เรื่องของเสพ ไม่ใช่สิ! เสก โลโซ พิจารณากันด้วยข้อเท็จจริงแล้วไม่ได้มีปมลึกใดๆ นอกจากศิลปินคนหนึ่งถูกจับได้และยอมรับอย่างจำนนว่าเสพยานรกจริง แต่ที่เป็นข่าวหน้าหนึ่งเกือบทุกวันเพราะ คุณเสก ยังไม่อยากจบ อยากลบล้างมลทินต่างๆให้สังคมยอมรับ เพื่อหากินในวงการดนตรีได้ต่อไป
แต่เหตุการณ์นี้ ไม่ไช่เป็น เพียง “ฝนตกที่หน้าต่าง” ดั่งเพลงของเขา และนับวันฝนที่ตกในชีวิตจริงของเสกครั้งนี้ น้ำได้ท่วมบ้านเสกจนมิดหลังคาเรียบร้อยไปแล้ว
จำได้ว่าครั้งแรกที่ภาพของคุณเสก ถูกโพสต์ในเฟชบุ๊กกับอุปกรณ์เสพยา ผมเชื่อว่าบางคนที่เห็นอาจรู้สึกเฉยๆ เพราะยาเสพติดกับศิลปินร็อกมักได้ยินมาบ่อยว่าเขาเล่นยากันเป็นเรื่องปกติ และมีศิลปินนักร้อง ดาราไทยจำนวนไม่น้อยริลองกับยานรก เพียงแต่จะถูกจับได้ และเปิดเผยออกมาหรือไม่
หากแต่ประเด็นของคุณเสกบานปลายไปหนักขึ้น กับกรณีการทิ้งลูกทิ้งเมีย แม้จะจริงหรือไม่จริงก็ตามแต่สังคมไทยรับเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยได้ ยิ่งเป็นคนสาธารณะ และการออกมาแฉของอดีตภรรยา ยิ่งทำให้แฟนเพลงบางคนเริ่มรู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์นักร้องคนนี้มากขึ้น
ขณะเดียวกันพื้นฐานอารมณ์ และมารยาททางคำพูดของนักร้องร็อกผู้นี้ ยิ่งมีเหตุ ยิ่งมีผล ดูจะเลวร้ายลงทุกวัน ใครที่ฟังคำสัมภาษณ์ของเสก จะพบว่าหลายคำพูดทำให้คนฟังรู้สึกงงๆ แต่ใจความหลายอย่างบ่งบอกว่า เขาหลงตัวเองสุดๆถึงขั้นมองตัวเองว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เก่ง และเป็นผู้ทรงคุณค่าขององค์กรต้นสังกัด นั่นคือแกรมมี่
ผมคงไม่เถียงว่า ศิลปินร็อกผู้นี้ไม่มีความสามารถ เขาคือไอดอลของใครหลายคนที่มีภาพของนักดนตรีร็อก ใส่แว่นดำ ผมหยิกสลวย โซโลกีตาร์ ท่ามกลางผู้ชมนับหมื่นนับแสนคนที่หลงใหลชื่นชอบในตัวเขา ผลงานเพลงของเขามีมากมายและบางเพลงของเขาอมตะ ร้องกันได้ถึงทุกวันนี้
แต่คุณเสก อาจไม่รู้ซึ้งหรอกว่า เมื่อมีรักได้ ชื่นชมได้ ย่อมมีขื่นขมได้ และหมดรักไปได้เช่นกัน เป็นสัจธรรมของโลก หากศิลปินผู้นั้นทำให้แฟนเพลงหมดศรัทธา ทั้งการประพฤติตัว กิริยามารยาท และความทะนงตัวเองตลอดเวลาว่า “กูยิ่งใหญ่ เจ๋ง”
หรือช่วงนี้เป็นภาวะ “ใจสั่งมา” หรือเปล่าผมไม่แน่ใจ เพราะตั้งแต่เกิดประเด็นเสพยา เขายิ่งดูเพี้ยน และฟังความจากบทสัมภาษณ์ยิ่งน่าหดหู่ใจ ที่ว่า ศิลปินอาร์ติสท์ต้องใช้ยาเสพติด เพราะคนดังระดับโลกเขาใช้กันเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่เราต้องควบคุมมันให้ได้
บทสัมภาษณ์ดังกล่าวที่ออกจากปากของเขา มีหลายคนเริ่มเกลียดเสก ยิ่งฟังคำพูดถึงการโจมตี ด่าทอ ไม่สำนึกบุญคุณกับค่ายเพลงที่ปั้นเขาขึ้นมาอย่างแกรมมี่ ตลอดเวลาที่เขาได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ต ทำให้ เสก โซโล กลายเป็นผู้ร้ายมากขึ้นๆ ตามลำดับ
ผมว่าถ้าคุณเสก ยอมรับอย่างลูกชายว่าเสพยา พร้อมสัญญาจะกลับตัวกลับใจเลิกยา เดินหน้าสร้างผลงานเพลงอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน เพื่อพิสูจน์ตัวเอง เชื่อว่าเหตุการณ์น่าจะสง่างามกว่านี้และแฟนเพลงจะรักเขายิ่งขึ้น
แต่คุณเสก เลือกที่จะยอมรับและวางตัวเองเป็น “ผู้ร้ายที่โดนจับผิด” โดยไม่ได้สำนึกผิด กร่างทั้งคำพูด กิริยา พร้อมประกาศกร้าวว่า ถ้าใครหมดศรัทธาผมแล้ว ผมเดินทางไปอยู่ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ และอาจจะไม่กลับมาเมืองไทยอีก
ฝากบอกคุณเสกไปว่า “ไปเถอะครับ” ไม่ต้องห่วงฉัน...
