xs
xsm
sm
md
lg

ยินดีต้อนรับสู่ความตาย! "ยาทำแท้งเถื่อน" เสี่ยงตกเลือดดับอนาถ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เห็นข่าวบุกทลาย หรือตามปิดเว็บไซต์เป็นร้อยๆ แต่โฆษณา "ขายยาทำแท้งเถื่อน" ก็ยังไม่หมดไปจากสังคมไทย ล่าสุดยังพบการขายแบบไม่สนใจบาปเวร หากินกับผู้หญิงท้องไม่พร้อม ทั้งเฟซบุ๊กและไอจี เอาภาพเด็กที่หลุดทั้งตัวมาลงรีวิวให้ดูกันอย่างโจ่งแจ้ง เตือนสาวๆ อย่าหลงเชื่อ เพราะความตายอาจรอคุณอยู่ หลายคนตกเลือดจนตาย หรือทำแล้วกลายเป็นแท้งติดเชื้อต้องตัดมดลูกทิ้งทั้งยวงก็เคยมีมาแล้ว

เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจไม่น้อยสำหรับผู้หญิงที่กลายเป็นแม่โดยไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะวัยรุ่นสาวที่รักสนุก แต่ไม่คิดจะป้องกันจนพลาดพลั้งตั้งท้องทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อม ซึ่งหลายคนเลือกวิธียุติการตั้งครรภ์เพราะหวั่นใจอยู่ลึกๆ ว่าจะไม่สามารถเลี้ยงลูกคนเดียวได้เมื่อไม่มีพ่อของเด็ก

การทำแท้งเถื่อนจึงผุดขึ้นมาในหัวสมอง เพราะคิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด (ทั้งที่จริงๆ แล้วมีทางออกอีกตั้งหลายทาง) ทำให้บางคนหลงเชื่อโฆษณาขายยาทำแท้งเถื่อนบนโลกออนไลน์ แม้ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะมีการตรวจสอบ จับกุม และปิดเว็บไซต์เป็นระยะๆ แต่ก็ยังไม่หมดสิ้น


ล่าสุดทางเพจ Drama-addict ได้จุดประเด็นนี้ขึ้นอีกครั้ง หลังมีผู้ใช้สื่อโซเชียลฯ แจ้งเรื่องร้านขายยาทำแท้งเถื่อนบนเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมเข้ามากันเป็นจำนวนมาก แถมยังขายเย้ยกันอย่างโจ๋งครึ่ม และที่น่าตกใจคือ มีการรีวิวโดยเอาเด็กที่หลุดทั้งตัวมาลงให้ดูกันด้วย


ความน่าเป็นห่วงนี้ เภสัชกรประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ในฐานะโฆษก อย. เคยออกมาเตือนว่า ยาบางตัวนอกจากผิดกฎหมาย ยังนำมาใช้ผิดวิธี ซึ่งผลที่ตามมานั้นอาจทำให้มดลูกเกิดการรัดตัวอย่าง รุนแรงจนเกิดการปริแตกของมดลูก และอาจเกิดภาวะตกเลือดในช่องท้องอย่างเฉียบพลัน จนช็อกจากการ เสียเลือดมากและเสียชีวิตในที่สุด



สำหรับ "ยาอาร์ยู 486" ที่โฆษณาอวดอ้างเป็นยาทำแท้งนั้น ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาจาก อย. เนื่องจากยาชนิดนี้เข้าข่ายเป็นยาที่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านอื่น ๆ หรืออาจ ก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม และอาจมีการนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ง่าย จึงไม่สามารถนำมาจำหน่ายในประเทศไทยได้ ส่วน "ยาไซโตเท็ค" จัดเป็นยาควบคุมพิเศษที่ให้ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่วางแผนการตั้งครรภ์

เห็น "ความตาย" รออยู่แบบนี้ จะเชื่อหรือจะลองเสี่ยงดูก็ลองคิดเอา แต่ตัวอย่างความตายก็มีให้เห็นมาแล้วหลายศพ สำหรับคนก้าวพลาดไปแล้วไม่ใช่ว่าหนทางในชีวิตจะมืดบอด เห็นได้จากกรณีตัวอย่างที่ "ผศ.ดร.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์" สูตินรีแพทย์และวิทยากรชื่อดัง เคยหยิบยกมาเล่าให้ฟัง


"เด็กสาวอายุ 17 คนหนึ่งที่ผ่านการท้องและทำแท้งมาแล้ว หลังรอดจากอาการตกเลือดจนต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล เธอก็ตระเวนเดินสายเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้เพื่อนๆ ฟัง ที่น่าประทับใจที่สุดคือคำพูดที่ว่า หนูอยากบอกกับคุณครูทุกคนที่คิดว่าเด็กที่เจอแต่สิ่งที่ดีๆ เท่านั้นที่จะได้ดี ความจริงมันไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะจริงๆ แล้วเด็กที่เจอสิ่งที่ไม่ดี อย่างเช่นหนูเคยทำแท้งมาแล้ว ตอนนี้หนูก็ทำตัวเองให้ดีขึ้นได้เหมือนกัน"


