เมื่อถามว่าหากคุณต้องทำหน้าที่ทั้งการเป็นประธานพัฒนาฟุตบอล-ฟุตซอลหญิงไทย, ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงไทย และการเป็นสมาชิกวุฒิสภา คุณจะทำอย่างไร คุณจะสามารถปฏิบัติหน้าที่เหล่านั้นพร้อมกันได้หรือไม่ คำถามนี้อาจจะไม่ได้รับคำตอบจากคนที่ไม่ได้ทำหน้าที่เหล่านั้น แต่คำถามนี้มีคำตอบจากผู้หญิงที่ชื่อ นฤมล ศิริวัฒน์ ที่กำลังดำรงตำแหน่งทั้ง 3 อยู่ในขณะนี้
โดย“มาดามมล”นฤมล ศิริวัฒน์ เพิ่งจะได้รับตั้งให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาของจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วยคะแนนถึง 146,664 คะแนน ซึ่งก่อนหน้าที่ผู้หญิงเก่งคนนี้จะได้รับการเลือกตั้งเป็นวุฒิสภา เธอดำรงตำแหน่งทางด้านกีฬาอยู่ถึง 2 ตำแหน่ง คือ ประธานพัฒนาฟุตบอล-ฟุตซอลหญิงไทย และผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงไทย โดยหลังจากที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา “มาดามมล”ได้ออกมายืนยันกับทีมข่าวกีฬาผู้จัดการรายวันทันทีว่าจะไม่ทิ้งงานในวงการกีฬาที่ทำอยู่เป็นเวลา 7 ปีมาแล้วไปอย่างแน่นอน “ตอนนี้กีฬาและฟุตบอลมันอยู่ในสายเลือดแล้ว และพี่จะไม่ลาออกจากการทำหน้าที่ในวงการกีฬาทั้งสองตำแหน่งอย่างแน่นอน เพราะส่วนตัวเชื่อว่างานทั้งสองด้านทั้งกีฬาและการเมืองสามารถที่จะทำร่วมไปด้วยกันได้”
“มีคนถามเหมือนกันว่าเป็นส.ว.แล้วจะมีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในด้านกีฬาหรือไม่ พี่คิดว่าอาจจะมีบ้างเล็กน้อยในเรื่องของเวลา แต่อย่างไรก็ดีคงจะไม่ส่งผลกระทบมากนักเพราะปกติแล้วพี่จะใช้เวลาในการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมและประธานพัฒนาฟุตบอล-ฟุตซอลหญิงในช่วงเย็น โดยอาจจะไปดูนักฟุตบอลของเราฝึกซ้อมที่สนาม หรืออาจจะใช้เวลาคุยกับ โค้ชชนะ ยอดปรางค์ (หัวหน้าโค้ชฟุตบอลหญิง)บ้าง อย่างไรก็ตามแม้ว่าเวลาที่จะทำงานฟุตบอลจะมีน้อยลงไป พี่ก็คงจะไม่กังวลใจ เพราะทีมของเราตอนนี้มั่นคง และแข็งแรงดีแล้ว”
นอกจากการยืนยันว่าจะไม่ทิ้งวงการกีฬาเพื่อหันไปทำงานในด้านการเมืองเพียงอย่างเดียวแล้ว วุฒิสภาหญิงคนใหม่ยังได้กล่าวถึงข้อดีของการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนการเมืองที่จะส่งผลดีต่อวงการกีฬาด้วยว่า“พี่กลับคิดว่าการได้ทำหน้าที่ทั้งทางด้านกีฬาและการเมืองไปพร้อมๆกันนั้น มีแต่ว่าจะช่วยเกื้อกูลกันให้มันดียิ่งขึ้นไปมากกว่า เพราะเราสามารถที่จะทำประโยชน์ให้กับวงการกีฬาได้มากขึ้นจากการที่เราได้ดำรงตำแหน่งวุฒิสภา”
สำหรับแนวทางการทำประโยชน์ให้กับวงการกีฬาบ้านเรานั้น“มาดามมล”ได้วางแผนขั้นต้นไว้ดังนี้ว่า“เมื่อเป็นวุฒิสภาแล้ว พี่จะดำเนินงานทางด้านกีฬาเป็นเรื่องหลัก โดยสิ่งแรกที่จะทำ คือ ศึกษาว่ากฎหมาย หรือ นโยบายใดที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาวงการกีฬาของบ้านเราบ้าง และจากนั้นก็ต้องไปศึกษากฎหมาย หรือข้อบังคับต่างๆต่อไปว่าเราควรจะมีการแก้ไขในสิ่งที่ทำให้การพัฒนากีฬาติดขัดนั้นอย่างไร ซึ่งเราอาจจะได้โอกาสอภิปรายในนโยบายต่างๆที่สส.เสนอให้กับสภาฯ และตรงจุดนั้นคงเป็นช่องทางที่เราจะสามารถแสดงความคิดเห็น และสามารถเสนอแนวทางในการแก้ปัญหารวมไปถึงการพัฒนาวงการกีฬาเข้าไปได้ และเชื่อว่าการที่พี่เป็นส.ว.ที่มาจากคนทำกีฬาจริงๆ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่จะทำนโยบายให้กับการกีฬาบ้านเรา ซึ่งพี่ขอยืนยันไว้ตรงนี้ว่าสิ่งใดที่จะเป็นประโยชน์ต่อวงการกีฬา พี่จะทำอย่างสุดความสามารถ”
