นครศรีธรรมราช – ส.ส.ปชป.ห่วงปีนี้มังคุดล้นตลาดซ้ำรอยเดิม จี้รัฐตั้งรับแต่เนิ่นๆ - บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตือน “มิ่งขวัญ” อย่าเพิ่งกระดี๊กระด๊า ขายฝรั่งเศส 1 พันตันจิ๊บจ๊อย แถมยังไม่แน่นอน แนะสนใจเตรียมหาตลาดภายในประเทศระบายให้ทันดีกว่า
วันนี้ (22 มี.ค.) นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการที่ได้ตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึงการแก้ไขปัญหาเกษตรกรชาวสวนผลไม้ของภาคใต้ ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขอทราบถึงแนวทางในการแกไขปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำนั้น ปรากฏว่า คำตอบของรัฐมนตรีที่มาตอบกระทู้ คือ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (เงา) ไม่ได้ทำให้เกิดความมั่นใจว่า ฤดูผลไม้ปีนี้โดยเฉพาะมังคุดจะไม่เกิดปัญหาเหมือนปีที่ผ่านมา คือเกษตรกรถูกกดราคา ขาดทุนและไม่สามารถระบายผลไม้ออกสู่ตลาดได้ทันท่วงที
นายอภิชาต กล่าวว่า ปัญหาที่เกษตรกรชาวสวนมังคุดประสบในปีที่แล้ว คือ ภาครัฐไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับภาวะวิกฤตช่วงที่ผลไม้ออกสู่ตลาด ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า ผลไม้จะมีปริมาณมากกว่าทุกปี แต่ทุกหน่วยงานต่างไม่มีใครเป็นเจ้าภาพ โชคดีที่มีองค์กรปกครองท้องถิ่นเข้าไปแบ่งเบาภาระจัดหาตลาดและสนับสนุนเงินทุนช่วยเหลือ ทำให้ทุเลาความเสียหายได้มาก
“ปีนี้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรกร พยากรณ์ไว้แล้วว่า ผลไม้จะมีปริมาณไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว จึงน่าเป็นห่วงว่า หากการบริหารจัดการของภาครัฐยังไม่พร้อมหรือไม่ประสานกันดีพอทั้งในระดับชาติและระดับจังหวัด รวมทั้งไม่มีแผนที่รัดกุมพอ เกษตรกรจะตกเป็นผู้รับกรรมอีก” นายอภิชาต กล่าวและว่า ประมาณเดือนเมษายนมังคุดภาคตะวันออกจะออกสู่ตลาด ถัดจากนั้นราวเดือนกรกฎาคมถึงคิวของภาคใต้
ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ปี 2551 นี้ได้เตรียมหาตลาดต่างประเทศเพื่อระบายมังคุดไว้แล้วส่วนหนึ่ง คือ บริษัทรับซื้อในประเทศฝรั่งเศสสนใจจะซื้อมังคุดไทย 1 พันตัน กระจายขายทั่วประเทศฝรั่งเศส 6,000 สาขา และจะซื้อเพิ่มเติมอีกหากเจรจากันได้ เรื่องนี้ไม่อยากให้นายมิ่งขวัญกระดี๊กระด๊าเกินไป เพราะยังไม่มีอะไรแน่นอน และปริมาณมังคุด 1 พันตัน นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณที่จะออกมาในปีนี้ถึง 311,000 ตัน อยากให้รัฐบาลสนใจการระบายตลาดในประเทศห้ากว้างขวางและทันเวลาดีกว่า เพราะปริมาณส่งออกต่างประเทศนั้นสูงสุดเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นอกจากนี้ ส.ส.นครศรีธรรมราช ยังกล่าวอีกว่า สำหรับลองกองปีนี้ยังน่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะปริมาณผลผลิตจะมากกว่าปีที่แล้ว และต้นทุนสูงกว่าเดิม หากถูกดราคาและมีปัญหาการระบายเหมือนปีที่แล้ว เกษตรกรจะเดือดร้อนมากกว่าเดิม โดยเฉพาะลองกองจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีที่แล้วนอกจากราคาต่ำที่สุดในรอบ 10 กว่าปีแล้ว พ่อค้ายังไม่กล้าเข้าไปเก็บเกี่ยวในสวนเพราะกลัวปัญหาความไม่ปลอดภัย ต้องมีทหารเข้าไปคุ้มกัน