มีทหารรัสเซียเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 20,000 นาย และบาดเจ็บอีก 80,000 ราย ในช่วง 5 เดือนของการสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองบัคมุต จากคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งในวันจันทร์ (1 พ.ค.) อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธประเมินความสูญเสียของฝั่งยูเครน อ้างเหตุผลเพราะเคียฟเป็นเหยื่อการรุกราน
"ถ้าประเมินว่ารัสเซียประสบความสูญเสียกำลังพลไปมากกว่า 100,000 นาย ในนั้นรวมถึงที่เสียชีวิต 20,000 นาย" จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าว "ความพยายามของรัสเซียในการรุกคืบในดอนบาส ส่วนใหญ่ผ่านทางบัคมุต ประสบความล้มเหลว รัสเซียไม่สามารถยึดดินแดนที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ใดๆ อย่างแท้จริง"
เคอร์บี อ้างรายงานข่าวกรองใหม่ของสหรัฐฯ ที่ไม่เป็นความลับ ระบุว่าครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตนั้นเป็นทหารที่เกณฑ์มาโดยกลุ่มวากเนอร์ บริษัททหารรับจ้างเอกชน ซึ่งกำลังพลส่วนใหญ่ที่ระดมมาเป็นนักโทษตามเรือนจำต่างๆ ในรัสเซีย
เอเอฟพีรายงานอ้างอิงข้อมูลของสหรัฐฯ ระบุว่าตัวเลขความสูญเสียจากการสู้รบดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเมืองบัคมุต สมรภูมิที่มีการต่อสู้ดุเดือดที่สุดและทหารยูเครนถูกผลักดันจนต้องล่าถอยออกไปแทบทั้งหมดเหลือแค่ไม่กี่จุด ถือเป็นความสูญเสียที่นับเฉพาะแค่ช่วงเริ่มต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นมา
"ความพยายามนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบัคมุต มาพร้อมกับค่าชดใช้ระดับสูงที่น่าสยดสยอง รัสเซียใช้เสบียงด้านการทหารและกองกำลังพลไปจนหมดสิ้น" เคอร์บีกล่าว อย่างไรก็ตาม เคอร์บี บอกว่าเขาไม่ขอประเมินตัวเลขความสูญเสียของยูเครน "เพราะว่าพวกเขาเป็นเหยื่อ และรัสเซียเป็นผู้รุกราน"
ด้านสถานการณ์ในภาคสนาม มีรายงานว่ารัสเซียปลดปล่อยขีปนาวุธชุดใหญ่โจมตียูเครนอีกรอบเมื่อคืนที่ผ่านมา ในเมืองปาฟโลกราด ทางภาคตะวันออกของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ก่อไฟไหม้และสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนและอาคารอื่นๆ หลายสิบหลัง
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวระหว่างปราศรัยผ่านวิดีโอในช่วงค่ำ ว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย พร้อมประกาศว่า "พวกผู้รุกรานรัสเซียจะได้รับการโต้ตอบจากเราในทุกๆ การโจมตี ขีปนาวุธของก่อการร้ายพรากชีวิตประชาชน 2 ราย เป็นคนหนุ่มอายุยังน้อย คนอื่นๆ อีก 40 ราย มีทั้งผู้หญิง เด็กและผู้ชาย ต้องได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บ"
เซเลนสกีกล่าวอ้างด้วยว่ามีเด็กชายวัย 14 ปี เสียชีวิตเช่นกัน ใกล้กับโรงเรียนของหนูน้อยรายนี้ หลังจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นเชอร์นิฮิฟ ใกล้ชายแดนรัสเซีย ถูกโจมตีด้วยระเบิด
เหตุโจมตีในเมืองปาฟโลกราด อันเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งทางราง เกิดขึ้นท่ามกลางปฏิบัติการของรัสเซีย ที่ลงมือรัวยิงขีปนาวุธโจมตีทั่วยูเครนระลอก 2 ในรอบ 3 วัน ด้วยดูเหมือนว่ามอสโกจะคืนชีพกลยุทธ์ที่เคยใช้ในฤดูหนาว โจมตีระยะไกลดักหน้าปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครน ซึ่งคาดหมายว่าจะมีขึ้นเร็วๆ นี้
มีคาโล ลูคาชุค ประธานสภาแคว้นดนิโปรเปตรอฟส์ก กล่าวหาการโจมตีก่อความเสียหายแก่กลุ่มอพาร์ตเมนต์ 19 หลัง บ้านเรือน 25 หลัง โรงเรียน 3 แห่ง โรงเรียนอนุบาล 3 แห่งและร้านค้าหลายแห่ง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น มีเด็กรวมอยู่ด้วย 5 คน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่ากองกำลังของพวกเขาใช้ขีปนาวุธยิงจากทะเลและอากาศระยะไกลที่มีความแม่นยำสูง โจมตีสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งอุตสาหกรรมทางทหารของยูเครน
ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนรัสเซียหลายสำนัก รายงานว่ามีพลเรือน 2 รายเสียชีวิตจากการโดนระเบิดของยูเครน ในแคว้นซาโปริซเซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย นอกจากนี้ กองกำลังยูเครน ยังยิงปืนใหญ่ถล่มพื้นที่ต่างๆ ในแคว้นโดเนตสก์ ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ทางภาคตะวันออก
ด้วยที่ยูเครนกำลังเตรียมพร้อมปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กลับ ทวงคืนดินแดนที่ถูกยึดไป นับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซียเปิดฉากขึ้นเมื่อ 14 เดือนก่อน ทาง พล.อ.วาเลรี ซาลุซนีย์ ผู้บัญชากากองกำลังยูเครน ได้พูดคุยกับประธานเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (1 พ.ค.)
"ผมเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในความต้องการยกระดับแสนยานุภาพด้านระบบป้องกันภัยทางอากาศ" ซาลุซนีย์กล่าวในถ้อยแถลง อ้างถึงคำกล่าวของเขาที่พูดกับ พล.อ.มาร์ค มิลลีย์ "นอกจากนี้ ผมยังได้พูดถึงการจัดวางกำลังพลของเราและความสำคัญของการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารและกระสุนแก่ยูเครนให้ทันเวลาและในปริมาณที่เพียงพอ"
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)