ศูนย์ข่าวขอนแก่น - กระทรวงสาธารณสุขเผย คนไทยสูบบุหรี่มากกว่า 9.5 ล้านคน หรือ 18.5% ของประชากรทั้งประเทศ พบคนสูบบุหรี่กว่า 3.4 ล้านคนหรือ 1 ใน 3 อยู่ในภาคอีสาน กว่า 850,000 คนเสียชีวิตด้วยพิษบุหรี่ ชี้คนขอนแก่นสูบบุหรี่มากที่สุดในอีสานถึง 3 แสนคน วางกลไกนำบุคลากรสาธารณสุขร่วมรณรงค์คนเลิกสูบบุหรี่ ชูโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นเป็นต้นแบบลดเลิกสูบบุหรี่ในภาคอีสาน
วันนี้ (16ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องประชุมชั้น 4 โรงพยาบาลขอนแก่น ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ พร้อมด้วย นพ.ธานินทร์ หอมปลั่ง ประธานกรรมการโรงพยาบาลปลอดบุหรี่ เป็นประธานเปิดตัวโครงการโรงพยาบาลปลอดบุหรี่ 100% และศูนย์กลางการแก้ปัญหาบุหรี่และสุขภาพของภาคอีสาน ที่มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และ สสส.ได้คัดเลือกให้ รพ.ศูนย์ขอนแก่น เป็นต้นแบบโรงพยาบาลนำร่องของโรงพยาบาลต่างๆในภาคอีสาน
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ภายใต้การสนับสนุนของ สสส.เปิดเผยว่า จากการสำรวจของสำนักงานสถิติห่างชาติในปี 2550 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2551 พบว่าทั่วประเทศมีผู้บุหรี่มากถึง 9,500,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 18.5 ของจำนวนประชากรทั้งหมด โดยเฉพาะคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปพบว่า 1 ใน 3 หรือประมาณ 3,400,000 คนอยู่ในภาคอีสาน มีอัตราการสูบบุหรี่มากถึงร้อยละ 36 รองลงมาคือผู้หญิง
ที่น่าสนใจ คือ สถิติการวิจัยของธนาคารโลกยังพบอีกว่า ผู้ที่สูบบุหรี่ในประเทศกำลังพัฒนาที่สูบต่อไปโดยไม่เลิกสูบ อย่างน้อยหนึ่งในสี่จะเสียชีวิตก่อนเวลาอันมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่
ข้อมูลล่าสุดของภาคอีสาน พบว่า 850,000 คน จะเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะที่จังหวัดขอนแก่นมีผู้สูบบุหรี่มากถึง 301,091 คน สามารถประมาณการได้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ถึง 75,272 คน ทำให้การรณรงค์เพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่และการช่วยเหลือสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ จึงเป็นเป้าหมายหลักสำคัญที่จะช่วยลดอัตราความเจ็บป่วยและการตายจากโรคที่มีสาเหตุจากการสูบบุหรี่
“ข้อมูลสำรวจพบว่า คนอีสานจะสูบบุหรี่ 9 มวน/วัน และเสียเงินจากการซื้อบุหรี่เฉลี่ย 9 แสนบาทต่อวัน ซึ่งถือเป็นสถิติมากที่สุดของประเทศไทย จำเป็นอย่างยิ่งต้องทำให้คนอีสานตระหนักถึงการลดละเลิกบุหรี่มากขึ้น สถิติล่าสุดพบว่า 1 ใน 4 ของสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการสูบบุหรี่ ยอดรวมล่าสุดภาคอีสานมีคนสูบบุหรี่มากถึง 850,000 คน จะมียอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 แสนคน” ศ.นพ.ประกิต กล่าว และว่า
ดังนั้น การสร้างภูมิคุ้มกันและแบบอย่างที่ดีในการกระตุ้นให้บุคลากรทางด้านสุขภาพ เริ่มตั้งแต่ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทันตแพทย์ และนักกายภาพบำบัด ถือเป็นบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือให้ผู้สูบบุหรี่ได้เลิกบุหรี่อย่างเด็ดขาด เพราะเป็นบุคลากรมีความรู้ความสามารถให้ผู้เข้ามารับบริการเกิดความเชื่อถือ และจูงใจให้เลิกได้มากที่สุด โดยเฉพาะโรงพยาบาลทั่วประเทศจะมีผู้ป่วยมาขอรับบริการที่แผนกผู้ป่วยนอกถึงวันละ 500,000 คน
เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลควรที่จะเป็นตัวอย่างของการชี้นำพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมให้กับประชาชน และเป็นศูนย์กลางแก้ปัญหาสุขภาพและส่งเสริมสุขภาพของประชาชน รวมทั้งปัญหาของบุหรี่กับสุขภาพด้วย ถึงแม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในโรงพยาบาล แต่การที่จะทำให้โรงพยาบาลปลอดบุหรี่ได้จริงนั้นจะต้องมีระบบ และขั้นตอนการให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง ในรูปแบบของเครือข่าย เชื่อว่าจะช่วยให้คนอีสานเลิกสูบบุหรี่ได้เป็นจำนวนมาก
