xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อบ้าน"เอื้อทารุณ"ศรีสะเกษพุ่งเฉียด 300 ราย - สุดโหดค้างเดือนเดียวยึดบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศรีสะเกษ - เหยื่อบ้านเอื้ออาทรศรีสะเกษ สุดทน อุตส่าห์ขายทองมาชำระหนี้ที่ค้าง 1 งวด กลับไม่ยอมรับ แจ้งบอกเลิกสัญญา ไล่ออกจากบ้านท่าเดียว ขึ้นป้ายร้องนายกฯ"หมัก"ช่วยด้วย ด้านแกนนำระบุลูกบ้านเดือดร้อนพุ่ง 280 ราย ชี้บางรายอยู่มานาน 1 ปี ถูกการเคหะฯ ขู่ซื้อคืนต้องกลับบ้านนอกไปขายควายมาทำสัญญาซื้อขายใหม่เริ่มต้นจ่ายงวดแรกอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ารายงานความคืบหน้า กรณีชาวบ้านหมู่บ้านเอื้ออาทรศรีสะเกษ หมู่ 8 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษกว่า 100 คน ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณีได้รับความเดือดร้อนจากการที่การเคหะแห่งชาติ แจ้งยอดเงินค้างชำระหนี้สูงเกินความเป็นจริงและไม่ตรงกับข้อมูลของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมมีหนังสือแจ้งขู่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมบ้าน และให้ย้ายออกจากบ้าน เป็นจำนวนมากนั้น

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (28 เม.ย.51) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 500/200 หมู่บ้านเอื้ออาทร หมู่ 8 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นางสมหมาย อัสดร อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านได้ทำการติดป้ายประท้วงไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน มีข้อความเรียกร้อง ให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือ เช่น “นายกฯสมัคร ช่วยที ค้าง 1 งวด ทวงเป็นหมื่น” , “ค้าง 1 งวด โดนยึดบ้านให้ขนข้าวของออกทันที” เป็นต้น

โดยมีประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเอื้ออาทรที่ผ่านไปผ่านมา ได้เข้ามาสอบถามและให้กำลังใจนางสมหมาย กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ต่างก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน

นางสมหมาย อัสดร อายุ 60 ปี กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า เดิมนั้นตนได้เช่าบ้านอยู่ภายในตัวเมืองศรีสะเกษ และนับตั้งแต่มีโครงการหมู่บ้านเอื้ออาทร เข้ามาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนมีบ้านเป็นของตัวเอง จึงได้แสดงความจำนงในการเช่าซื้อบ้านเอื้ออาทร และทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ ก็ได้อนุมัติให้เช่าซื้อบ้านหลังดังกล่าวได้ ขณะนั้นตนรู้สึกดีใจมาก และได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านเอื้ออาทรจนถึงปัจจุบัน รวมเวลาประมาณ 1 ปี

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนไม่เคยติดค้างหรือผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ธนาคารค่าเช่าซื้อบ้านเลย จนช่วงหลังมาเศรษฐกิจเริ่มไม่ดี จึงได้ติดค้าง 1 งวด และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับหนังสือจากการเคหะแห่งชาติ จ.สุรินทร์ ว่า ตนได้ติดค้างชำระหนี้เงินกู้ธนาคาร ซึ่งการเคหะฯ เป็นผู้ค้ำประกันการกู้ยืมจำนวน 1 งวด และกำหนดให้นำไปจ่ายภายในวันที่ 30 เม.ย.2551 ไม่เช่นนั้นทางการเคหะแห่งชาติจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมบ้าน และทำการซื้อบ้านคืน โดยให้ตนย้ายออก

