ศิลปะ เสพแล้วอิ่มใจแต่ไม่อิ่มท้อง… ใครที่เคยสบประมาทด้วยความคิดคล้ายๆ กันเอาไว้ ถึงเวลาที่คุณต้องหันมาเปิดหูเปิดตาไปกับพื้นที่ใหม่ๆ เสียที จะได้รู้ว่าความรู้สึกอิ่มท้องและอิ่มเอมใจนั้น สามารถเดินทางไปด้วยกันได้อย่างลงตัว เมื่ออยู่ในร้านอาหารลานศิลปะแห่งนี้... มังคุดคาเฟ่
หลายคนอาจยังสงสัยว่าการเสพศิลปะจะทำให้อิ่มท้องได้อย่างไร แต่เจ้าของร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยารายนี้ยืนยันกับทีมงานไว้อย่างแน่นหนักว่า บรรยากาศแห่งศิลปะที่รายล้อมอยู่รอบบริเวณจะช่วยให้ผู้มาเยือนทุกคนสามารถอิ่มใจไปพร้อมๆ กับอิ่มท้องได้จริงๆ
เริ่มจากศิลปะที่โดดเด่นที่สุดบนพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งเป็นศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติ เพียงแค่มองออกไปยังทิวทัศน์ภายนอกร้าน จะเห็นความงามสุดลูกหูลูกตาบนโค้งน้ำริมเจ้าพระยา ไม่ว่าจะเป็นยอดพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่สะท้อนแสงสีส้มริมขอบฟ้ายามตะวันตกดิน ความงามของปราสาทพระบรมมหาราชวังในยามราตรี หรือแม้แต่สะพานพระรามแปด สถาปัตยกรรมสุดตระการตากลางแม่น้ำ ทั้งหมดนี้คืองานศิลปะอันล้ำค่าที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ จากร้านทั่วไป แต่มีไว้ให้ลูกค้าของร้านเข้าชมโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เมื่อหันกลับมาให้ความสนใจกับบรรยากาศภายในร้านอีกครั้ง จะพบกับศิลปะอีกหลากหลายแขนงที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ ตั้งแต่มุมแกเลอรี่ซึ่งมีภาพวาดของเหล่าศิลปินเรียงรายอยู่บนฝาผนังตลอดแนว ไม่ห่างกันนักคือพื้นที่เวทีขนาดกลาง ใช้แสดงนาฏศิลป์ร่วมสมัย แสดงดนตรีสด และใช้เป็นพื้นที่ฉายหนังสั้นในคราวเดียวกัน ไม่ลืมตบท้ายด้วยการสอดแทรกศิลปะไว้บนจานอาหาร ศิลปะแขนงสุดท้ายซึ่งผ่านการตกแต่งเติมรสจากฝีมือเชฟชื่อดัง จากงานศิลป์ทั้งหมดที่กล่าวมา ถ้าผู้มาเยือนยังไม่ได้กลับบ้านไปด้วยความอิ่มเอม ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว
“มีทั้งภาพวาดของศิลปิน ซึ่งจะเปลี่ยนไปทุกเดือน มีการแสดงบนเวทีของคณะโกมลกูณฑ์ เป็นคณะนาฏศิลป์ไทยร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ มีการแสดงดนตรีสด แล้วก็มีหนังสั้นจากมูลนิธิหนังไทยมาฉายตลอด ถือเป็นความบันเทิงระหว่างกินข้าว ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าลูกค้าจะซาบซึ้งไปกับศิลปะอะไรมากมายนะ แค่อยากเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาได้รื่นรมย์ไปกับงานศิลปะ แต่ถ้าใครติดใจไปต่อยอดทีหลังได้ก็น่ายินดีครับ” รัก อนุรักษ์ แพรโรจน์ เจ้าของร้านมังคุดคาเฟ่ พูดถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้
นอกจากคอนเซ็ปต์เรื่องศิลปะแล้ว พื้นที่ของร้านยังมีความทรงจำที่น่าสนใจอีกด้วย จากเดิมเนื้อที่กว่า 300 ตร.ม. แห่งนี้เคยเป็น “วังสวนมังคุด” ที่ประทับในพระราชนัดดาแห่งรัชกาลที่ 1 ซึ่งโดยรอบเป็นพื้นที่สวนผลไม้ทั้งหมด คุณรักจึงตัดสินใจคงชื่อร้านไว้อย่างเดิม ทั้งยังนำเมนูชาววังมาปรับเป็นอาหารไทยฟิวชันประจำร้าน เพื่อให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ของพื้นที่ และสร้างเอกลักษณ์ที่น่าจดจำให้แก่ร้าน
พูดถึงเอกลักษณ์ประจำร้าน ต้องประเดิมด้วยเมนูแรกที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร แค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่าเป็นผลผลิตของร้านอย่างแน่นอน “ข้าวผัดริมน้ำท้ายสวนมังคุด” ตัวข้าวให้สีและรสชาติคล้ายข้าวอบไก่ มีเครื่องเคียงหลากหลายรสชาติเรียงรายให้ผู้ชิมได้ลิ้มลองไม่รู้เบื่อ ทั้งไข่ทอดชะอม ปลาทูทอด ปลาไส้ตัน และผักทอดผักสดอีกหลากชนิด แค่เพียงเปลี่ยนองศาช้อนเลือกเครื่องเคียงต่างรูปแบบ ก็จะได้รสชาติที่หลากหลายแต่ลงตัว ยิ่งลองได้ราดน้ำพริกกะปิเพิ่มความจัดจ้านลงไป ยิ่งช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้รสสัมผัสในปากได้เป็นกอง คนที่กินอาหารเผ็ดไม่ได้ไม่ต้องกลัว เพราะน้ำพริกที่นี่ไม่เผ็ดจนเกินไป แต่ยังคงความจัดจ้านอยู่ในตัว แนะนำให้ผู้มาเยือนสั่งเมนูนี้ก่อนใคร จะได้นำชื่อเมนูกลับไปโม้ได้ว่ามาถึงสวนมังคุดแล้ว!
