ถึงนาทีนี้ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า “มาเรีย ชาราโปว่า” หวดสาวฟอร์มแรงจากแดนหมีขาว มีโอกาสดีที่จะคว้าแชมป์แกรนด์ สแลมครบทั้ง 4 รายการ แซงหน้า “จัสติน เอแน็ง” มือ 1 โลกจากเบลเยี่ยม หลังจากโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการออกสตาร์ทฤดูกาล 2008 อีกทั้งกำลังใจจากการหยิบแชมป์แรกในการประเดิมสนามเคลย์คอร์ตฤดูกาลนี้ ก็น่าจะช่วยให้เจ้าของฉายานางฟ้าแห่งวงการลูกสักหลาดมีความมั่นใจมากขึ้นในลุ้นแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ซึ่งเป็นแกรนด์ สแลมเดียวที่เธอยังไม่เคยสัมผัส
แม้ปีที่แล้วจะเรียกได้ว่า เป็นปีที่ไม่น่าจดจำเอาซะเลยสำหรับชาราโปว่า เมื่อเธอสามารถคว้าแชมป์มาประดับฝาบ้านได้เพียงรายการเดียว คือ อะคูร่า คลาสสิก ที่ซาน ดิเอโก สหรัฐอเมริกา ในเดือนสิงหาคม ทว่าหวดสาวสวยชาวรัสเซีย ซึ่งมีอายุครบ 21 ปี ไปเมื่อ 19 เมษายนที่ผ่านมา ก็สามารถลบฝันร้ายในฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยฟอร์มการเล่นอันเฉียบขาดในปีนี้ หลังคว้าแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น มาครองสำเร็จ ตั้งแต่เดือนมกราคม
โดยเป็นการสยบ เอแน็ง เต็งหนึ่งของรายการ ในรอบควอเตอร์ ไฟนัล “เยเลน่า แยนโควิช” มือ 3 ของรายการ ในรอบรองชนะเลิศ และ “อนา อิวาโนวิช” ดาวรุ่งสาวชาวเซิร์บ ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งการคว้าชัยเหนืออิวาโนวิช ยังถือเป็นการถอนแค้น หลังจากที่ชาราโปว่า เคยถูกดาวรุ่งเซอร์เบีย หวดตกรอบรองชนะเลิศ ศึกเฟรนช์ โอเพ่น เมื่อปีที่แล้ว มาแล้ว
ชาราโปว่า อาจไม่ใช่นักเทนนิสที่เล่นได้ดีบนคอร์ตดิน แต่จากผลงานการคว้าแชมป์ประเดิมเคลย์คอร์ตแรกในรายการบอช แอนด์ ลอมบ์ แชมเปี้ยนชิป ที่อเมลี ไอส์แลนด์ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็นับเป็นการเรียกความมั่นใจก่อนลงดวลแรกเก็ตบนสนามโรลองด์ การ์รอส ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในเดือนปลายพฤษภาคมของ “นางฟ้ามาเรีย” ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ จากผลงานที่กล่าวมาในข้างต้น ยังไม่นับรวมแชมป์อีกหนึ่งรายการที่หวดสาวสวยจากแดนหมีขาวคว้ามาได้ นอกเหนือจากแกรนด์ สแลมเมืองจิงโจ้ และศึกเคลย์คอร์ตแรกที่ฟลอริด้า ซึ่งก็คือ แชมป์การ์ต้า โททัล โอเพ่น ที่โดฮา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ รวมผลงานหลังออกสตาร์ทฤดูกาลใน 4 เดือนแรก นางฟ้ามาเรีย คว้าแชมป์เรียกน้ำย่อย ไปแล้วถึง 3 รายการ พร้อมกันนั้นยังทำผลงานข่มขวัญคู่ต่อสู้ ด้วยสถิติชนะรวด 16 นัด