โดยก่อนหน้าที่ส.ว.หญิงคนใหม่จะได้เข้าไปทำประโยชน์ให้กับวงการกีฬาของบ้านเราจากตำแหน่งในสภานั้น กีฬาได้ให้บางอย่างกับเธอจากการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงอยู่ก่อนแล้ว ด้วยเพราะการทำหน้าที่ในด้านกีฬาของหญิงเก่งจากครอบครัวศิริวัฒน์คนนี้ ทำให้เธอเป็นที่รู้จักจากคนหลากหลายกลุ่มมากขึ้น และมันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาของจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วยคะแนนที่ห่างจากอันดับที่ 2 ถึงกว่าแสนคะแนน โดยประธานพัฒนาฟุตบอลหญิงได้กล่าวว่า “2 ปีแรกที่พี่เริ่มเข้ามาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิง มีหลายคนตั้งคำถามว่าเราจะเข้ามาทำงานให้กับทีมฟุตบอลจริงๆหรือว่าเราจะเข้ามาเพื่อเป็นเกียรติเท่านั้น แต่ตลอดเวลา 7 ปีที่ผ่านมา พี่ได้พิสูจน์ให้คนที่สงสัยเหล่านั้นได้เห็นแล้วว่า พี่เข้ามาทำงานจริงๆ ฟุตบอลหญิงของเรามีศักยภาพที่สามารถยืนอยู่บนเวทีในระดับเอเชียได้ เราอยู่ในอันดับที่ 5, 6 ของเอเชีย เราสามารถเป็นแชมป์ซีเกมส์ได้ แม้ว่าบางทีเราอาจจะโดนว่าบ้างโดนวิจารณ์บ้าง แต่เราก็ฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านั้นมาได้”
“อีกทั้งจากการทำงานในด้านกีฬาตลอด 7 ปี มานี้ช่วยให้ตัวพี่เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย ทั้งจากการเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากคนในวงการกีฬา รวมไปถึงชาวบ้านทั่วไป มีครั้งหนึ่งพี่ไปที่จังหวัดอุตรดิตถ์ไปเจอลุงอายุ 81 ซึ่งอาศัยอยู่บนเขา ลุงถามเราว่าถ้าได้เป็นส.ว.แล้วจะเลิกเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลหรือไม่ อีกครั้งพี่ลงรถที่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ เจอเด็กอายุ 17-18 หน้าเห็นเขาพูดกันว่า นี่ไงๆนฤมล ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิง คือ สองเหตุการณ์นี้มันทำให้เรารับรู้ได้เลยว่า การเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลตลอดเวลา 7 ปี ทำให้มีคนรู้จักเรามากขึ้นในหลายๆวัย หลายๆอาชีพ ซึ่งมันทำให้พี่รู้สึกเหมือนกับว่ากีฬานั้นช่วยสร้างคนจริงๆ อีกทั้งยังช่วยสร้างมิตรภาพด้วย และมันยังแสดงให้เห็นว่าถ้าเราทำงานใดอย่างจริงจังแล้ว ก็จะมีคนเห็นในความทุ่มเทที่มีให้กับงานของเราเอง”
ข้อความต่างๆด้านบนนี้ คือ คำตอบของคำถามในย่อหน้าแรกจากการให้สัมภาษณ์ของผู้หญิงเก่งที่ชื่อ นฤมล ศิริวัฒน์ ซึ่งจากนี้ไปอีก 6 ปีตลอดวาระในการดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาของ“มาดามมล” เชื่อว่าไม่เพียงแค่ประชาชน แต่รวมไปถึงวงการกีฬาบ้านเราคงได้ประโยชน์และมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นจากการทำหน้าที่ของส.ว.หญิงคนนี้อย่างแน่นอน