xs
xsm
sm
md
lg

การกลับมา (อีกครั้ง) ของนักลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ ตลาดทุนไทยในสายตาต่างชาติ
บริษัท เน็กซ์วิว (ประเทศไทย) จำกัด

ผมคงต้องบอกว่าบรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้ เปรียบเหมือนช่วงลมพัดหวนระยะสั้นๆ ที่นักลงทุนหลายคนเฝ้ารอ หลังจากผ่านช่วงที่แห้งแล้ง (อดอยาก) มานาน อันเนื่องมาจากสถานการณ์บ้านเมือง และปัจจัยภายนอกประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อการลงทุนสักเท่าไหร่ กอปรกับวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลก ที่สร้างความหวั่นไหวต่อความเชื่อมั่นสำหรับนักลงทุน ดังจะได้เห็นตามภาพข่าวอยู่บ่อยครั้ง เช่น การปลดพนักงานของบริษัทฯ ขนาดใหญ่ระดับโลก ยันมาถึงบริษัทขนาดเล็ก เช่น SME ในบ้านเรา ก็หนีไม่พ้นวัฐจักรนี้ เช่นกัน

ความรู้สึกที่สัมผัสได้ คือ เมื่อตลาดหุ้นเริ่มดีขึ้น มหกรรมปั่นหุ้น ก็จะเกิดขึ้นทันที ดังจะเห็นได้จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นต่ำสิบ (ราคาต่อหุ้น น้อยกว่า 10 บาท) หลายตัว ที่มีการไล่ซื้อ จนราคาวิ่งไปไกลจากจุดเริ่มต้นมากพอสมควร แต่ถ้าใครมีประสบการณ์น้อย และไม่เข้าใจจังหวะ หรือสัญญาณทางเทคนิค ก็มักจะขาดทุนกันเป็นแถว

รูปที่ 1 การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของ YNP แสดงให้เห็นถึงจุดขายที่ 1.27 บาท โดยมีการวิเคราะห์ล่วงหน้ากว่า 1 สัปดาห์ โดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลัก (ข้อมูลประกอบจากเว็บไซต์ www.technicalday.com)

รูปที่ 2 การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของ S50CC แสดงให้เห็นเป้าหมายอยูที่ 383 จุด และ 420 จุด ตามลำดับ โดยมีการวิเคราะห์ล่วงหน้ากว่า 1 สัปดาห์ โดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลัก (ข้อมูลประกอบจากเว็บไซต์ www.technicalday.com)

ผมได้มีโอกาสไปเดินเล่น เพื่อเยี่ยมชมงาน มหกรรมการเงิน ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติฯ เมื่อช่วงหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยความคิดเห็นส่วนตัวมองว่า นักลงทุนหรือ ผู้สนใจ ในโซนของทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ผูกขาดเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับทางผู้จัดงาน ค่อนข้างบางตาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบกับโซนเงินกู้ (สร้างหนี้สิน) ซึ่งอาจเป็นเพราะกระแสลมพัดหวนที่ว่ามานี้ ยังอาจมีน้ำหนักไม่มากพอ อันเนื่องมาจากปัญหาภาพรวมทางเศรษฐกิจโลกยังไม่ได้รับการเยียวยาและแก้ไขให้คลี่คลายลงไป ส่วนอีกประเด็นที่ทำให้การปรับตัวของดัชนีบ้านเรายังไปได้น้อย ก็เป็นเพราะนักลงทุนส่วนหนึ่งมักจะอ้างอิงแนวโน้มของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศเพื่อนบ้านประกอบการซื้อ-ขายอยู่เป็นประจำ ทำให้นักลงทุนหลายกลุ่มยังไม่มั่นใจมากนักเพราะดัชนีตลาดเพื่อนบ้าน ก็ออกอาการไม่แพ้กัน จะเห็นได้จากดัชนี SET50 ที่ไปค้างไว้ที่ 383 จุด ซึ่งถือเป็นแนวต้านที่มีนัยสำคัญ ตามที่ผู้เขียนในทำการวิเคราะห์เอาไว้เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 52 ในเว็บไซต์ www.technicalday.com หัวข้อ เกาะกระแสการลงทุน ที่มีการพยากรณ์โดยอาศัยปัจจัยทางเทคนิค เพื่อหาแนวต้าน (Resistance) การเคลื่อนไหวของสัญญา SET50 Index Futures

