"ไปที่ไหน อย่าลืมพกมารยาทติดตัวไปด้วย" คงจะใช้ไม่ได้กับกลุ่มคนนิสัยเสีย เห็นแก่ได้ อยากเก็บภาพสวยๆ กลับบ้าน แต่บุกทำลายด้วยการเหยียบย่ำ แถมทิ้งขยะไว้เกลื่อน เป็นเหตุให้ "ทุ่งหญ้าคา" หรือ "ทุ่งหญ้าหิมะ" แห่งย่านเกษตร-นวมินทร์ กลายเป็น "ทุ่งยับเยิน" จนต้องตั้งคำถามถึงจิตสำนึกที่หายไปกับการแลกมาเพื่อภาพสวยๆ ของคน (บางกลุ่ม) ในยุคบ้ากล้อง หรือยุคเซลฟี่
ยับเยิน! ทุ่งหญ้าขาวย่านเกษตรฯ-นวมินทร์
จากท้องทุ่งที่เคยเกิดไฟไหม้ลามเป็นบริเวณกว้าง เกิดใหม่เป็นทุ่งหญ้าสวยงามในย่านเกษตร-นวมินทร์ บริเวณด้านหลัง นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว หน้าหมู่บ้านเสนานิเวศน์ 2 เขตลาดพร้าว กทม. กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่โด่งดังในโซเชียลฯ จนสื่อต่างๆ ต้องนำเสนอ พาให้คนแห่เข้ามาถ่ายรูป ชมความงามกันเพียบ
วันนี้ความงดงามของทุ่งหญ้าที่เคยอยู่อย่างสุขสงบ เต็มไปด้วยผู้มาเยือนอย่างมนุษย์กล้อง มนุษย์เซลฟี่ที่เดินทางมาเก็บภาพสวยๆ กลับบ้าน แต่บางคนลืมพกมารยาทติดตัวมาด้วย โดยหวังเอาแต่ได้ด้วยการเก็บภาพสวยๆ กลับไป แต่ดันลืมเก็บขยะของตัวเองออกไปด้วย
บอกเล่าได้จากผู้ใช้สื่อโซเชียลฯ รายหนึ่งที่เก็บภาพ พร้อมเขียนข้อความสะท้อนนิสัยมักง่ายของนักท่องเที่ยวบางกลุ่มโดยบอกเล่าความเสียหายหลังมีผู้มาเยือนแห่เข้าไปเที่ยวชม ซึ่งนอกจากเศษขยะแล้ว ยังพบต้นหญ้าล้มเป็นแถวๆ เหตุเพราะแรงฝ่าเท้าของผู้คนที่พากันลุยเข้าไปเพื่อแลกกับรูปสวยๆ
จากทุ้งหญ้าว่างเปล่าธรรมดา กลายเป็นกระแสดังในโซเชียล จนสื่อหลักต้องนำไปเสนอ ทำให้วันนี้ (28 ก.พ.) ผู้คนพากันแห่แหนมายัง ...
Posted by ศศิดิศ ศศิสกุลพร on Sunday, February 28, 2016
"จากทุ้งหญ้าว่างเปล่าธรรมดา กลายเป็นกระแสดังในโซเชียลฯ จนสื่อหลักต้องนำไปเสนอ ทำให้วันที่ 28 ก.พ. ผู้คนพากันแห่แหนมายังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่นี้ ทำเอารถติดลามไปไกลถึงนนทบุรี ผู้ที่มาเกือบทุกคน พกกล้องมาเพื่อถ่ายรูป มีตั้งแต่กล้องมือถือถ่ายเซลฟี่กันกรุบกริบ ไปจนถึงช่างภาพแบกเลนส์และชุดแฟลชมาถ่ายภาพกันอย่างจริงจัง โดยแต่ละคนก็หวังจะได้ภาพโลเกชั่นทุ่งหญ้าสีขาวสวยงาม ติดมือกลับไปทุกคน
จากที่เห็นวันนี้ ทุ่งหญ้าโดนเหยียบล้มไปหลายหย่อมแล้ว แต่ไม่ต้องเสียใจ ถึงแม้พรุ่งนี้หญ้าตายหมด ปีหน้าทุ่งหญ้าก็จะกลับมาสวยใหม่ ให้พวกเราได้กลับไปเก็บภาพสวยๆใหม่อีกครั้ง แต่ทุ่งหญ้าอาจจะกลับมาสวยไม่เท่าเดิม เพราะหลายคนเอาภาพสวยงามกลับไป แต่กลับทิ้งขยะไว้แทน
ถึงแม้ขยะในตอนนี้จะถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนคนที่ไปทุ่งหญ้าวันนี้ แต่คงเพราะแถวนั้นยังไม่มีร้านค้าให้จับจ่ายซื้อของ ซึ่งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป น่าจะมีพ่อค้าแม่ขายมาจับกระแสขายของบริเวณนี้เพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นมากแน่ๆ
ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากมาที่ทุ่งแห่งนี้ เพื่อเซลฟี่กับเศษขยะแน่นอน มาช่วยกันรักษาทุ่งหญ้าให้อยู่กับเราไปนานๆ กันเถอะครับ (ถ้าไม่โดนนายทุนเอาที่ดินไปสร้างห้าง สร้างหมู่บ้านก่อนนะ :P )"
ชาวเน็ตรุมสวด ปลุกจิตสำนึกผู้มาเยือน
ทันทีที่ภาพ และข้อความดังกล่าวถูกโพสต์ขึ้น ได้มีการส่งต่อในโลกออนไลน์อย่างแพร่หลาย โดยส่วนใหญ่เข้ามาแสดงความเห็นไปในทางตำหนิผู้มาเยือนนิสัยเสีย พร้อมเรียกจิตสำนึกในการเที่ยวชม โดยเฉพาะความเป็นธรรมชาติที่มักจะถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์
"คนไทยไปที่ไหน ฉิบหายที่นั่น อย่าเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว ให้มองถึงส่วนรวมหรือคนที่ไปหลังคุณบ้างเถอะครับ"
"เอาแต่ความสุข ความต้องการ ความมัน แล้วก็ทิ้งของที่ไม่ต้องการ นี่คงเป็นการเริ่มต้นนิสัยของคนที่ทิ้งลูกฝังดิน"
"เห็นแล้วก็แอบเสียใจเบาๆ สองปีก่อนยังเป็นที่ร้างๆ เงียบๆ อยู่เลย แอบมุดเข้าไปถ่ายแบบสบายๆ เงียบๆ"
"ที่เที่ยวธรรมชาติลงโซเชียลฯ เมื่อไหร่ เละเมื่อนั้น"
"เหตุผลหนึ่งที่ไม่อยากให้สร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงก็เพราะแบบนี้แหละ คนไทยขาดวินัย มักง่าย ยิ่งขึ้นไปเยอะ ขยะยิ่งเยอะ ไม่ทิ้งในจุดที่เขากำหนด"
"ขอให้ได้เซลฟี่ลงเฟซฯ ลงไอจีไว้ก่อน อย่างอื่นช่างมัน นี่แหละเที่ยวแบบไทยเก๋ไก๋แห่ไปที่ไหนขยะมีที่นั่น หญ้าดอกตายเรียบ"
"อยากให้รณรงค์ตั้งกลุ่มจิตอาสาเก็บขยะตามแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นที่ตัวเองอาศัยหยูุ่ ยิ่งเอาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเรียนได้ยิ่งดี ทราบมาว่าในสิงคโปร์มีกิจกรรมเพื่อสังคมที่ผู้ปกครองต้องทำร่วมกับนักเรียนเป็นจำนวนชั่วโมงในหลักสูตรการเรียนด้วย"
ตัดต้นไม้ที่ญี่ปุ่นสะเทือนถึงไทย
เขียนถึงเรื่องก็ชวนให้นึกถึงข่าว 'ต้นไม้แห่งปรัชญา" หนึ่งในไฮไลต์ยอดฮิตกลางท้องทุ่งในเมืองบิเอ จังหวัดฮอกไกโด ของประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาถ่ายรูปกัน แต่ปัจจุบันถูกตัดทิ้งไปแล้ว เหตุนักท่องเที่ยวรุกล้ำพื้นที่นอกเหนือจากบริเวณที่กำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้แปลงปลูกผักได้รับความเสียหาย แม้ที่ผ่านมาเจ้าของพื้นที่จะมีการติดป้ายเตือนหลายภาษาแล้วก็ตามแต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร
ที่ชวนอนาจใจยิ่งไปกว่านั้น สื่อญี่ปุ่นยังระบุชัดเจนว่า ปัญหาเกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเป็นคนไต้หวันและคนไทยที่ไม่รักษามารยาท เข้าไปถ่ายภาพแล้วเข้าไปบุกรุกแปลงผักโดยไม่ได้รับอนุญาต ซ้ำร้ายยังเหยียบแปลงผักรอบๆ บริเวณดังกล่าว สุดท้ายการตัดปัญหาด้วยการโค่นทิ้งจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ข่าวทีวีที่ญี่ปุ่นออกข่าวว่า 哲学の木 (tree of philosophy) ต้นไม้เอียงๆ ต้นเดียวที่ยืนต้นในทุ่งที่ฮอกไกโด (ต้นในรูป) ที่เป็น...
