สกลนคร - ชาวสวนเมืองสกลฯ หน้าแห้ง ราคาพริกสดตกต่ำสุดขีดในรอบ 10 ปี เหลือกิโลกรัมละ 10 บาท ขณะที่ต้นปี 50 ราคาสูงสุดกิโลกรัมละ 100 - 125 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่กว่า 100 ไร่ ในทุกหมู่บ้าน ตำบลขมิ้น อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ชาวบ้านหลายร้อยหลังคาเรือนตัดสินใจพลิกพื้นที่นาลงทุนปลูกพริก เพื่อหวังสร้างรายได้ในช่วงฤดูแล้ง โดยอาศัยคลองชลประทานจากเขื่อนน้ำอูน ที่ปล่อยน้ำมา เพื่อบรรเทาให้เกษตรกรสามารถปลูกพืชอายุสั้นได้ แต่การเกษตรกรต่างเร่งผลิตพริก ทำให้ล้นตลาด และราคารับซื้อตกต่ำลง
นางมาลี ชามูล อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 ม.2 บ้านดงมะไฟ ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เกษตรกรไร่พริก ซึ่งปลูกจำนวน 2 ไร่ ลงทุนกว่า 3 หมื่นบาท กล่าวว่าขณะ นี้ราคารับซื้อพริกไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งจากปีที่ผ่านมาพริกถุงละ 12 กิโลกรัม เคยขายได้ถึงถุงละ 1,200 - 1,500 บาท แต่ราคาในปีนี้กลับตกอยู่ที่ ถุงละ 120-150 บาท เฉลี่ย กิโลกรัมละ 10 บาท
ส่วนพริกแห้งกิโลกรัมละ 40 บาท ซึ่งไม่คุ้มกับการลงทุน และยังต้องเผชิญปัญหาต้นทุนการผลิต ปุ๋ยมีราคาสูง กระสอบละ 1,200 บาท และเมล็ดพันธุ์ที่แพง แต่ก็เคยลองปลูกแตงกวา พบว่าแตงกวาไม่โต ให้ผลผลิตน้อย เนื่องจากสภาพอากาศที่ยังหนาวเย็นอยู่ จึงหันกลับมาปลูกพริกเช่นเดิม
ในปี 2550 เกษตรกรปลูกพริกไม่ได้ผล เพราะฝนตกชุกผลผลิตไม่ได้เท่าที่ควร ราคาจึงแพงมาก ดังนั้นคิดว่าน่าจะขายได้ราคาเท่าปีก่อน เกษตรกรจึงระดมปลูก แต่ก็ต้องพบกับปัญหาราคาตกต่ำ สาเหตุคาดว่ามาจากพริกที่ล้นตลาด และจะต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดราคา จึงทำให้ชาวเกษตกรผู้ปลูกพริกในแต่ละรายต้องประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก จึงอยากวอนให้รัฐบาลช่วยพยุงราคารับซื้อให้มากขึ้นกว่านี้ และจัดงบประมาณจากรัฐบาลมารับซื้อ โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง อย่างน้อยผลผลิตที่ได้ จะสามารถช่วยบรรเทาไม่ขาดทุนไปมากกว่านี้ โดยราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ถุงละ (12 กก.) 400-500 บาท
