เป็นเรื่องน่าตื่นตะลึงว่าในขณะที่ผู้ชุมนุมกลุ่มกปปส.ถูกกลุ่มคนร้ายโจมตีด้วยอาวุธหนักจนบาดเจ็บล้มตายแทบจะเป็นข่าวรายวัน แต่ทหารชุดคุ้มครองกลับไร้อาวุธใดๆ มีแค่กระบองและกระบอกไฟฉายไว้ปกป้องชีวิตประชาชนเท่านั้น!!!!
ทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ออกเดินสำรวจพื้นที่รอบๆ ถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นบริเวณชุมนุมของกลุ่มกปปส. พบว่ามีซุ้มฐานของทหารผุดขึ้นหนาตา หลังจากทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับทหารชุดคุ้มกันที่ถูกส่งมาประจำหน่วยรอบๆบริเวณนั้น พบข้อมูลน่าตื่นตะลึง ทั้ง 3 ซุ้มทหารระบุตรงกันว่าทหารไม่มีอาวุธปืนหรืออาวุธหนักใดๆ มาปฎิบัติหน้าที่!
ทั้งนี้จ่าสิบเอกนายหนึ่ง ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดชป.และปฎิบัติหน้าที่อยู่ในฐานบริเวณรอบๆ ถนนราชดำเนินได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ถึงความรู้สึกที่ได้มาทำหน้าที่ปกป้องประชาชนว่า
“ผมคิดว่าทหารกองทัพบกทุกคนมีความภูมิใจที่ได้ปฎิบัติหน้าที่ตามนโยบายของผู้บัญชาการกองทัพบก คือ ทหารต้องให้ความช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ นักการเมือง ประชาชนชาวไทย ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหน ฝ่ายไหน เราคิดว่าพี่น้องประชาชนคือประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งเราต้องให้ความช่วยเหลือ เพราะเราได้รับนโยบายมาอย่างนี้
“การปฎิบัติงานของเรา เราจะทำงานช่วยเหลือประชาชนไปตามขั้นตอน เริ่มตั้งแต่เบาไปหาหนัก ถ้าไม่มีเหตุอะไรเลย หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนเล็กๆ น้อย ๆ หรือแม้กระทั่งการถามทาง ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ เราก็ช่วย” จ่าสิบเอกนายนี้กล่าว
แล้วทหารมีอาวุธอะไรมาใช้ในการปฎิบัติหน้าที่ครั้งนี้?
“ไม่มีการใช้อาวุธ เพราะเราจะไม่มีการใช้กำลังกับพี่น้องประชาชน จึงไม่มีอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น เรามีแค่มีเพียงชุดปฐมพยาบาลช่วยเหลือ โล่, กระบอง,กระบอกไฟฉาย และหมวกป้องกันครับ”
เมื่อทีมข่าวตั้งคำถามว่าทำไมทหารที่มาปฎิบัติหน้าที่จึงไม่มีอาวุธมา หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือกลุ่มคนร้ายที่ทำร้ายผู้ชุมนุมผ่านมา ทหารจะทำหน้าที่ตามจับหรือตอบโต้กลุ่มคนร้ายได้อย่างไร นายทหารท่านนี้ตอบว่าทหารจะต้องทำหน้าที่ตามขั้นตอนคือ เจรจาก่อน ,แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ ,ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และรายงานต่อผู้บังคับบัญชาในระดับขั้นสูง
ข้อสังเกตในเรื่องนี่้คือกองกำลังทหารที่ไร้อาวุูธใดๆ จะไปสู้กับกองโจรติดอาวุํธที่มุ่งโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมกปปส.ได้อย่างไร นี่จึงเป็นคำถามที่ทีมข่าวตั้งข้อสงสัยต่อไปว่า
แล้วตำรวจที่มาช่วยเหลือมีอาวุธอะไรมาบ้าง ?