“ผัดไทยล้านนา” อีกหนึ่งอาหารชื่อหรูรูปทรงน่าสน คุณรักกระซิบบอกมาว่าได้แรงบันดาลมาจากผัดไทยเกี๊ยวกรอบ แต่ลองเอาความคิดขี้เล่นของตัวเองใส่เข้าไป จึงเปลี่ยนให้เกิดความแตกต่างได้อย่างที่เห็น มองให้ดีจะเห็นอาหารจานนี้หน้าตาเหมือนหญิงไทยรวบผมโดยใช้ปิ่นปัก เกิดจากการนำแผ่นเกี๊ยวทอดมาประดับบนเส้นผัดไทยให้เหมือนทรงผมของผู้หญิง แล้วใช้ต้นหอมมาเสียบทับอีกครั้งแทนปิ่นปักผม จากผัดไทยธรรมดาๆ จึงกลายเป็นผัดไทยล้านนาโดยทันที สำหรับคนรักไวน์ ทางร้านแนะนำให้เปิดไวน์เมอโลต์ (Wine Cantavida Merlot) จิบไปพร้อมๆ กับเมนูนี้ด้วย รสละมุนของน้ำองุ่นที่มีเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ไม่หนักมากนัก จะช่วยเพิ่มรสกลมกล่อมให้อาหารจานนี้ได้มากทีเดียว
อีกจานที่เด่นมาตั้งแต่บริกรเสิร์ฟลงบนโต๊ะ “หมูตุ๋นเห็ดหอม” การจัดแต่งด้วยจานแนวยาว แบ่งอาหารออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ฝั่งหนึ่งคือมันบดเคียงกับหมูตุ๋น ส่วนอีกฝั่งคือผักต้มเนื้อนิ่ม มีทั้งบรอกโคลี แครอต และเห็ดหอม ครบรส เมื่อตักชิ้นอาหารจากทั้งสองฟากมาป้อนรวมอยู่ในปากเป็นคำเดียว ช่วยให้ได้รสชาติที่ผสมกันอย่างลงตัว มันบดเนื้อละเอียดเมื่อคลุกเคล้ากับหมูตุ๋น ช่วยเพิ่มรสละเมียดให้แก่กันได้อย่างน่าทึ่ง ยิ่งมีความหวานของผักต้มสุกเข้าไปเสริม ยิ่งได้รสชาติที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้หมูตุ๋นจะมีเนื้อมันๆ ติดจนอาจทำให้นักชิมบางรายถอดใจเพราะกลัวอ้วน แต่รับรองว่าถ้าได้ลิ้มรสสักคำหนึ่งแล้ว รายไหนรายนั้นต้องละเลียดจนหมดจาน
ยังมีจานเด่นอีกหลายเมนูที่บรรยายรายละเอียดได้ไม่หมด “ปลาซอสมะขาม” เนื้อปลาลงตัวดีกับซอสมะขามรสไม่เปรี้ยวไม่หวานเกินไป ถือเป็นเมนูที่น่าลิ้มลองอีกอย่างหนึ่ง สำหรับคนรักของหวาน ทางร้านมีเมนูหวานๆ แต่ไม่เลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นเมนูที่จะเปลี่ยนไปทุกเดือน โดยเดือนร้อนอย่างนี้จะเป็น “แตงโมปลาแห้ง” เมนูของว่างจากในวัง นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมโฮมเมดหลากรส และผลไม้ลอยแก้วตามฤดูกาลพร้อมให้บริการด้วย ถ้าจะมาเป็นลูกค้าร้านนี้ แนะนำให้เตรียมเนื้อที่ในกระเพาะมาให้มากๆ เพราะทั้งของหวานของคาวที่นี่ น่าลิ้มลองแทบทุกเมนู ตัดใจลำบากจริงๆ
รายงานโดย ทีมข่าว M-Lite / ASTV สุดสัปดาห์
ร้านมังคุดคาเฟ่
ตั้งอยู่ในซอยอรุณอมรินทร์ 18 (ซอยวัดระฆัง) หากมีรถส่วนตัว แนะนำให้จอดรถที่ภัทราวดีเธียเตอร์ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน ผู้ที่เดินทางมาเอง ให้นั่งเรือข้ามฟากจากท่าพระจันทร์มาลงท่าศิริราช หรือนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงสถานีสะพานตากสิน ต่อเรือด่วนเจ้าพระยามาลงท่าศิริราช จากนั้นเดินตรงมาทางวัดระฆัง ประมาณ 200 เมตรจะถึงที่หมาย
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30-24.00 น. (ยกเว้นวันจันทร์)
เบอร์ติดต่อ 0-2866-2143
(หากต้องการชมการแสดงนาฏศิลป์ ดนตรีสด และหนังสั้น กรุณาโทร.มาสอบถามก่อน)