ผิดกับกระดูกชิ้นโต อย่าง เอแน็ง ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ถึง 4 สมัย และยังผูกขาดแชมป์ในช่วง 3 ปีหลัง ในปีนี้เรียกได้ว่า หวดเล็กพริกขี้หนู ยังไม่สามารถแผลงฤทธิ์ได้จี๊ดจ๊าดเท่ากับปีที่แล้ว ซึ่งฟาดแชมป์ไปนอนกอดถึง 9 รายการ แถมยังฟันเงินรางวัลได้มากที่สุดในดับเบิลยูทีเอร์อีกด้วย
ในการพบกับมาทั้งหมด 9 ครั้ง ระหว่างเอแน็ง กับ ชาราโปว่า รายแรกคว้าชัยไปได้ถึง 6 ครั้ง ขณะที่นางฟ้าจากรัสเซีย สามารถยัดเยียดความปราชัยให้มือ 1โลกเพียง 3 ครั้งเท่านั้น อย่างไรก็ดี อดีตจะเป็นเช่นไร ปัจจุบันย่อมสำคัญที่สุด เพราะหากเทียบฟอร์มในเวลานี้ หวดสูงยาวเข่าดี อย่าง ชาราโปว่า ย่อมดูดีมีภาษีมากกว่า จากผลงานคว้า 3 แชมป์ แถมยังรวมแชมป์ใบใหญ่ อย่าง สแลมแดนจิงโจ้อีกด้วย ขณะที่ เอแน็ง ซึ่งฟอร์มยังไม่ค่อยเข้าฝัก เก็บมาได้เพียงแชมป์เดียว คือ พร็อกซิมัส ไดมอนด์ เกมส์ ในบ้านเกิด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
อีกทั้งคู่ต่อกรรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น สองหวดฟอร์มแรงจากเซอร์เบีย อย่าง อนา และ เจเจ หรือ สองศรีพี่น้องตระกูลวิลเลี่ยมส์ ต่างก็ยังไม่แสดงพิษสงอันตรายออกมาให้เห็นสักเท่าไรในการแข่งขันฤดูกาลนี้ พร้อมกันนั้นสองรายแรก ชาราโปว่า ก็จัดการปราบจนอยู่หมัดมาแล้วในช่วงต้นฤดูกาล ขณะที่ วิลเลี่ยมส์คนพี่ ก็ดูเหมือนจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ซึ่งทำให้เธอต้องถอนตัวจากการแข่งขันมาแล้วถึง 2 รายการ นอกจากนี้ ยังไม่แน่ว่า เธอจะกลับมาทันลงสนามในการแข่งขันแกรนด์ สแลมรายการที่สองของปี หรือไม่
การประชันแรกเก็ตบนเคลย์คอร์ตนั้นถือเป็นการต่อสู้ที่ต้องอาศัยทั้งแทคติกและการดวลท้ายคอร์ตที่อดทน หากฝ่ายไหนเหนียวแน่นกว่าและสามารถจับจุดอ่อนเพื่อโจมตีคู่ต่อสู้ได้ก่อน ฝ่ายนั้นก็จะมีโอกาสคว้าชัยสูง และตราบใดที่ ชาราโปว่า ซึ่งรั้งตำแหน่งมือ 3 โลกในปัจจุบัน ยังสามารถรักษาฟอร์มการเล่นอันเฉียบขาดได้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงอาการบาดเจ็บหัวไหล่ที่รบกวนเธอมาตลอดฤดูกาลที่แล้ว ไม่กำเริบขึ้นมาอีก ก็มีโอกาสสูงทีเดียวที่นางฟ้าจากแดนหมีขาวรายนี้จะเข้าโค้งเบียด เอแน็ง คว้าแชมป์แกรนด์ สแลมทั้ง 4 รายการมาครองได้ก่อน พร้อมทั้งยังถือเป็นโอกาสดีที่จะก้าวขึ้นทวงบัลลังมือ 1โลกอีกด้วย