เกียวโดนิวส์รายงาน (10 พ.ค.) นาโตกำลังวางแผนที่จะเปิดสำนักงานประสานงานในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามกระชับความร่วมมือกับญี่ปุ่น โคจิ โทมิตะ เอกอัครราชทูตของประเทศประจำสหรัฐอเมริกากล่าวเมื่อวันอังคาร
“เรากำลังดำเนินการไปในทิศทางนั้น” โทมิตะกล่าวถึงแผนการขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือในงานแถลงข่าวที่กรุงวอชิงตัน แต่กล่าวเสริมว่า เขายังไม่ได้ยินคำยืนยันขั้นสุดท้ายใดๆ เกี่ยวกับแผนดังกล่าว และไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ในการพูดที่เนชันแนล เพรส คลับ (National Press Club) เพื่อเตรียมการประชุมสุดยอด จี-7 Group of Seven ที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพในฮิโรชิมา ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม เอกอัครราชทูตกล่าวว่าประเทศกำลังตั้งตารอที่จะ "วางแนวร่วมที่ใกล้ชิด" เหนือจีน
ท่ามกลางฉากหลังของการแสดงอหังการที่เพิ่มขึ้นของจีนในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก สงครามของรัสเซียในยูเครน และการพัฒนาอย่างรวดเร็วของขีดความสามารถด้านขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือ เขากล่าวว่า ประเด็นสำคัญของการประชุมสุดยอด G-7 3 วันคือ "การรักษาและเสริมสร้าง คำสั่งซื้อระหว่างประเทศที่เสรี เปิดกว้าง และอิงตามกฎ"
ขณะนี้นาโตมองญี่ปุ่นเป็นประเทศพันธมิตร เช่นเดียวกับออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ โดยฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และผู้นำของทั้ง 3 ประเทศ ล้วนได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดของนาโตในกรุงมาดริดเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2565
ในช่วงปลายเดือนมกราคม ที่กรุงโตเกียว คิชิดะ และเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) ได้ตกลงที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและอำนวยความสะดวกในการสื่อสารท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของดุลอำนาจในอินโดแปซิฟิกและที่อื่นๆ
โดยอ้างถึงความท้าทายที่เกิดจากจีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือ พวกเขากล่าวในแถลงการณ์ร่วมในเวลานั้นว่า ญี่ปุ่นและพันธมิตรด้านความมั่นคงของประเทศต่างๆ ในยุโรปและอเมริกาเหนือมีความเห็นร่วมกันว่า "การเปลี่ยนแปลงเพียงฝ่ายเดียวของสถานะที่เป็นอยู่โดยใช้กำลังหรือการบีบบังคับ เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ทุกที่ในโลก"
"เราย้ำด้วยความกังวลถึงความร่วมมือทางทหารที่เพิ่มขึ้นของรัสเซียกับจีน รวมถึงผ่านการปฏิบัติการร่วมและการฝึกซ้อมในบริเวณใกล้เคียงของญี่ปุ่น"