xs
xsm
sm
md
lg

"ขี้เหร่-ช่างกล้าเกิด-สัตว์หายาก" เหยียดกันแรงไปมั้ยพี่ (เสียงสูง)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตกเป็นเหยื่อรังแกออนไลน์อีกราย สำหรับ "เด็กปั๊มยโสธร" หลังถูกหนุ่มอบต.ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โพสต์กัดด้วยคำพูดดูถูกเหยียดหยาม ทำเอาชาวโซเชียลฯ เดือดแทน ออกมารุมฉะมนุษย์กล้องผู้กินเงินหลวง แต่กลับมีทัศนคติเป็นพิษรายนี้ (ล่าสุดได้ออกมาขอโทษแล้ว) เช่นเดียวกับคนที่ออกมาโหนกระแส ซึ่งมีการตั้งคำถามถึงความหวังดีที่อาจหวังผลให้ตัวเอง โดยเฉพาะคนขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเจ้าหนึ่งที่โดนกระแสโจมตีอย่างหนัก

เหยียดกันแรงไปไหมพี่

คราวก่อนก็โพสต์เหยียดสไตล์การแต่งหน้าของสาวบนรถไฟฟ้าบีทีเอส คราวนี้วัฒนธรรมเห่ากัดกลับมาอีก เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง ซึ่งมีโปรไฟล์เป็นรูปผู้ชายสวมชุดข้าราชการได้โพสต์ภาพเด็กปั๊มคนหนึ่ง โดยเขียนระบุว่า "เก็บตกซุปตาร์ พี่ไปเจอของแปลก สัตว์หายาก เพราะทำงานเป็นกะ คนหยังมาขี้ฮ้ายแท้ มะช่างกล้าเกิด"


เมื่อเรื่องไปถึงทางปั๊มปตท.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ก็ได้มีการโพสต์ข้อความเพื่อบอกไปยังมนุษย์กล้องผู้กินเงินหลวงรายนั้นว่า "ขอบคุณสำหรับคำดูถูกพนักงานของเรา สำหรับข้าราชการคนนี้ เราสามารถแจ้งความคุณได้นะคะ" จากนั้นก็กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าบนโลกโซเชียลฯ ขึ้นมาทันที


แม้ในมุมของคนโพสต์จะมองว่าเป็นเรื่องขำๆ ทว่าในอีกด้านหนึ่งได้มีคนออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงต่อว่าผู้ที่นำภาพ และเขียนข้อความดูถูกเหยียดหยามลงโซเชียลฯ ว่าเป็นการไม่เคารพในความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ชวนให้นึกถึงคำพูดของผู้อำนวยการอาวุโสสายงานสื่อสารองค์กรและการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากบริษัทดีแทค "อุ้ม-อรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์" ที่เคยได้ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้เอาไว้


"สิ่งที่คนไทยไม่รู้เลย คือคำว่า 'Privacy' ความเป็นส่วนตัว คำๆ นี้ต้องสอนตั้งแต่ลูกฟังภาษาคนได้ มันคือเรื่องของความเป็นส่วนตัว คนเราเกิดมาพร้อมกับสิทธิที่จะได้รับการเคารพและปกป้องความเป็นส่วนตัว ถ้าคุณรู้ว่าคุณรักในความเป็นส่วนตัวอย่างไร ปกป้องมันอย่างไร จงอย่าละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนอื่นและต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นด้วย" คุณอุ้มให้ทัศนะบนเวทีเสวนา Cyberbullying ภัยร้ายใกล้ตัว..ที่คุณต้องระวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในสังคมต้องตระหนักเพื่อหยุดความน่ากลัวของภัยคุกคามจากสังคมออนไลน์


เช่นเดียวกับกรณีเด็กปั๊มรายนี้ที่ถูกแอบถ่าย และโพสต์ข้อความดูถูกเหยียดหยามสรีระหน้าตาด้วยภาษาที่เต็มไปด้วยทัศนคติในแง่ลบ บ่งบอกความมืดบอดในตัวเอง ไม่แปลกที่เธอจะร้องไห้โฮออกมา เพราะรู้สึกเสียใจที่มีคนมาดูถูกแบบนี้




