สกลนคร - จังหวัดสกลนคร ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง 18 อำเภอ เร่งระดมสำรวจความเดือดร้อนแล้วใช้งบประมาณเข้าไปดำเนินการแก้ไข 50 ล้านบาท ระบุปีนี้น้ำในแหล่งน้ำยังพอเพียง พร้อมเตือนเกษตรกรใช้น้ำอย่างประหยัด
นายบุญส่ง วิจักษณบุญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสกลนคร เปิดเผยสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ว่า ปัจจุบันเขื่อนน้ำอูน อำเภอพังโคน มีปริมาณน้ำ 73.95 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าปีที่แล้วซึ่งมีความจุช่วงเดียวกัน 64.90 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนน้ำพุง อำเภอภูพาน มีน้ำปัจจุบัน 73.99 เปอร์เซ็นต์ ปีที่แล้วมีเพียง 68 เปอร์เซ็นต์ หนองหารมีน้ำ 80.07 เปอร์เซ็นต์ ปีที่แล้วมีน้ำ 72 เปอร์เซ็นต์
สรุปภาพรวม ทั้งเขื่อน อ่างเก็บน้ำใหญ่ กลางและเล็ก รวม 33 แห่ง มีน้ำ 73 เปอร์เซ็นต์ โดยปีที่ผ่านมามีน้ำเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงนี้สถานการณ์น้ำยังถือว่าเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภคและการเกษตร
แต่เป็นห่วงเกษตรกรที่ทำนาปรังอาจจะได้รับผลกระทบบ้างและจะต้องจำกัดพื้นที่ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายเพราะอาจจะมีน้ำไม่เพียงพอจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาล หรือจนกว่าจะเข้าฤดูฝน
หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสกลนคร ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติไปแล้วทั้ง 18 อำเภอ 124 ตำบล 687 หมู่บ้าน 43,948 ครัวเรือน ประชากรเดือดร้อน 189,051 คน ความเสียหายขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจ สำหรับการใช้เงินนั้น ทางจังหวัดได้วางแผนในการใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลัง
โดยอยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวน 50 ล้านบาท ดำเนินการต่างๆ เช่น จัดหาถังไฟเบอร์กลาส เนื่องจากที่ผ่านมาได้จัดซื้อถังดังกล่าวซึ่งเป็นถังน้ำกลางในหมู่บ้าน ใช้งบประมาณ 12 ล้านบาทเศษ ในปีนี้จึงซื้อเพิ่มอีก 78 ถัง เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท คาดว่าจะเพียงพอต่อความต้องการและประชาชนจะไม่เดือดร้อนน้ำอุปโภคบริโภค โครงการที่สองคือการจัดทำฝายกระสอบทราย จำนวน 255 แห่ง งบประมาณ 8 ล้านบาทเศษ
ทั้งนี้ เพื่อจะได้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง โครงการที่สามคือการซ่อมแซมบ่อบาดาลที่ชำรุด มีเป้าหมาย 665 แห่ง ตามที่ได้สำรวจ งบประมาณ 3.3 ล้านบาท และสุดท้ายคือ เป่าล้างบ่อบาดาล จำนวน 925 แห่ง ใช้งบประมาณ 4.3 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการแจกจ่ายน้ำ ซึ่งทุกอำเภอสามารถใช้เงินเติมน้ำมัน นำรถน้ำไปแจกให้ชาวบ้านได้โดยใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบ ถ้างบหมดแล้วทางจังหวัดก็จะขอไปที่ส่วนกลาง ส่วนโครงการล่าสุดคือการขุดเปิดทางน้ำ 129 แห่ง เพื่อนำน้ำไปใช้ในการเกษตร ซึ่งจะใช้เงินประมาณ 33 ล้านบาท ในเรื่องประสบภัยแล้งปีนี้คาดว่าคงจะไม่มากมายเหมือนในปีที่ผ่านมา
เนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติของเรามีน้ำเพียงพอ หลังจากขุดเปิดทางน้ำแล้ว พื้นที่รับน้ำในการเกษตรจะไม่เกิดความแห้งแล้งมาก เพราะปัจจุบันน้ำมีเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ำในหนองหาร เขื่อนน้ำพุง และเขื่อนน้ำอูน สามารถจะระบายน้ำออกมาได้ อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาท ขอฝากเตือนถึงเกษตรกร หากจะปลูกพืชในช่วงหน้าแล้งขอให้ปลูกพืชอายุสั้น ที่ใช้น้ำน้อย
