เกียวโดนิวส์รายงาน (17 พ.ค.) ผู้นำกลุ่มจี7 มีกำหนดจะให้คำมั่นในการประชุมสุดยอดที่เมืองฮิโรชิมาในปลายสัปดาห์นี้ เพื่อสนับสนุนสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Non-Proliferation Treaty - NPT) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการใช้อาวุธของรัสเซียในสงครามกับยูเครน และคลังอาวุธนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นของจีน แหล่งข่าวทางการทูตระบุเมื่อวันอังคาร
คำมั่นสัญญาร่วมกันนี้จะเน้นย้ำถึงความสำคัญในการเปิดเผยขีดความสามารถและความพยายามอย่างต่อเนื่องในการลดจำนวนอาวุธของแต่ละประเทศ ในขณะที่ข้อตกลงนี้จะเป็นรากฐานสำหรับการไม่แพร่ขยายอาวุธ แหล่งข่าวกล่าว
คาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในเซสชันวันแรกของการประชุมสุดยอด 3 วัน ในวันศุกร์ จนถึงวันอาทิตย์ในเมืองฮิโรชิม่า ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ซึ่งเคยได้รับความเสียหายจากระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2488 แหล่งข่าวกล่าว
ข้อตกลงดังกล่าวจะสะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ประธานการประชุมสุดยอด G7 ต่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการใช้อาวุธของรัสเซียในสงครามกับยูเครน และคลังอาวุธนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นของจีน
คิชิดะซึ่งเป็นตัวแทนของเขตเลือกตั้งในฮิโรชิมา กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าผู้นำ G7 จะ "ให้คำมั่นที่แข็งแกร่งเพื่อให้โลกปราศจากอาวุธนิวเคลียร์"
แหล่งข่าวกล่าวว่า ก่อนที่จะเริ่มการเจรจา ผู้นำกลุ่ม G7 จะไปเยือนพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมา เมืองแรกของโลกที่พินาศจากระเบิดนิวเคลียร์ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2
NPT มีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ.2513 สนธิสัญญากำหนดให้พันธมิตร 5 ชาติเท่านั้น ได้แก่ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ครอบครองคลังแสงนิวเคลียร์ที่ได้รับอนุญาต ขณะที่ห้ามประเทศอื่นซื้ออาวุธดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การพูดคุยเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
การประชุมทบทวน NPT ล้มเหลวในการบังคับใช้ตามมติเอกฉันท์ ในปี 2558 และ 2565 ในขณะที่ประเทศต่างๆ เช่น เกาหลีเหนือ และอิหร่าน เชื่อว่ากำลังดำเนินการพัฒนานิวเคลียร์ต่อไป
กลุ่มประเทศ G7 จะให้คำมั่นที่จะต่อต้านการใช้และการคุกคามของอาวุธนิวเคลียร์ และเรียกร้องให้ผู้นำทางการเมืองจากทั่วโลกไปเยือนฮิโรชิมา และนางาซากิ 2 เมืองของญี่ปุ่นที่ถูกสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณู แหล่งข่าวกล่าวและว่า
ในการประชุมสุดยอดที่ฮิโรชิมา มีการจัดเตรียมเอกสาร 6 ฉบับ โดยมีหัวข้อการปลดอาวุธนิวเคลียร์สงครามยูเครน ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พลังงานสะอาด และความมั่นคงทางอาหาร
แหล่งข่าวกล่าวเสริมว่า จะมีการหารือเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหารในเซสชัน "การเข้าถึง" ซึ่งจะมีผู้นำจาก 8 ประเทศที่ได้รับเชิญด้วย ได้แก่ ออสเตรเลีย บราซิล คอโมโรส หมู่เกาะคุก อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม