคนเหล่านั้นคิดไม่ดีไม่ชอบต่อประเทศชาติ
นายไพฑูรย์ยังตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวที่ว่า กรณีทั้ง ส.ส., ส.ว.ในรัฐบาลชุดนี้อาจจะถูก กกต. ชี้มูลความผิดเรื่องการถือหุ้นต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ว่า ยอมรับว่ามีผลกระทบในจำนวน ส.ส. แต่ในส่วนของคณะรัฐมนตรีคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะก่อนหน้านี้บรรดาคณะรัฐมนตรีก่อนยื่นบัญชีทรัพย์สิน ทุกคนได้ขายหุ้นทิ้งหมดแล้ว แม้แต่ตัวเองก็ยอมรับว่าเคยถือหุ้นเช่นกัน แต่ได้ปฏิบัติถูกต้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ผลกระทบอาจเกิดขึ้นกับ ส.ส. แต่ถ้าเป็นระบบบัญชีรายชื่อ ก็จะมีการเลื่อนลำดับขึ้นมา แต่ ส.ส.ในเขตพื้นที่ถ้าจำเป็นที่ทางพรรคก็ต้องเตรียมหาผู้สมัครลงในพื้นที่
ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่ยุติ ต้องขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญที่จะต้องวินิจฉัยว่าเจตนาของรัฐธรรมนูญนั้น เกี่ยวกับผูกขาด ตัดตอนหรือไม่ และต้องดูว่าผู้ที่ถือหุ้นสามารถใช้อำนาจไปปั่นหุ้นได้หรือไม่ ตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่ที่ศาล
ต่อข้อซักถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังมีการโฟนอินเข้ามาปลุกกระแสเป็นระยะๆ นายไพฑูรย์ ตอบว่า เรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของ กกต. ส่วนในฐานะที่เป็นรัฐบาลจะไม่เอาเรื่องเช่นนี้มาเป็นอุปสรรคในการบริหารประเทศ รัฐบาลภายใต้การนำของนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะต้องเร่งสร้างศรัทธา สร้างงานโดยใช้งบประมาณ 8 แสนล้านที่จะขอผ่านสภาฯ ในวันนี้ โดยจะไม่เลือกปฏิบัติว่าประชาชนกลุ่มนั้น ศรัทธาต่อพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ โดยจะวัดกันที่ผลงาน ซึ่งถ้าได้บริหารประเทศจนครบเทอมก็จะเห็นผลงานที่เด่นชัด
“การเลือกตั้งครั้งหน้าขึ้นอยู่กับผลงานที่นำเสนอออกไป ดูแล้วเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินนั้นไม่น่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่จะทำงานทุกอย่างที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติเท่านั้น”