Posted by Drama-addict on Friday, February 26, 2016
"ข่าวทีวีที่ญี่ปุ่นออกข่าวว่า 哲学の木 (tree of philosophy) ต้นไม้เอียงๆ ต้นเดียวที่ยืนต้นในทุ่งที่ฮอกไกโดที่เป็น location ถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชอบมาถ่ายกันในช่วง 3-4 ปีนี้ ถูกตัดทิ้งแล้ว ทีวีสัมภาษณ์เจ้าของที่ดินและต้นไม้ เจ้าของพูดว่า เขาจำใจต้องตัดทิ้งเพราะทน claim จากชาวบ้านที่ทำสวนปลูกผักรอบๆ นั้นไม่ไหว เพราะปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติ
อย่างเช่น "คนไต้หวันและคนไทย" ที่ไม่รักษามารยาท มาถ่ายรูปกันแล้วเข้าไปในแปลงผักโดยไม่ได้รับอนุญาติ และเหยียบทำลายแปลงผักของชาวบ้านรอบๆนั้น เตือนและห้ามปักป้ายหลายภาษาแล้วก็ไม่ฟัง จนต้องตัดสินใจตัดต้นไม่ทิ้งซะเพื่อตัดปัญหา...「イライラすることもなくていい。さみしいけど」(土地所有者)...
นั่งจุกอยู่หน้าทีวีทีเดียว เพราะเขาพูดว่า "คนไทย" ออกทีวีอย่างชัดเจน ปัญหาทำนองนี้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่รักษามารยาท ถูกบ่นมากขึ้นในญี่ปุ่น แต่คนญี่ปุ่นนั้นทำอะไรมากไม่ได้ เพราะมองว่านักท่องเที่ยวอย่างเราๆนั้นเป็น "แขกของประเทศ" เพื่อนๆ จะมาเที่ยวก็ขอให้ช่วยกันรักษามารยาท ตามธรรมเนียมท้องถิ่นของเขา (ไม่ใช่ของเราๆ) ให้สมกับเป็นแขกของประเทศเขาหน่อยน่ะครับ"
เป็นข้อความจากคุณ sasrp เจ้าของกระทู้ "Tree of philosophy ที่ฮอกไกโด ถูกตัดทิ้งแล้ว เพราะปัญหาจากนักท่องเที่ยว" ในเว็บไซต์พันทิปที่อ้างอิงมาจากข่าวของเพื่อนในญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นจุดจบของแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ที่เหลือแต่ความทรงจำ เนื่องจากความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ของนักท่องเที่ยวนิสัยเสีย ก่อนจะสะกิดต่อมสำนึกของนักท่องเที่ยว (บางคน) ซึ่งพอจะนำมาสรุปทิ้งท้ายได้เป็นอย่างดีว่า
"...อย่าเอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง ฉันอยากได้รูปสวยๆ เรื่องของฉัน ใครจะทำไม เหลือสิ่งดีๆ สวยๆ งามๆ ไว้ให้คนอื่นบ้างครับ อย่าท่องเที่ยวเชิงทำลายกันเลย" เช่นเดียวกับกรณีของ "ทุ่งหญ้าคา" หรือ "ทุ่งหญ้าหิมะ" ในย่านเกษตร-นวมินทร์ที่ควรเดินทางมาเที่ยวชมด้วยหัวใจอนุรักษ์ และพากลับติดตัวไปเพียงภาพถ่าย และความทรงจำ รวมไปถึงขยะในมือของท่านด้วย
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก ศศิดิศ ศศิสกุลพร / ภาพจากคุณ Lussuria Rei สมาชิกเว็บไซต์พันทิป
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754