มานะ พรศิริเชิด นักแข่งสังกัดมิตซูบิชิ แรลลีอาร์ต สิงห์ ทีม ประเทศไทย มีอันต้องพลาดโชว์ลวดลายในแรลลีดาการ์เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจาก ดาการ์ 2008 ถูกประกาศยกเลิกก่อนการออกสตาร์ทเพียง 1 วัน จากปัญหาก่อการร้ายในมัวริทาเนีย จนทำให้ในปี 2009 แรลลีหฤโหดรายการนี้จะย้ายไปแข่งยังทวีปอเมริกาใต้
ซึ่งก่อนที่เจ้าหนึ่งจะบินลัดฟ้าไปยังประเทศอาร์เจนตินาเพื่อออกสตาร์ทสเตจแรก "ดาการ์ แรลลี 2009 อาร์เจนตินา-ชิลี" ในวันที่ 3 มกราคมนี้ ทีมข่าวกีฬาผู้จัดการ มีโอกาสได้พูดคุยแบบหมดเปลือกกับ "จ้าวพายุทะเลทราย" ที่หวังจะนำธงชาติไทยไปโบกสะบัดที่เส้นชัยของแรลลีรายการเก่าแก่ของโลกให้ได้อีกครั้ง
MGR Sport : ความรู้สึกแรกที่รู้ว่า ลิสบอน-ดาการ์ 2008 ถูกยกเลิกก่อนออกสตาร์ทเพียงแค่ 1 วันของคุณเป็นอย่างไร ?
มานะ : วูบแรกที่ได้รู้คือยังไม่เชื่อครับ เช็คข่าวแล้วก็ยังไม่แน่ใจ แต่พอกลับมาถึงที่ตรวจสภาพ ซึ่งเป็นจุดสตาร์ท เลยได้เห็นว่าทีมแข่งแต่ละทีมกำลังเก็บของกลับบ้านกันแล้ว ทำให้ทราบว่ายกเลิกจริงๆ ซึ่งทั้งผมเองและทีมงานเองก็งงว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร มันทำให้เราเสียใจมาก เพราะครั้งนั้นเรามีความพร้อมและความตั้งใจมากที่จะทำผลการแข่งขันให้ได้ดีที่สุด โดยเฉพาะตั้งเป้าจะจบท็อป 30 ให้ได้
MGR Sport : ดาการ์ 2009 จะไปแข่งกันที่อเมริกาใต้ มีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรสำหรับครั้งนี้?
มานะ : สภาพที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากเมืองไทยและที่อื่นในโลกคือความสูงจากระดับน้ำทะเล เส้นทางใหม่นี้จะมีความสูงถึง 3,000 - 4,000 เมตร น่าจะมีปัญหาบ้างสำหรับผมในเรื่องการหายใจ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการออกกำลังกายเน้นหนักเพื่อให้ร่างกายพร้อมที่สุดอยู่แล้ว แต่ปีนี้ที่มีเพิ่มเข้ามาก็คือการดำน้ำ เนื่องจากคิดว่ามันน่าจะช่วยได้เยอะในเรื่องของการหายใจ ส่วนเรื่องของการแข่งขัน ทีมงานมองว่าการได้ขับรายการในประเทศอย่างต่อเนื่องน่าจะเป็นผลดี โดยผมใช้รายการชิงแชมป์ประเทศไทยเป็นที่ฝึกซ้อม และการทดลองเทคนิคต่างๆ ให้ได้มากที่สุด มาตลอดปีที่ผ่านมา
MGR Sport : เป้าหมายปีนี้ในดาการ์ แรลลี 2009 อาร์เจนตินา-ชิลี ?
มานะ : ทุกอย่างเปลี่ยนใหม่หมด ทำให้เราไม่กล้าที่จะตั้งความหวังอะไรมาก ขั้นแรกแน่นอนเราต้องจบการแข่งขันให้ได้ เพราะถือว่าเป็นการแข่งขันครั้งแรกซึ่งเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เนื่องจากทุกครั้งที่ผ่านมา รถจะไปจบการแข่งขันที่ดาการ์ในประเทศเซเนกัล ส่วนเรื่องอันดับพอวิ่งไปสักครึ่งทาง เราน่าจะพอตั้งเป้าได้ว่าจะจบการแข่งขันในอันดับไหน
MGR Sport : ผ่านการแข่งขันมาแล้วถึง 2 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2006 ถึง 2007 ประทับใจอะไรที่สุดในดาการ์ ?
