รองโฆษก ทบ.ชี้แจงคำแถลง ผบ.ทบ.ขอให้กำลังใจทุกฝ่ายร่วมกันแก้ไขปัญหาชาติ แต่ขอให้ใช้วิธีสงบสันติ ไม่สร้างเงื่อนไข พร้อมประณามเหตุยิงผู้ชุมนุมเมื่อคืนที่ผ่านมา วอนร่วมประณามความรุนแรง ให้เบาะแสแก่กองทัพบกทันที เตือนถ้ากองกำลังติดอาวุธตอบโต้ ทหารจะออกมาระงับความรุนแรงเต็มรูปแบบ พร้อมเตือนคนที่คิดจะล้อมหน่วยทหารให้หยุดทันที อีกด้านยันทหารไม่อยู่เฉย เตือนระวังคำพูดหมิ่นศักดิ์ศรีกองทัพ
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.15 น. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวชี้แจงคำแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ระบุว่า ขอเป็นกำลังใจให้ทุกพวกทุกฝ่ายที่กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมืองเพื่อนำประเทศชาติไปสู่ความสงบเรียบร้อย ทั้งด้วยวิธีการทางกฎหมาย การพูดคุยเจรจา หรือสันติวิธีอื่นๆ ก็ดี อย่างไรก็ตาม การใช้ช่องทางตามกฎหมาย หรือการพูดคุยประชุมหารือกันอาจไม่ประสบผลมากนักในห้วงเวลานี้ เพราะมีข้อถกเถียงและข้อโต้แย้งมากมาย และอาจไม่ทันต่อสถานการณ์ซึ่งมีแนวโน้มเกิดความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นทุกฝ่ายควรดำเนินการด้วยวิธีการอันสงบสันติ ไม่สร้างเงื่อนไขและปัญหาเพิ่มมากขึ้น ต้องหยุดสร้างความรุนแรง และช่วยกันนำพาประเทศชาติออกจากความขัดแย้งให้ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ จากสถานการณ์การใช้อาวุธเมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค. มีทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้กระทำ ล้วนแต่เป็นการกระทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น จึงขอให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมช่วยกันประณามทุกฝ่ายที่ใช้ความรุนแรง และใช้อาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งขอให้ส่งข้อมูลหรือเบาะแสให้กองทัพบกทันทีเมื่อได้รับทราบ
พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า การที่หลายฝ่ายกล่าวพาดพิง ผบ.ทบ.และ ผบ.เหล่าทัพว่าอยู่เฉย ไม่ดำเนินการใดๆ ขอเรียนว่ากองทัพได้ดำเนินการทุกอย่าง มาด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหาในครั้งนี้มีความซับซ้อน และมีผลกระทบในหลายมิติ ขอเตือนผู้กล่าวให้ร้ายกองทัพ ให้ระมัดระวังคำพูด ซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของกองทัพ ทหารทุกคนไม่สามารถยอมรับได้
นอกจากนี้ยังขอเตือนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้หยุดการกระทำนั้นตั้งแต่บัดนี้ เพราะหากสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทหารอาจจำเป็นต้องออกมาระงับเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติโดยรวม หรือหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นจนมีแนวโน้มถึงขั้นจะเกิดการจราจล เพื่อความสงบเรียบร้อย กองทัพอาจมีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเข้าคลี่คลายสถานการณ์
“ในขั้นนั้นหากมีผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มบุคคล หรือกองกำลังติดอาวุธ ตอบโต้กองทัพ หรือทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อีก บุคคลผู้นั้น หรือกลุ่มบุคคลนั้นจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการทางกฎหมายปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดยผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวอาจจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ได้ เช่นกันกับกลุ่มบุคคลที่มีความคิดจะบุกรุกหรือปิดล้อมหน่วยทหาร ขอให้ยุติแนวคิดการกระทำดังกล่าวโดยทันที” พ.อ.วินธัยกล่าว
รองโฆษกกองทัพบกกล่าวอีกว่า กองทัพบกเป็นของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนคนไทยทุกคน มิได้เป็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่กองทัพก็ต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ และประชาชน เมื่อมีความจำเป็น อย่างเต็มความสามารถ จึงขอเรียนให้ทราบโดยทั่วกัน