xs
xsm
sm
md
lg

เป็นเรื่อง! โรงแรมแบนองค์กรเอดส์ เหตุผู้พักรังเกียจติดโรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เจ็บปวด... จนต้องส่งเรื่องนี้ถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เมื่อ “โรงแรมทาวน์อินทาวน์” ประกาศกร้าว ไม่อนุญาตให้องค์กรที่เกี่ยวข้องกับ “เอดส์” มาใช้บริการในทุกกรณี เหตุเพราะแขกรายอื่นร้องเรียน ไม่สบายใจที่จะใช้โรงแรมร่วม ผู้บริหารระดับสูงจึงออกนโยบายเด็ดขาดมาจากเบื้องบน กลุ่มเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ ทนให้หยามเกียรติไม่ไหว โร่ยื่นจดหมายทักท้วงสิทธิ เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่!!




นโยบายสูงสุด ห้ามกลุ่มเอดส์ใช้บริการ!
“การกระทำดังกล่าวของโรงแรมเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ อย่างชัดเจน เป็นการแบ่งแยก รังเกียจ กีดกันต่อตัวผู้ติดเชื้อฯ อันทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันในสังคม และทำให้ผู้ติดเชื้อฯ ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างยากลำบาก

ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงคือ เอชไอวี ติดต่อจากช่องทางหลัก คือ การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่สวมถุงยางอนามัยกับผู้มีเชื้อเอชไอวี ซึ่งไม่สามารถดูออกได้ว่าใครมีเชื้อฯ และที่สำคัญ ไม่เคยมีการติดเชื้อเอชไอวีจากการใช้ชีวิตประจำวันร่วมกันกับผู้ติดเชื้อฯ เช่น การใช้ห้องประชุม ห้องนอน การใช้จานชามเพื่อรับประทานอาหาร หรือการใช้ห้องน้ำร่วมกัน

ทางเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ และองค์กรภาคี จึงต้องการให้ กสม. (สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ) ตรวจสอบการกระทำดังกล่าว เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ติดเชื้อฯ และไม่ให้มีการละเมิดสิทธิฯ อีกต่อไป”

ทั้งหมดนี้คือใจความตอนหนึ่งจากหนังสือร้องเรียนที่ทาง “เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย” ได้ยื่นไว้กับทางสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมจากกรณีถูกทางโรงแรมทาวน์อินทาวน์เลือกปฏิบัติ โดยเรื่องราวต้นเหตุเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นเดือน ก.ค. เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิแพธทูเฮลท์ ติดต่อไปยังฝ่ายขายของโรงแรมเพื่อติดต่อขอใช้สถานที่จัดประชุมอย่างที่เคยทำมาตลอดช่วง 3-4 ปี แต่ครั้งนี้ผลลัพธ์กลับต่างออกไป เพราะพนักงานเอาแต่ยืนยันว่าของดให้บริการหากองค์กรเกี่ยวข้องกับคำว่า “เอดส์”!!

“เราก็เลยถามเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร แบบไหน ยังไง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน เพียงแต่เป็นคำบอกเล่าว่า เป็นนโยบายของทางผู้บริหาร ไม่ให้รับคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับทาง HIV/ Aids หรือมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ หรือคนที่ทำงานเกี่ยวกับเอดส์ ทางโรงแรมขอสงวนสิทธิ์ในการขอใช้บริการ เราเลยถามเหตุผลเซลส์ไปว่าด้วยเหตุผลอะไร เขาบอกว่ามีแขกมาบ่นและรู้สึกไม่สบายใจ เราก็เลยคิดว่ามันคงเกิดการเข้าใจที่อาจจะไม่ตรงกันหรือคลาดเคลื่อนไปว่าจะเป็นปัญหา ทางเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ ก็เลยคิดว่าเรื่องนี้ต้องเคลียร์นะ

ทางเครือข่ายก็เลยทำจดหมายออกมา 1 ฉบับถึงผู้บริหารสูงสุดของทางโรงแรม ผมเป็นคนลงนามเอง เพื่อขอคำชี้แจงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เรายินดีที่จะเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ปัญหามันอยู่ตรงไหน ปรากฏว่าหลังจากทำหนังสือไปเป็นระยะหนึ่งอาทิตย์ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจากผู้บริหารระดับสูงของโรงแรมเลย จึงเป็นที่มาของการไปร้องสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ให้ช่วยดำเนินการหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้เราด้วย เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานทางสังคม ทุกคนจะได้มีโอกาสเรียนรู้ร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง เป็นการสร้างความเข้าใจต่อกัน