ล่าสุดเธอ และครอบครัวได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่อบต.คนดังกล่าว เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองแล้ว ส่วนมือโพสต์ แม้ตอนแรกจะแถว่าเฟซบุ๊กโดนแฮก แต่สุดท้ายก็ถูกนายกอบต.แห่งหนึ่งนำตัวมาขอโทษ โดยเจ้าตัวยอมรับว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ด้านผู้เสียหายหลังจากได้ปรึกษากับคุณแม่ก็ตัดสินใจตกลงให้อภัย และรับปากว่าจะไปถอนแจ้งความ

ถือเป็นบทเรียนให้มนุษย์กล้อง และมนุษย์เหยียดในยุคโซเชียลฯ ได้เป็นอย่างดี ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอม และฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งการโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท ด้วยคำพูดที่รุนแรง หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย มีสิทธิ์โดนโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี เเละปรับไม่เกิน 100,000 บาท


ดีออก! โหนกระแสขายของ


อย่างไรก็ดี นอกจากประเด็นโพสต์เหยียดผู้อื่นบนโลกโซเชียลฯ แล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมากก็คือการโหนกระแสของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ด้วยการโพสต์ตามหาน้องคนนี้ เพราะอยากช่วยให้ผอม ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงความหวังดีที่หวังผลให้ตัวเองหรือไม่

ด้านเพจดัง Drama-addict จึงออกโรงโพสต์เตือน อย่าไปเชื่ออาหารเสริมลดความอ้วน หากมีใครโฆษณาอาหารเสริมว่าลดความอ้วนได้ นั่นคือการโฆษณาเกินจริง ผิดกฎหมาย ก่อนจะแนะนำด้วยว่า การลดความอ้วนอย่างยั่งยืน มี 3 ทาง คือ ออกกำลังกาย คุมอาหาร และปรับพฤติกรรม



"ลดความอ้วน มีหนทางเดียว คือออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และปรับพฤติกรรมไม่มีอาหารเสริมใดๆ ที่สามารถลดความอ้วนได้ทั้งนั้น พวกที่อวดอ้างว่าลดความอ้วนได้ มี 2 อย่าง ไม่โฆษณาเกินจริงก็ใส่สารอันตรายลงไป เช่น โซลสลิม ที่เพิ่งโดนตำรวจบุกจับตรวจแล้วเจอไซบูทรามีนที่เป็นสารอันตรายถึงตายไปหมาดๆ ช่วยกันแชร์วนไปครับ เพื่อป้องกันไม่ให้น้องเขาหลงเป็นเหยื่อของพวกอุบาทว์ขายยาลดความอ้วน"

เมื่อเข้าไปดูปฏิกิริยาในเฟซบุ๊กของผู้หวังดีรายนั้น ได้มีการโพสต์ชี้แจงว่า ไม่ได้มีเจตนาโหนกระแสเพื่อขายของ ก่อนจะให้เหตุที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพราะเคยโดนคนดูถูกมาเหมือนกัน ดังนั้นจึงเข้าใจหัวอกของเด็กปั๊มตามที่เป็นข่าว ล่าสุดได้เปลี่ยนความช่วยเหลือจากการส่งสินค้าเป็นอย่างอื่นแล้ว เช่น การเสริมจมูก การทาครีม หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ดูดีขึ้นแทน เพื่อลบข้อครหาในเรื่องการหาผลประโยชน์ เนื่องจากไม่อยากให้คนมองว่าเกาะกระแสโฆษณาขายของ


ทำจมูกให้ฟรีแทนการส่งของ


ล่าสุดมีการรายงานว่าติดต่อ "เด็กปั๊ม" ที่ตกเป็นข่าวได้แล้ว โดยเสนอว่าจะเสริมจมูกให้ฟรี ตอนนี้กำลังรออีกฝ่ายตัดสินใจอยู่ว่าจะยินดีรับความช่วยเหลือหรือไม่



