รัสเซียใช้ทั้งโดรน ขีปนาวุธ และการโจมตีทางอากาศ ถล่มกรุงเคียฟ และอีกหลายเมืองทั่วยูเครน ควบคู่กับการเตรียมการฉลองวันแห่งชัยชนะเหนือนาซีเยอรมันเมื่อปี 1945 ในวันอังคาร (9 พ.ค.) ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารของยูเครนอ้างเป็นตุเป็นตะว่า มอสโกยังหวังเผด็จศึกยึดบัคมุตให้ได้ภายในวันดังกล่าว
คณะเสนาธิการของกองทัพยูเครนระบุในรายงานสถานการณ์การสู้รบล่าสุดเมื่อเช้าวันจันทร์ (8) ว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธ 16 ลูกโจมตีเป้าหมายในเมืองต่างๆ ซึ่งอยู่ในแคว้นคาร์คีฟ เคียร์ซอน มิโคลาอีฟ และโอเดสซา ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รวมทั้งยังโจมตีทางอากาศ 61 ระลอก และยิงจรวด 52 ลูกถล่มสถานที่ตั้งและเขตที่อยู่อาศัยหลายแห่งทั่วยูเครน ทำให้มีพลเรือนบาดเจ็บล้มตาย และถือเป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 วันที่ผ่านมาที่รัสเซียประกาศฟื้นการโจมตีทางอากาศหลังจากพักไปตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ดี กองทัพอากาศยูเครนสามารถทำลายโดรนชาเฮดที่ผลิตในอิหร่านทั้ง 35 ลูกที่รัสเซียยิงมา
ด้านนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ แถลงว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 5 คน คลังน้ำมัน รถยนต์ อาคาร และโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหาย
สำหรับที่เมืองโอเดสซา เมืองท่าสำคัญริมทะเลดำ มีรายงานว่าคลังเก็บอาหารที่นั่นเกิดไฟลุกไหม้จากการโจมตี นอกจานั้นยังมีการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ 2 ใน 3 ของยูเครน และมีรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดในแคว้นเคียร์ซอนทางใต้ และแค้วนซาโปริซเซียทางตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่คณะบริหารทางทหารของรัสเซียในพื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนเผยว่า กองทัพรัสเซียยิงถล่มเป้าหมาย 8 แห่งในเมืองซูมี
นอกจากนี้ เมื่อคืนวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญที่เก็บกู้ทุ่นระเบิดของยูเครน 9 คนเสียชีวิตพร้อมกันในการโจมตีที่เคียร์ซอนเมื่อวันเสาร์
การโจมตีระลอกใหม่นี้มีขึ้นขณะที่มอสโกกำลังเตรียมจัดการเดินสวนสนามครั้งใหญ่เนื่องใน “วันชัยชนะ” ในวันอังคาร (9) ทั้งนี้ วันดังกล่าวซึ่งเป็นการรำลึกวาระที่สหภาพโซเวียตมีชัยชนะเหนือนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองอย่างใหญ่โตทุกปีตั้งแต่ยุคโซเวียต ยิ่งในปัจจุบัน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก็ยิ่งให้ความสำคัญ ทั้งในแง่เป็นความพยายามปลุกจิตวิญญาณต่อสู้เพื่อชัยชนะของชาวรัสเซีย รวมทั้งยังเป็นการสำทับกล่าวหายูเครนว่าอยู่ใต้อิทธิพลของลัทธิฟาสซิสม์รูปแบบใหม่ ทั้งนี้ ลัทธินาซีถือเป็นลัทธิฟาสซิสม์รูปแบบหนึ่ง
ทางด้านพลเอกอาวุโส โอเลคซานดร์ ซีร์สไกยี ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินของยูเครนในเมืองบัคมุต สมรภูมิสำคัญซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออก กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (7) ว่า รัสเซียระดมโจมตีด้วยปืนใหญ่หนักขึ้น รวมทั้งระดมพลเพิ่มเนื่องจากยังคาดหวังยึดเมืองนี้ให้ได้ภายในวันอังคาร และสำทับว่า กองกำลังของตนมีหน้าที่ปกป้องบัคมุต
ขณะเดียวกัน เมื่อวันอาทิตย์ เยฟเกนี ปรีโกจิน ผู้ก่อตั้งวากเนอร์ กรุ๊ป กลุ่มทหารรับจ้างของรัสเซีย ออกมาประกาศยกเลิกแผนถอนตัวจากบัคมุต เนื่องจากได้รับคำมั่นจากมอสโกว่า จะจัดส่งอาวุธและกระสุนให้ตามที่จำเป็นต้องใช้ในการโจมตีบัคมุตต่อไป
ก่อนหน้านี้ คือเมื่อวันศุกร์ (5) ปรีโกจินขู่ว่า จะถอนทหารรับจ้างของเขาออกจากบัคมุตในวันพุธ (10) และกล่าวหาว่า ความไม่เป็นมืออาชีพของรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซียร์เก ชอยกู รวมถึงวาเลรี เกราซิมอฟ ประธานเสนาธิการทหารของรัสเซีย เป็นต้นเหตุทำให้กำลังพลรัสเซียเสียชีวิตนับหมื่นซึ่งเป็นสิ่งที่อภัยให้ไม่ได้
ในทางกลับกัน ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาดินแดนที่รัสเซียยึดครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไครเมีย ถูกโจมตีถี่ขึ้น
กองทัพรัสเซียแถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า สามารถขับไล่โดรนยูเครน 22 ลำเหนือทะเลดำ และก่อนหน้านั้นไม่นาน กองทัพรัสเซียยังยิงโดรนยูเครนกว่า 10 ลำตกทางด้านใต้ของคาบสมุทรไครเมีย
แม้ยูเครนไม่ได้ยืนยันว่า ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีเหล่านั้น แต่ประกาศว่า การทำลายโครงสร้างพื้นฐานของศัตรูเป็นส่วนหนึ่งของแผนเตรียมการโจมตีโต้กลับ
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)