ผมคิดว่าคงมีอีกหลายโรงแรมที่ปฏิเสธมูลนิธิที่ทำงานด้านเอดส์หรือเครือข่ายผู้ติดเชื้อ นี่คือการกีดดันและเลือกปฏิบัติ ในขณะที่ประเทศร่วมกันรณรงค์การยุติปัญหาโรคเอดส์ ตามยุทธศาสตร์ของประเทศบอกเอาไว้ตลอดว่า 1.เราจะต้องไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2.ผู้ติดจะต้องไม่ตายด้วยโรคเอดส์ และ 3.การไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งกรณีนี้มันขัดแย้งกับข้อสุดท้ายเลย

เราจะยุติปัญหาเอดส์ร่วมกันได้ยังไง ในขณะที่คนในสังคมยังเข้าใจเรื่องนี้น้อยอยู่เลย ซึ่งทางเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ ก็ยินดีที่จะทำความเข้าใจนะครับ หลังจากเกิดเหตุกับทางโรงแรม แต่ทางนั้นเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรา ไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด ทางเครือข่ายก็เลยต้องส่งเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิฯ ให้ช่วยค้นหาเหตุผลต่อไป” อภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย ให้รายละเอียดด้วยน้ำเสียงไม่สู้จะพอใจต่อกรณีนี้เท่าใดนัก




โรงแรมปฏิเสธ ไม่เคยเลือกลูกค้า
เมื่อมีข้อกล่าวหาก็ต้องมีการสอบปากคำจึงจะบริสุทธิ์ยุติธรรม ทางทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live จึงได้โทร.ไปสอบถามทางโรงแรมทาวน์อิน ทาวน์ กรุงเทพฯ เกี่ยวกับกรณีการเลือกรับลูกค้าว่าทางโรงแรมปฏิเสธกลุ่มเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ อย่างที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่ ทางพนักงานได้แต่ให้รายละเอียดเพียงสั้นๆ ว่า “โดยปกติเราก็ไม่ได้คัดเลือกลูกค้านะคะ เหมือนขายของแหละค่ะ ก็ไม่ได้เลือกลูกค้า แต่หากมีปัญหาเกิดขึ้นก็อาจจะมีพูดคุยทีหลังมากกว่า”

ส่วนตัวผู้บริหารสูงสุดของทางโรงแรม ผู้ซึ่งทางทีมข่าวต้องการความจริงจากปากเขามากที่สุด ขณะนี้ได้เดินทางไปทำกิจธุระในต่างประเทศ จะกลับมาเหยียบผืนแผ่นดินไทยอีกวันที่ 8 ส.ค.ที่จะถึง อย่างไรก็ตาม พนักงานยืนยันว่าทางผู้บริหารน่าจะทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจากข่าวที่ออกไปแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรออกมา ส่วนพนักงานที่ดูแลด้านการติดต่อจองห้องประชุมสัมมนา ปกติแล้วจะเป็นพนักงานฝ่ายขายเป็นผู้ดูแล ซึ่งคงยังให้รายละเอียดอะไรไม่ได้มาก คงต้องรอให้ทางผู้บริหารสูงสุดกลับมาเป็นผู้ตอบคำถามด้วยตัวเองจะชัดเจนที่สุด

ทั้งนี้ ถึงแม้ประเด็นร้อนในครั้งนี้จะเป็นที่สนใจมากที่สุดขณะนี้ แต่บรรยากาศภายในโรงแรมก็ถือว่ายังไม่ส่งผลกระทบอะไรมากมาย เนื่องจากลูกค้าก็ยังจองห้องพักเต็มตามปกติ พนักงานบอกกับทีมข่าวเอาไว้เช่นนั้น ส่วนนี่คืออีกหนึ่งมุมมองจากที่เครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ ได้รับรู้มา “เมื่อวานก็มีนักข่าวโทร.ไปหาเซลส์ของทางโรงแรม ปรากฏว่าเซลส์พยายามบอกว่า เมื่อผู้บริหารสั่งมาอย่างนั้น พวกเขาก็คงทำอะไรไม่ได้น่ะครับ”

หากการเลือกรับลูกค้าของทางโรงแรมคือนโยบายที่มาจากเบื้องบนตามที่ทางเครือข่ายได้บอกไว้ เพื่อรักษาความสบายใจของลูกค้าเกี่ยวกับโรคเอดส์ ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย ก็ขอบอกเอาไว้เลยว่าไม่มีวันเป็นไปได้ นอกจากทางโรงแรมจะขอตรวจเลือดทุกคนที่เข้าใช้บริการ!


(โรงแรมที่ถูกกล่าวหา)

“ทางโรงแรมคงจะต้องเอาผลเลือดของลูกค้าของทุกคนมาดูมั้งครับ ก่อนเลือกว่าจะให้ใช้บริการหรือเปล่า เพราะถ้าดูภายนอก เราดูไม่ออกเลยว่าใครมีเชื้อหรือไม่มี ไม่งั้นใครจะเข้าพักที่โรงแรมทาวน์อินทาวน์ก็คงต้องตรวจเลือดกันทุกคนครับ เพื่อจะการันตีว่าโรงแรมของฉันเนี่ย ไม่มีคนที่อยู่กับเชื้อแน่นอน แล้วโรงแรมจะทำอย่างนั้นหรือเปล่าล่ะครับ

หรือมันเป็นประเด็นเพราะว่าโรงแรมรู้ว่ามีผู้ติดเชื้อมาใช้บริการ คือถ้าผู้ติดเชื้อไม่บอก ทางโรงแรมไม่รู้ก็ไม่เป็นไร แต่พอเขาบอก มันก็เลยมีปัญหา อย่างนั้นหรือเปล่า ซึ่งอย่างนั้นก็คงจะต้องตรวจเลือดทุกคนที่เข้าพักครับ เพราะไม่งั้น ภาพลักษณ์โรงแรมก็อาจจะเสียหายได้ ถ้ามีคนที่มีเชื้อ HIV เข้าไปจองห้องพัก

พอเกิดเรื่องนี้ คนจะชอบถามว่า ในเมื่อโรงแรมนี้ไม่ให้ก็ไปโรงแรมอื่นสิ โรงแรมอื่นอาจจะให้ แต่ผมว่ามันไม่ใช่ประเด็น ไม่อย่างนั้น ถ้าถูกโรงแรมนี้ไม่ให้ ไปโรงแรมอื่น พอโรงแรมอีกที่ไม่ให้ ก็ต้องไปอีกโรงแรมหนึ่งไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นไปได้ จริงๆ แล้ว พวกเราก็อยากให้ภาพออกมาในเชิงบวก ประมาณว่าทางโรงแรมออกมาบอกว่าเข้าใจคลาดเคลื่อนไปหรือยังไง ก็อยากให้มาคุยกันเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ไม่มีอะไรเสียหายครับถ้าเราเปิดใจและทำความเข้าใจ เรื่องนี้มันคือเรื่องทัศนคติ ถ้าทุกคนเข้าใจ ทุกอย่างก็จะปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น”

เทียบกับก่อนหน้านี้ที่เคยจัดสัมมนาที่โรงแรมแห่งนี้มาก็ไม่เคยมีปัญหา ทั้งๆ ที่มาใช้บริการปีๆ หนึ่งถี่มากทีเดียว “ที่เคยใช้งาน ก็ไม่ได้มีแค่เครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ องค์กรเดียวนะครับ บางที เดือนหนึ่งก็มี 2 ครั้ง หรือเดือนเว้นเดือน มันไม่แน่ไม่นอน หรือแม้แต่องค์กรด้านเอดส์ก็ใช้ที่นี่หมด แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม พอถามแล้วได้ความมาว่า ถ้าเป็นองค์กรเกี่ยวกับเอดส์ ทำงานด้านเอดส์ หรือมีอะไรเกี่ยวข้องกับคำว่าเอดส์ เขาจะปฏิเสธทันที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีท่าทีอะไรเลย ให้เราใช้บริการมาตลอด และทุกครั้งเราก็จะติดต่อขอจองล่วงหน้า 2 อาทิตย์ และมีใช้ที่อื่นหลายที่ด้วย ตามเรตที่พอจ่ายได้ ซึ่งโรงแรมอื่นก็ไม่ได้มีประเด็นปัญหาอะไรเกิดขึ้น

เรื่องนี้คงต้องให้ทางคณะกรรมการสิทธิฯ ตรวจสอบหาข้อมูลกันต่อไป เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ดีขึ้น ผมคิดว่าการร้องเรียนในครั้งนี้จะเป็นบรรทัดฐานและให้โอกาสสังคมได้เรียนรู้ ส่วนถ้าในอนาคต เคลียร์กันแล้ว จะกลับไปใช้บริการโรงแรมเดิมมั้ย คงต้องกลับมาคุยกันอีกทีครับ เป็นเรื่องสิทธิผู้บริโภค ผู้บริโภคมีทางเลือกครับ




สังคมไทย รังเกียจแบบเนียนๆ?
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชวนให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความเข้าใจเรื่องโรคเอดส์และการปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อฯ ว่าคนในสังคมมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน เพราะดูเหมือนว่าทุกคนจะรับรู้ร่วมกันว่าเอดส์ไม่ได้ติดต่อจากการใช้ชีวิตประจำวันร่วมกัน แต่เบื้องลึกแล้ว หลายสถาบันก็ยังแสดงท่าทีรังเกียจและกีดกันด้วยวิธีที่เรียกได้ว่า “แนบเนียน” อภิวัฒน์ ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ บอกอย่างนั้น