"จากการที่นัทช่วยเหลือน้องน้ำเต้าไปในการจะเสนอเสริมจมูกให้น้องฟรี หรือทำสิ่งใดก็ตามที่น้องต้องการ ตอนนี้น้องอยู่ระหว่างการตัดสินใจเพราะเวลาผ่านไปเร็วมาก น้องตั้งตัวไม่ทัน คนที่อยากช่วยเหลือน้องมีเยอะมาก นัทก็ดีใจแทนน้อง ถ้ามีอะไรนัทจะรีบอัปเดตแน่นอน แล้วก็มีคนทักมาทางนัทเยอะมากว่าอยากให้นัทแจกเสริมจมูกบ้าง แจกศัลยกรรมแก่คนอื่นบ้าง เดี๋ยวต่อไปนัทก็จะหันมาแจกแบบนี้บ้างเนอะ ไม่เคยแจกเลย แต่ถ้าเห็นใครดูดีขึ้นก็ดีใจ ได้ทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เห็นคนอื่นมีความสุขก็มีความสุขตามไปด้วย

ปล.จะไม่มีการส่งสินค้าใดๆ ก็ตามที่นัทขาย ส่งไปให้น้องเขาใช้นะครับ เพราะเจตนาที่ช่วย ไม่ได้หวังจะโฆษณาสินค้าของตัวเองอยู่แล้ว ขอช่วยโดยวิธีอื่นแทนนะครับ เพราะไม่ต้องการให้ใครโจมตี หรือมองนัทในด้านลบ เจตนาในตอนแรกคืออยากช่วยจริงๆเท่านั้น ส่วนเรื่องยอดติดตาม นัทมียอดติดตาม 1 แสนกว่าคน มานานแล้วครับ จึงไม่ได้หวังจะมาสร้างกระแส เกาะกระแส จะมาเกาะน้องดังอะไร"


เช่นเดียวกับผู้กำกับชื่อดัง "พชร์ อานนท์" ที่แม้จะมีคนมองว่าโหนกระแส แต่ก็เป็นการโหนกระแสที่หลายคนชื่นชม เพราะเป็นการให้โอกาสเด็กคนหนึ่ง โดยโพสต์ให้กำลังใจ และถามหาเด็กปั๊มที่โดนข้าราชการดูถูกว่า กำลังหานักแสดงหน้าใหม่ ถ้ามีรูปชัดๆ ให้ส่งเข้ามา




"อย่าเสียใจไปน้องคนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะทำดีได้สนใจมาเล่นหนังมั้ยน้องลองมาแคสต์ดูมั้ยว่าเล่นได้เปล่า ถ้าเล่นได้เดี๋ยวเอาเล่นเลย อย่าดูถูกคนที่ที่รูปร่างหน้าตาต้องดูที่จิตใจ ถ้าหนูมีรูปที่เห็นหน้าชัดๆ ส่งมาในข้อความพี่หน่อยนะ กำลังหาดาราเซตใหม่พอดี แล้วจะติดต่อน้องยังไงหาเบอรให้หน่อย"

สุดท้ายนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า โลกออนไลน์นับวันยิ่งน่ากลัว ไม่ว่าจะกรณี "เด็กปั๊มยโสธร" หรือกรณีอื่นๆ ก่อนหน้านี้ หลายคนสาดกระสุนถ้อยคำโดยไร้ซึ่งความรับผิดชอบบนเสรีภาพที่ตัวเองมี ทั้งดูถูก เหยียดหยาม ย่ำยีหัวใจผู้อื่นจนลืมคิดไปว่า สิ่งเหล่านี้อาจฆ่าคนให้ตายทั้งเป็นได้


ดังนั้น ด้วยสังคมที่เปิดให้มีการวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี จะดีกว่าไหมถ้าทุกกลุ่มทุกคนหันมาใช้ถ้อยคำบนเสรีภาพที่เหมาะสม ให้ความเคารพเขาอย่างที่เขาเป็น อย่างที่เขาเลือก ซึ่งนอกจากจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตใครชีวิตหนึ่งไปตลอดกาลแล้ว ยังไม่ต้องกลับมารู้สึกผิด หรืออับอายตัวเองในวันข้างหน้าที่วันนั้นเคยมีทัศนคติในแง่ลบกับคนคนหนึ่ง


ขอบคุณภาพประกอบจากเพจเฟซบุ๊ก "ปตท.มหาชนะชัย จ.ยโสธร", Drama-addict





มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น