ท่ามกลางกระแสก่นด่า “กูฝั่งนี้ มึงสีโน้น อ่าวไอ้นี่อีกฝ่าย”ของคนไทยด้วยกันที่กำลังเกิดขึ้นในยุคสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติขณะนี้ จะเห็นได้ว่ากระแสมากมายทั้งดีร้ายอุบัติขึ้นไม่เว้นวัน ทั้งเรื่องที่น่าเอาเยี่ยงอย่างและควรหลีกเลี่ยงกันอย่างยิ่ง กำลังถูกเผยแพร่สู่สาธารณะชนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้คนฟังคล้อยตามอุดมการณ์ของผู้ออกความเห็น ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธ ว่านักการเมืองหรือบรรดาแกนนำจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะคำพูดแต่ละคำที่ดังขึ้นในจอทีวี และเวทีปราศัยของทั้งสองฟาก หากสังเกตุให้ดี บางทีก็มีอารมณ์ดุเดือดผนวกร่วมด้วย และคุณทราบหรือไม่ ว่าคำพูดเหล่านั้นกำลังกลายเป็นตัวจุดไฟให้การต่อสู้อันร้อนแรงที่เคยมีแต่ในสภา ลามใหลไปเป็นการปะทะกันบนท้องถนน ซ้ำยังหนีไม่พ้นมาซัดกันต่อในโลกโซเชียลฯ ทำให้ทุกฝ่ายต่างเจ็บเนื้อปวดตัวไม่แพ้กัน เมื่อเป็นกันถึงขั้นนี้ เราพร้อมแล้วหรือยังที่จะหาทางหนีที่เลี่ยง ให้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของไอคำนิยามสั้นๆที่ว่า “Hate speech” หรือ “คำพูดที่ก่อให้เกิดความรุนแรง” อย่างมีสติ รายละเอียด...
"hate speech" อาวุธแห่งปมขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งกว่ากระสุนปืน
เผยแพร่: โดย: MGR Online
กำลังโหลดความคิดเห็น