มานะ : ต้องย้อนไปในครั้งแรกครับ ประทับใจตั้งแต่ออกสตาร์ทเลย นั่นก็คือคนดู พวกเขาไม่สนเลยว่าเรามาจากไหน พอเขารู้ว่าเราเป็นนักแข่ง เขาก็จะตบมือเอาใจเชียร์เราทันที แต่สิ่งที่ภูมิใจมากที่สุดคือในปีที่ 2 เราสามารถนำธงชาติไทยไปโบกสะบัดที่เส้นชัยได้ รวมถึงเป็น 1 ในรถ 200 กว่าคัน ที่จบการแข่งขัน จากตอนเริ่มสตาร์ทที่มีรถเข้าร่วมถึง กว่า 600 คัน
MGR Sport : แล้วอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงที่สุดในดาการ์ล่ะ ?
มานะ : ในปี 2007 ครับ ก็ถึงขั้นล้อหน้าซ้ายหลุด ปีกนกหัก คันชักคันส่งหัก เนื่องจากขับไปชนกับก้อนหินขนาดใหญ่ ต้องเสียเวลาซ่อมกับเนวิเกเตอร์กว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะเรากำลังอยู่ในอันดับดีที่ประมาณ 40 กว่าๆ แต่กลับไปพลาดเอง ซึ่งทำให้เสียเวลาไปพอสมควร
MGR Sport : พูดถึงเรื่องนอกสนามกันบ้าง มานะ พรศิริเชิด ทำอะไรอีกบ้างนอกจากแข่งแรลลี?
มานะ : ผมเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิร่วมกตัญญูอยู่ครับ คือถ้ามีเวลาว่าจะไปช่วยเขา ก็มีทั้งขับรถ รวมถึงการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ส่วนยามว่างผมจะเล่นกีฬาครับ แต่ไม่ชอบเล่นกีฬาที่มันอยู่กับที่ ผมชอบเล่นบีบีกัน ปั่น จักรยาน ขับโกคาร์ท อะไรพวกนี้มากกว่า
MGR Sport : มาถึงเรื่องเบาๆกันบ้างดีกว่า มานะสนใจการเมืองบ้างหรือเปล่า ?
มานะ : นี่เบาแล้วเหรอครับ (ทำหน้าอึ้งๆ แล้วเงียบไปชั่วครู่) ก็สนใจนะครับ เอาเป็นว่าผมเอนเอียงไปทางฝั่งสีเหลืองนิด ๆ แล้วกัน แม้ว่าทีมมิตซูฯจะเป็นสีแดง (หัวเราะ) นี่ไม่ได้พูดเอาใจหรืออะไร แต่เพราะผมติดตาม ASTV มาตลอด ผมคิดว่าสิ่งที่เขาพูดออมมามันดูมีน้ำหนัก เวลาออกต่างจังหวัดผมจะแย่งแฟนดู ASTV ประจำ ซึ่งบางครั้งเขาก็งอนไปเหมือนกัน
MGR Sport : พูดถึงแฟนสาวที่วันนี้ควงคู่มาด้วย ขอเป็นคำถามสุดท้ายแล้วกัน ว่าตอนนี้ชื่นมื่นแค่ไหน ?
มานะ : ก็โอเครับ กำลังไปได้สวย ก็คือเข้าใจกันดี ก่อนคบกันก็ต้องตกลงแล้วว่าเราเป็นอย่างนี้ สิ่งไหนห้ามกันไม่ได้ก็จะบอกเขา ซึ่งสำหรับผมมี 3 อย่างเองครับ ที่ห้ามไม่ได้ ก็คือ ขับรถ แต่งรถ แข่งรถ แค่นั้นเอง