ตนจึงได้นำสร้อยคอทองคำซึ่งมีอยู่เส้นเดียวในชีวิต ไปขายเพื่อนำเอาเงินมาจ่าย ปรากฏว่าการเคหะแห่งชาติไม่รับเงินของตน โดยแจ้งว่าได้บอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมบ้านแล้ว และได้ให้ตนย้ายออกจากบ้านดังกล่าว ภายในวันที่ 30 เม.ย.2551 นี้ ซึ่งตนเห็นว่าไม่มีความเป็นธรรมไม่เหมือนคำที่ใช้เรียกหมู่ว่า “เอื้ออาทร” แม้แต่น้อย จึงได้ติดป้ายประท้วงไว้หน้าบ้าน เพื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้อ่าน ซึ่งอาจจะประสบปัญหาเช่นเดียวกับตนก็ได้

ด้านนายนิทัศน์ ภาโนชิต อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 500/341 ประธานกรรมการหมู่บ้านเอื้ออาทรศรีสะเกษ ฝ่ายปกครอง กล่าวว่า จากการที่พวกตนได้รวมตัวเพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากการเคหะแห่งชาติ เมื่อครั้งที่ผ่านมา ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือ หรือให้ความกระจ่างกับพวกตนเลย จึงได้ปรึกษากันว่าจะพากันเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้ความช่วยเหลือต่อไป

นายนิทัศน์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทางการเคหะแห่งชาติได้แจ้งยอดค้างชำระหนี้เงินกู้ธนาคารกับพวกตนไม่ตรงกันกับทาง ธอส. และ เมื่อได้ติดต่อไปยัง ธอส. สาขาอุบลราชธานี ปรากฏว่า ทางธนาคารได้แจ้งยอดให้ทราบกลับเป็นอีกตัวเลขหนึ่ง ซึ่งน้อยกว่าที่การเคหะแห่งชาติแจ้งมาหลายเท่า บางรายยังไม่เคยค้างค่าชำระหนี้เงินกู้เลยเพราะให้หักชำระผ่านบัญชีธนาคาร แต่กลับยังได้รับใบแจ้งค้างชำระหนี้จากการเคหะแห่งชาติ ซึ่งไม่ทราบว่าการเคหะแห่งชาติได้มีการประสานงานกับทาง ธอส.หรือไม่ และเอาข้อมูลมาจากไหน

“ล่าสุดขณะนี้ ทางการเคหะแห่งชาติ ได้มีหนังสือแจ้งบอกยกเลิกสัญญาจะซื้อจะขาย โดยอ้างการค้างชำระหนี้เงินกู้ ธอส.ที่การเคหะฯ เป็นผู้ค้ำประกันเพื่อชำระหนี้เงินกู้แทนหรือซื้อบ้านคืนไปขายให้คนอื่นแล้วรวมกว่า 280 หลังคาเรือน” นายนิทัศน์ กล่าว

นายนิทัศน์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้มีกรณีลูกบ้านเอื้ออาทรศรีสะเกษรายหนึ่ง การเคหะแห่งชาติได้แจ้งจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเพื่อซื้อบ้านคืนและให้ย้ายออก พร้อมยื่นเงื่อนไขหากไม่ย้ายออกก็ให้ทำการเซ็นสัญญาใหม่ ปรากฏว่า ลูกบ้านคนดังกล่าวยอมที่จะอยู่บ้านดังกล่าวต่อไป ด้วยการกลับไปบ้านในชนบทเพื่อนำควายไปขายเอาเงินมาซื้อบ้านคืน และเริ่มต้นจ่ายเงินโดยนับงวดที่ 1 ใหม่ ทั้งที่อยู่มาเป็นปีแล้ว ซึ่งไม่ทราบว่าเกิดกรณีอย่างนี้ขึ้นได้อย่างไร



เหยื่อโหดบ้านเอื้ออาทรศรีสะเกษ ถูกการเคหะฯ แจ้งบอกเลิกสัญญาและขับไล่ออกจากบ้านท่าเดียว  ไร้ทางออกขึ้นป้ายประท้วงหน้าบ้าน ขอนายกฯหมัก หุ่นเชิด ช่วยเหลือ วันนี้ ( 28 เม.ย.)
นางสมหมาย อัสดร อายุ 60 ปี เหยื่อโหดบ้านเอื้ออาทรศรีสะเกษหลั่งน้ำตาขอความเป็นธรรม



กำลังโหลดความคิดเห็น