ทำเนียบขาวประเมินว่าตั้งแต่เดือนธันวาคมมา มอสโกสูญเสียทหารจากการบาดเจ็บล้มตายไป 1 แสนคน โดยเป็นการเสียชีวิตกว่า 20,000 คน แต่ขอไม่เปิดเผยว่าฝ่ายเคียฟเสียหายไปเท่าใด ด้านทำเนียบเครมลินตอบโต้ว่าฝ่ายอเมริกันกำลังยกเมฆ ขณะรัสเซียอ้างว่าได้เปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธและอาวุธระยะไกลต่อศูนย์อุตสาหกรรมการทหารของยูเครน และเป้าหมายที่กำหนดทั้งหมดถูกบดขยี้อย่างแม่นยำ
พลเอกอาวุโส โอเลคซานดร์ ซีร์สกี้ ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินของยูเครน แถลงผ่านแอปเทเลแกรมเมื่อวันจันทร์ (1 พ.ค.) ว่า สถานการณ์ในเมืองบัคมุต ซึ่งอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน อยู่ในสภาพยากลำบากอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ข้าศึกถูกทหารยูเครนโต้กลับและล่าถอยไปจากบางพื้นที่ในช่วงหลายวันมานี้
การสู้รบนาน 10 เดือนเพื่อแย่งชิงเมืองบัคมุตทางด้านตะวันออกของยูเครนมีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์สำหรับทั้งสองฝ่าย และกลายเป็นจุดศูนย์กลางของสงครามที่สถานการณ์แนวหน้ามีการเปลี่ยนแปลงน้อยมากนับจากปลายปีที่แล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันกลายเป็นสงครามพร่ากำลัง ซึ่งแต่ละฝ่ายมีการสูญเสียอย่างสูงลิ่ว
ซีร์สกี้ เสริมว่า รัสเซียยังคงส่งหน่วยทหารเข้าไปเพิ่มในสมรภูมิบัคมุตอย่างต่อเนื่องแม้สูญเสียอย่างหนักและยังไม่สามารถควบคุมเมืองนี้ได้ก็ตาม
ขณะที่ เยฟเกนี ปริโกจิน ผู้ก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้าง “วากเนอร์ กรุ๊ป” โพสต์บนเทเลแกรมเมื่อวันจันทร์ โดยยังคงโอดครวญว่า พวกนักรบของตนต้องการกระสุนปืนใหญ่วันละ 300 ตันเพื่อโจมตีในบัคมุต แต่ได้รับแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น
ในโพสต์ช่วงค่ำวันเดียวกัน ปริโกจินสำทับว่า กองกำลังของวากเนอร์รุกคืบเข้าสู่บัคมุตได้อีกราว 120 เมตร และสูญเสียนักรบ 86 คน
วันเดียวกัน จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวแถลงว่า ตามการประเมินของทำเนียบขาว ทหารรัสเซียกว่า 20,000 คนเสียชีวิต และอีก 80,000 คนได้รับบาดเจ็บในช่วงเวลา 5 เดือนของการสู้รบในยูเครนภาคตะวันออก นับตังแต่เดือนธันวาคม 2022 โดยเฉพาะที่เมืองบัคมุต
“ความพยายามของรัสเซียในการเปิดการรุกในภูมิภาคดอนบาสส์ โดยที่สำคัญคือผ่านทางเมืองบัคมุต ได้ประสบความล้มเหลว ... รัสเซียไม่สามารถยึดครองดินแดนที่ทรงความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างแท้จริงใดๆ ได้” เคอร์บี บอก
เขากล่าวว่า การประเมินเช่นนี้อิงอยู่กับข่าวกรองสหรัฐฯ ที่เพิ่งถูกลดชั้นความลับลงหมาดๆ โดยที่กำลังทหารรัสเซียซึ่งถูกฆ่าเหล่านี้ ราวครึ่งหนึ่งเป็นทหารที่ระดมเกณฑ์มาโดยกลุ่มวากเนอร์
เคอร์บีบอกอีกว่า เขาจะไม่ให้ตัวเลขประมาณการบาดเจ็บล้มตายของฝ่ายยูเครน เนื่องจาก “ในที่นี้พวกเขาคือเหยื่อ รัสเซียคือผู้รุกราน” ทั้งนี้ ทำเนียบขาวจะไม่เผยแพร่ “ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณชนซึ่งจะทำให้เกิดความยากลำบากมากขึ้น” สำหรับพันธมิตรผู้ใกล้ชิดกับฝ่ายตะวันตก ซึ่งกองทัพของพวกเขากำลังได้รับการติดอาวุธและได้รับการฝึกโดยเหล่าประเทศพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ
ต่อมา ในวันอังคาร (2) ทำเนียบเครมลินแถลงจากกรุงมอสโกปฏิเสธตัวเลขประมาณการของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการบาดเจ็บล้มตายของรัสเซียในยูเครน โดยบอกว่า เป็นการประมาณการแบบ “ยกเมฆ” และกล่าวด้วยว่าวอชิงตันไม่มีทางที่จะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง
ในอีกด้านหนึ่ง กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า กองกำลังรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธและอาวุธระยะไกลที่มีความแม่นยำสูงทางอากาศและทางทะเล ต่อศูนย์อุตสาหกรรมการทหารของยูเครน และเป้าหมายที่กำหนดทั้งหมดถูกโจมตีอย่างแม่นยำ
สำนักข่าวอาร์ทีของรัสเซียรายงานว่า แม้รัสเซียไม่ได้ระบุตำแหน่งที่ตั้งของเป้าหมายที่เข้าโจมตี แต่สื่อของยูเครนระบุว่า ฝ่ายรัสเซียใช้อาวุธทำการไกลเข้าโจมตีในแคว้นเคียฟ ซูมี และดนิโปรเปตรอฟสก์ โดยเฉพาะที่แคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ ได้รับความเสียหายหนักที่สุด และมีรายงานว่า เกิดระเบิดแถบชานเมืองพาฟโลกราด
คลิปที่เผยแพร่ออนไลน์ซึ่งไม่ได้รับการยืนยันเผยให้เห็นเหตุการณ์หลังการโจมตีใกล้เมืองดังกล่าว ซึ่งเห็นได้ชัดว่า การโจมตีทำให้เกิดการระเบิดใหญ่ต่อมาเป็นครั้งที่ 2 แล้วยังติดตามด้วยการระเบิดขนาดเล็กหลายระลอก
วลาดิมีร์ โรกอฟ เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัสเซียในแคว้นซาโปโรชี เปิดเผยโดยอ้างอิงรายงานข่าวในท้องถิ่นว่า การโจมตีเมืองพาฟโลกราดทำให้คลังเชื้อเพลิงและกระสุนของกองพลน้อยพลร่มที่ 46 ของยูเครน ที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการโต้ตอบรัสเซียถูกทำลาย เช่นเดียวกับระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน เอส-300 สองชุดที่อยู่ในบริเวณนั้น
จากการเปิดเผยของหน่วยบริการฉุกเฉินของยูเครน การระเบิดในพาฟโลกราดสร้างความเสียหายและทำลายบ้านเรือน 80 หลัง และอาคารกว่า 20 หลัง หน่วยบริการฉุกเฉินยังยอมรับว่า “ศูนย์อุตสาหกรรม” ในพื้นที่นั้นได้รับความเสียหาย แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นที่ใด
อาร์ที ยังตั้งข้อสังเกตว่า ช่วงหลายวันมานี้ดูเหมือนทั้งรัสเซียและยูเครน ต่างระดมโจมตีกันจากระยะไกล มอสโกอ้างว่า สามารถทำลายศูนย์บังคับบัญชาของกองทัพยูเครนหลายแห่ง และยังโจมตีทหารกองหนุนของยูเครน ด้านเคียฟระดมโจมตีเขตที่พักอาศัยในเมืองโดเนตสก์ที่รัสเซียยึดครอง และภูมิภาคอื่นๆ ตามแนวชายแดนซึ่งทำให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตายหลายคน
กองทัพยูเครนยังโจมตีคลังน้ำมันของรัสเซียในไครเมีย โดยนาตาลยา กูเมนยัค โฆษกกองบัญชาการด้านใต้ของกองทัพยูเครนยืนยันว่า การโจมตีนี้เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการโต้กลับของเคียฟ
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, อาร์ที)