สหราชอาณาจักร ซึ่งภาคภูมิใจในตัวเอง ในฐานะที่เป็นหัวหอกของพันธมิตรตะวันตก สำหรับการนำเสนอระบบอาวุธใหม่ๆ แก่ยูเครน เวลานี้ดูเหมือนว่าจะเตรียมจัดหาขีปนาวุธพิสัยไกลให้เคียฟ ระบบอาวุธที่ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปฏิเสธมอบให้มานาน
รายงานของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ระบุว่า กองทุนนานาชาติเพื่อยูเครน หรือกลุ่มประเทศยุโรปเหนือที่จัดตั้งกลไกหนึ่งขึ้นมาเพื่อส่งมอบอาวุธแก่เคียฟ ระบุในประกาศจัดหาที่โพสต์เมื่อวันอังคารที่แล้ว ว่า ทางกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรได้ขอให้มีการแจ้งความจำนงเกี่ยวกับการจัดหาศักยภาพการโจมตีในพิสัยสูงสุด 300 กิโลเมตร และประกาศดังกล่าวได้ร้องขอให้ดำเนินการตอบกลับภายใน 3 วัน
เจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักรายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ระบุว่า ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องนี้ พร้อมปฏิเสธให้คำยืนยันเกี่ยวกับชนิดและปริมาณของอาวุธที่อยู่ภายใต้การพิจารณา เช่นเดียวกับกรอบเวลาในการส่งมอบ อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ชี้ว่าประกาศจัดหาดังกล่าวนับเป็นก้าวย่างที่สำคัญสำหรับมุ่งสู่การที่ทางสหราชอาณาจักรจะมอบกระสุนดังกล่าวแก่ยูเครนเสียเอง และคำร้องขอดังกล่าวมีลักษณะเจาะจงและศักยภาพใกล้เคียงกับขีปนาวุธร่อน "สตอร์ม ชาโดว์" ยิงจากอากาศมากที่สุด
ยูเครน ร้องขอบรรดาชาติตะวันตกมาช้านาน เกี่ยวกับการจัดหาขีปนาวุธพิสัยไกลกว่าเดิม โดยอ้างว่าอาวุธดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยนวิถีของสงคราม ด้วยการเปิดทางให้กองกำลังของพวกเขาเล็งเป้าเล่นงานศูนย์บัญชาการของรัสเซีย เส้นทางลำเลียงเสบียง คลังกระสุนและคลังเชื้อเพลิงที่อยู่ลึกภายในไครเมีย และดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย
ด้วยที่คาดหมายกันว่า เคียฟกำลังเตรียมการเปิดปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กลับครั้งใหญ่อย่างเร็วที่สุดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ดังนั้น ศักยภาพการโจมตีลึกไกลจากแนวหน้าของรัสเซียจะเป็นการช่วยเปิดทางสำหรับการจู่โจมทางภาคพื้นด้วยรถถังและกองกำลังทหารราบ
ขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ สามารถติดตั้งบนเครื่องบินรบที่ผลิตโดยสหภาพโซเวียตของยูเครน และพุ่งไปถึงดินแดนของรัสเซีย มันเป็นแสนยานุภาพที่เคียฟต้องการมานาน และพยายามผ่อนคลายความกังวลของตะวันตก ด้วยรับปากว่าพวกเขาจะไม่ใช้อาวุธที่ได้รับบริจาคนี้โจมตีใส่ดินแดนของรัสเซีย
"ถ้าเราสามารถโจมตีได้ไกลสูงสุด 300 กิโลเมตร กองทัพรัสเซียจะไม่สามารถมอบการป้องกันและจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้" โอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนกล่าวกับบรรดาชาติยุโรปก่อนหน้านี้ "ยูเครนพร้อมให้คำรับประกันว่าอาวุธของพวกคุณจะไม่เกี่ยวข้องในการโจมตีดินแดนรัสเซีย"
ที่ผ่านมา มอสโกกล่าวหาเคียฟดัดแปลงโดรน สำหรับใช้บินระยะไกลโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียเป็นระยะๆ เคียฟไม่กล่าวอ้างความรับผิดชอบใดๆ ต่อเหตุโจมตีเหล่านั้น แต่บอกว่าพวกเขามีสิทธิที่จะโจมตีเป้าหมายต่างๆ ภายในรัสเซียด้วยอาวุธของพวกเขาเอง
ความกังวลที่ยูเครนจะยิงขีปนาวุธเข้าใส่เป้าหมายต่างๆ ในยูเครน คือเหตุผลสำคัญที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปฏิเสธคำร้องขอของยูเครนซ้ำๆ ที่เรียกร้องกระสุนพิสัยไกลจากสหรัฐฯ
สหรัฐฯ จัดหาระบบจรวดหลายลำกล้องที่มีความแม่นยำสูงแก่ยูเครน ในนั้นรวมถึงระบบยิงจรวดหลายลำกล้องเคลื่อนที่เร็ว (High Mobility Artillery Rocket Systems หรือ HIMARS) แต่พิสัยทำการของกระสุนของมันถูกจำกัดไว้แค่ 80 กิโลเมตร
ในแพกเกจอาวุธรอบใหม่ที่แถลงเมื่อช่วงต้นปี กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่าพวกเขาจะส่งมอบระเบิดนำวิถีขนาดเล็กที่ยิงจากภาคพื้นดิน (Ground Launched Small Diameter Bomb หรือGLSDB) ด้วยพิสัยทำการไกลขึ้นเท่าตัวแก่ยูเครน พวกมันยังสามารถยิงจากระบบจรวด HIMARS อย่างไรก็ตาม คาดหมายว่ากว่าการส่งมอบจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดคงต้องรอจนถึงปลายปีนี้
ระบบจรวด HIMARS ยังสามารถยิงขีปนาวุธทางยุทธวิธี (Army Tactical Missile System หรือ ATACMS) กระสุนที่มีพิสัยทำการพอๆ กับขีปนาวุธร่อนสตอร์ม ชาโดว์ อย่างไรก็ตามรัฐบาลไบเดนยังคงยืนกรานปฏิเสธเสียงวิงวอนของยูเครนที่ร้องขอกระสุนดังกล่าว ด้วยเจ้าหน้าที่เพนตากอนเกรงว่ามันจะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย และอ้างถึงปัญหาขาดแคลนในคลังแสงของสหรัฐฯ
(ที่มา : วอชิงตันโพสต์)