“ก็ไม่ทราบ แต่ผมก็ไม่เห็นมีอาวุธอะไรมานะครับ ส่วนทหารเราไม่มีอาวุธ เพราะไม่ได้รับคำสั่ง เป็นนโยบายของผู้บังคับบัญชาหรือเบื้องบนที่สั่งการว่าไม่ให้ใช้อาวุธรุนแรงเด็ดขาด ดังนั้นเราเลยไม่ได้เบิกมาจากหน่วย มีแต่โล่ กระบอง และหมวกป้องกันศรีษะ”
ไม่มีอาวุธใช้ปกป้องประชาชนและป้องกันตัวแบบนี้ รู้สึกกลัวหรือห่วงเรื่องความปลอดภัยไหม?
“ผมว่าในใจลึกๆทุกคนก็ต้องกลัว แต่เราก็ต้องกล้าที่จะเสียสละมาปฎิบัติงาน เพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนทุกคน”
ทั้งนี้จ่าสิบเอกนายนี้ให้เหตุผลที่ไม่มีการพกอาวุธปืนหรืออาวุธหนักในการปฎับัติงานครั้งนี้ว่า
“คงยังไม่ต้องถึงใช้อาวุธ ถ้าทหารใช้อาวุธ คงจะเป็นสงครามที่มีการต่อสู้ เช่น สงครามกับพม่า หรือสงครามกับเขมรมากกว่า แล้วด้วยเกียรติของทหารหรือข้าราขการทุกคนในประเทศไทย ผมเชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนจะให้ความรักและความเคารพทหารที่อยู่เคียงข้างประชาชนครับ”
แล้วถ้ามีกลุ่มคนร้ายเข้ามาโจมตีผู้ชุมนุมอีก แต่ทหารไม่มีอาวุธปืนใดๆ ตอบโต้ จะทำยังไงต่อไป?
“นี่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องทำหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษ คือทำหน้าที่ตามลำดับขั้นตอนต่อไปครับ” จ่าสิบเอกคนเดิมให้คำตอบ
จากนั้นทีมงาน ASTV ผู้จัดการ Live ยังได้เข้าไปสอบถามและพูดคุยกับทหารนายอื่นๆอีกสองซุ้ม ก็ได้ความตรงกันว่าทหารที่มาปฎิบัติหน้าที่ในบริเวณนี้ไม่มีอาวุธปืนหรืออาวุธหนัก มีเพียงเสื้อเกราะ,โล่,กระบอง และกระบอกไฟฉาย
เชื่อว่าเรื่องนี้คงสร้างความกังขาสงสัยให้แก่ประชาชนว่า ในสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติเช่นนี้ คือมีกลุ่มกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายใช้อาวุธหนักโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมกปปส. แต่ทำไมทหารที่อยู่บริเวณนั้นกลับไม่มีแม้แต่อาวุธใดๆ ใช้ในการปกป้องชีวิตตัวเองหรือชีวิตประชาชน มีเพียงแค่กระบอง, โล่,เสื้อเกราะ และกระบอกไฟฉายไว้ติดกายเท่านั้น
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงคำแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ระบุว่าขอให้กำลังใจทุกฝ่ายร่วมกันแก้ไขปัญหาชาติ ให้ใช้วิธีสงบสันติ ไม่สร้างเงื่อนไข รวมถึงมีการประณามเหตุยิงผู้ชุมนุม และกล่าวว่าหากสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทหารอาจจำเป็นต้องออกมาระงับเหตุการณ์ความรุนแรงอย่าง “เต็มรูปแบบ” เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติโดยรวม
ดังนั้นงานนี้คงต้องให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ออกมาให้คำตอบว่า “การตอบโต้เต็มรูปแบบ” ของทหารจะเป็นอย่างไร ใช่การใช้กระบองและกระบอกไฟฉายอย่างเช่นปัจจุบันนี้หรือไม่ รวมถึงทหารจะสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชนได้อย่างไรและที่สำคัญคือ “เมื่อไหร่”
เชื่อว่าเรื่องนี้คงจะกลายเป็นบทพิสูจน์ “ความจริงใจ” ของฝ่ายทหารได้ชัดเจนที่สุด
เรื่องโดย ASTV ผู้จัดการ Live
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage ของ "ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!