“จริงๆ แล้ว ความเข้าใจในเรื่อง HIV ในแง่มุมด้านการรักษา ผมว่าประเทศเราก้าวหน้ามากนะ เพราะมันรักษาได้แล้ว แต่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง เหลือแต่โจทย์เรื่องปัญหาการกีดกัน-เลือกปฏิบัติครับ ที่ยังต้องปรับกันต่อไป

ยิ่งเดี๋ยวนี้ยิ่งเนียนกันมากขึ้น ตอนนี้มีคนที่มีเชื้อ HIV และใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นในไทย จำนวนอยู่ที่ประมาณ 500,000 คน คนกลุ่มนี้เข้าถึงการรักษาแล้วนะครับ แต่เขายังคงถูกเลือกปฏิบัติอยู่ เวลาไปเรียนก็ไม่ค่อยสะดวกใจ โรงเรียนก็บังคับตรวจเลือดก่อนเข้าเรียน อันนี้เคยมีกรณีนักศึกษาคนหนึ่งที่อยู่ในขั้นตอนการฟ้องร้องซึ่งผมก็เป็นโจทก์ร่วมด้วย ฟ้องร้องมหาวิทยาลัยกับโรงพยาบาลที่ละเมิดนักศึกษา

จริงๆ แล้ว การตรวจเลือดหา HIV มันเป็นการตรวจโดยสมัครใจและเป็นความลับ เป็นสิทธิส่วนบุคคล การที่สถาบันใดสถาบันหนึ่งบังคับให้ตรวจเลือดแล้วเอาผลมาใช้เพื่อกีดกัน-เลือกปฏิบัติ มันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว

การตรวจเลือดทั่วไปตามสถาบันต่างๆ เพื่อใช้ในการสมัคร แต่ส่วนใหญ่ทางมหาวิทยาลัยเอกชนกับโรงพยาบาลจะมีของแถมให้ตรวจ HIV ด้วย ซึ่งผลเลือดตรงนี้ต้องได้รับความคุ้มครอง แต่หลายคนเอามาเป็นเงื่อนไขในการที่จะรับเข้าเรียน-เข้าทำงาน อันนี้คือบรรยากาศในสังคมที่เป็นอยู่ครับ ต้องยอมรับว่าประเทศเรายังเลือกปฏิบัติ มันเป็นเรื่องของความรู้สึกของคน เพราะฉะนั้น ต้องอาศัยกระบวนการทำความเข้าใจและเรียนรู้กันไป แล้วทัศนคตินั้นจะค่อยๆ ดีขึ้น

ตัวผมเอง มีเชื้อ HIV มากว่า 20 ปีแล้ว ผมอยากจะบอกว่ามันไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการมีชีวิตเลยครับ ชีวิตยังก้าวต่อไปได้ ยังทำงานได้ ยังมีฝันเหมือนกับคนทั่วไป ไม่ได้ต่างจากคนที่ไม่มีเชื้อ ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมอยากบอกให้รู้ จุดนี้แหละที่เราต้องเปลี่ยนทัศนคติของสังคมใหม่ อยากให้เข้าใจว่าเอดส์รักษาได้ HIV ป้องกันได้ ให้เขารู้ว่าผู้ติดเชื้อ HIV เรียนได้ ทำงานได้ มีครอบครัวได้ เรามาช่วยกันสร้างบรรยากาศใหม่ๆ ทางสังคมกันดีกว่า”

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าทางโรงแรมจะมีท่าทีอย่างไรต่อเรื่องนี้ แต่นี่คือความคิดเห็นของ นิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ที่ขอฝากเกี่ยวกับกรณีอันน่าน้อยใจนี้เอาไว้ว่า
“ในฐานะของผู้ให้บริการควรมองคนอย่างให้เกียรติ ไม่ใช้อคติส่วนตัวมาแบ่งแยกว่าติดเชื้อฯ หรือสงสัยว่าจะติดเชื้อฯ แล้วไม่ให้บริการ ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่แย่มาก ทั้งที่เราเชื่อว่าคุณเป็นมืออาชีพในการจัดบริการให้กับลูกค้า ไม่ใช่มารังเกียจและกีดกันลูกค้าของคุณเอง


ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
Facebook Fanpage: ASTV ผู้จัดการ Live
Instagram: @ASTV_Live



ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754


เข้ายื่นหนังสือ เรียกร้องสิทธิ์กับ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

หนังสือจากกลุ่มเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ
โรงแรมที่ถูกกล่าวหา
กำลังโหลดความคิดเห็น