ปัจจุบันยังมี สายด่วน 1663 ช่องทางรับปรึกษาเรื่องเอดส์ และผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม โดยจะเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-22.00 น. เพื่อช่วยให้คนที่กำลังทุกข์ใจได้มีที่พึ่ง และมีทางเลือกที่จะจัดการกับปัญหา เนื่องจากมีจำนวนไม่น้อยหันไปสืบค้นข้อมูลและซื้อยาจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งไม่ชัดเจนว่าเป็นยาจริงหรือมีประสิทธิภาพหรือไม่ ขนาดและวิธีใช้สอดคล้องกับอายุครรภ์หรือไม่ ทำให้ส่งผลกระทบตามมา

ดังนั้นจึงมีการเตือนจาก อย. ออกมาเป็นระยะๆ ว่า อย่าได้ซื้อยาใด ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ หรืออินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะยาที่จะนำมาทำแท้ง เพราะเป็นยาที่ลักลอบนำเข้ามาอย่างผิด กฎหมายแน่นอน ซึ่งอาจได้รับยาปลอม ยาเสื่อมคุณภาพ เนื่องจากไม่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในการเก็บ รักษายาและอาจมีส่วนประกอบสำคัญของยาในปริมาณที่เกินกำหนด จนอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ท่องให้ขึ้นใจ "No condom No sex"


"ผู้หญิงยอมผู้ชายเพราะ 1.คิดว่าเขารักเรา 2.คิดว่าเราพร้อมแล้วที่จะเป็นของกันและกัน และตัวแปรที่สำคัญที่สุดคือ 3.บรรยากาศมันเป็นใจ อันนี้มีงานวิจัยออกมาเลยว่าถ้ามีแค่สองตัวแปรแรก ไม่มีตัวแปรที่สาม มันก็ไม่เกิดเรื่องหรอก เพราะฉะนั้นจงอย่าพาตัวเข้าไปในสถานการณ์แบบนั้น ผู้ชายไม่ว่าจะดีจะเลวต้องขอมีอะไรด้วยแน่นอน ด้วยนิสัยแล้ว ผู้หญิงเวลารักใครจะอยากอยู่ใกล้ แต่ผู้ชายเวลารักใครแล้วอยากจะสัมผัส ผู้หญิงเวลาคิดถึงความรัก จะคิดถึงแบบโรแมนติก แต่ผู้ชายเวลาคิดจะไปทางอีโรติก มันเป็นข้อที่คุณผู้หญิงทั้งหลายต้องรู้เอาไว้


ถึงกระนั้น ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม สุดท้ายคนที่จะเป็นตัวแปรสำคัญว่าจะตั้งครรภ์ไหมก็คือผู้หญิง อันนี้ไม่ได้โทษนะ แต่ต้องพูดกันตรงๆ ว่าถ้าเราไม่ถ่างขา ถอดกางเกง ผู้ชายจะทำอะไรเราได้ไหมล่ะ ลองเอาก้อนหินก้อนเดียวให้ผู้หญิงหนีบไว้ระหว่างขาดูสิ แค่นี้ก็ไม่ท้องแล้ว แต่ที่ท้องท้องกันอยู่ก็เพราะอ้าให้เขาไม่ใช่เหรอ"


เป็นการย้ำให้คิดง่ายๆ ด้วยภาษาชาวบ้านของผศ.ดร.พันธ์ศักดิ์ สูตินรีแพทย์และวิทยากรชื่อดังที่เคยให้สัมภาษณ์ทีมข่าวผู้จัดการ Live ในประเด็นเดียวกัน ก่อนจะสอนใจ ซึ่งพอจะนำมาเป็นบทสรุปย้ำเตือนในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีว่า คนที่จะตัดวงจรได้ดีที่สุด คงไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นตัวเด็กสาวที่จะต้องหยุดความคิดมักง่าย "ครั้งเดียวไม่น่าจะเป็นอะไร" ออกไป แล้วท่องให้ขึ้นใจเลยว่า "No condom No sex"

...เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดี ยอมให้ทับแล้วอีกฝ่าย "รับผิดชอบ" แต่ก็มีไม่น้อยที่พบว่า "ตอนทับก็ร้องแต่ตอนท้องดันไม่ยอมรับ" แถมบางคนยังซวยหนัก เจอโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พ่วงมาด้วย

ขอบคุณภาพประกอบจากเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น