ปัญหาของนักลงทุนโดยส่วนใหญ่คือ ไม่ทราบว่า เมื่อไหร่ จะสามารถเข้าตลาดได้ (Entry Point) และเมื่อไหร่ สมควรที่จะออกจากตลาด (Exit Point) ได้ โดยสามารถหลีกเลี่ยงภาวะขาดทุนกำไร (เงินต้น) ได้อย่างใกล้เคียงกับมืออาชีพ โดยไม่ทำให้กำไรที่ได้สูญเสียไปมากนัก เพราะถ้าพึ่งพาเฉพาะหลักทางด้านปัจจัยพื้นฐานแต่เพียงอย่างเดียว และประกอบกับสายป่านของเงินลงทุนที่ไม่ยาวเพียงพอ ก็รังจะมีแต่ขาดทุน ยากที่จะได้กำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำ

โดยส่วนตัวผมมองว่า นักลงทุนในบ้านเรายังเหมาะกับการซื้อ-ขาย แบบเก็งกำไร มากกว่าลงทุนระยะยาว อันเนื่องมาจาก จำนวนเงินลงทุนที่ค่อนข้างน้อย ความจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน (หมุนเงิน) ในเวลาอันสั้น ทำให้ไม่สามารถถือหุ้นได้ยาวนานพอ ทำให้กลยุทธ์ที่เหมาะสม ก็น่าจะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น อาจเป็นภายในวัน หรือระหว่างวัน ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนค่อนข้างสูง เหมือนเช่นปัจจุบันนี้ แต่ปัญหาก็อาจย้อนกลับมาที่เดิมคือ พื้นฐาน ความรู้ ความเข้าใจ ในแง่ของการเก็งกำไรของนักลงทุนโดยส่วนใหญ่ยังน้อยอยู่ ทำให้ปัญหาที่ว่ามานี้ เป็นจุดกำเนิดของความเสี่ยง ที่จะสูญเสียเงินลงทุน ในทางกลับกัน นักลงทุนระยะยาว ก็น่าที่จะทำความเข้าใจเรื่องการวิเคราะห์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคมาเป็นองค์ประกอบด้วย เพื่อช่วยให้สามารถหาจุดเข้าซื้อได้อย่างเหมาะสม โดยได้หุ้นที่ราคาไม่สูงมากจนเกินไป และไม่ต้องรอนานกว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้นอีกครั้ง

จากปัญหาดังที่กล่าวไปข้างต้น ผมใช้เวลาประมวลและเรียบเรียงเพื่อนำมาหาต้นตอของปัญหาเพื่อที่จะได้หาแนวทางในการแก้ไขได้อย่างถูกต้อง ซึ่งบทสรุปของผมก็คือ การจัดงานสัมมนาที่รวบรวมความรู้ด้านการลงทุน และการวิเคราะห์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคให้แก่นักลงทุนในทุกระดับความรู้ โดยนักลงทุนและผู้สนใจสามารถเลือกหัวข้อ และเนื้อหาได้ตามความสนใจของตนเอง ซึ่งถ้านักลงทุนสนใจ ก็สามารถโทรมาสำรองที่นั่งงานสัมมนาดังกล่าว ภายใต้ชื่อ “Technical Day โอกาสการทำกำไรในทองคำ” ในวันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 52 นี้ ตั้งแต่เวลา 9:00 – 17:00 น. งานนี้ลงทะเบียนฟรี พร้อมสิทธิประโยชน์สำหรับนักลงทุนมากมาก เช่น ผู้ลงทะเบียน จะได้รับ โปรแกรม NextVIEW Advisor (สุดยอดโปรแกรมวิเคราะห์ทางเทคนิค) มูลค่า 1,000 บาท (พร้อมฝึกอบรมฟรี อีก 3 ชั่วโมง) พร้อมกันนั้น ยังได้รับส่วนลด หนังสือ “Gold Futures ฉบับนักเก็งกำไร” จากราคา 150 บาท เหลือเพียง 50 บาท (พร้อมลายเซ็นต์จากผู้เขียน) นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยรังสิต ศูนย์สาทรธานี ยังมอบส่วนลด 30% (ย้ำนะครับ ว่า 30%) สำหรับผู้สมัครเรียนต่อระดับปริญญาโท กับทางมหาวิทยาลัย (เฉพาะในงานนี้เท่านั้น) ถ้าต้องการสำรองที่นั่ง หรือ ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ 02 627 3360 – 3 หรือ www.technicalday.com
กำลังโหลดความคิดเห็น