น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โวยวายใส่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ต่อกรณีข่มขู่ทางนิวเคลียร์ ระบุมันเป็นภาวะเลอะเลือนของคนชรา และประเทศของเธอจะตอบโต้ด้วยการยกระดับคลังแสงปรมาณู
ความเห็นของคิม โยจอง ที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนแห่งรัฐเมื่อวันเสาร์ (29 เม.ย.) ถือเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเกาหลีเหนือ ที่มีต่อการประชุมเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่าง ไบเดน กับ ยุน ซุกยอล ประธนาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ประกาศยกระดับการป้องปรามเปียงยาง ในนั้นรวมการพาดพิงถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างที่ไม่ค่อยพบเห็นหนัก ในกลไกโฆษณาชวนเชื่อของพวกเขา
เธอเรียก "ปฏิญญาวอชิงตัน" ที่เห็นพ้องกันระหว่าง ไบเดน และ ยุน ว่าเป็นผลผลิตของนโยบายที่เป็นปรปักษ์เลวทรามที่มีต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งสะท้อนถึงเจตจำนงของการกระทำที่เป็นศัตรูและก้าวร้าวอย่างที่สุด สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) รายงาน
โยจอง กล่าวต่อว่าในขณะที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้นำพาทรัพย์สินนิวเคลียร์เข้าสู่ภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น ทางเกาหลีเหนือจะตอบโต้ด้วยการยกระดับคลังแสงนิวเคลียร์ของตนเอง "ในสัดส่วนโดยตรงกับมัน"
กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ประณามคำกล่าวอ้างของ โยจอง ว่าไกลจากความเป็นจริงและแสดงให้เห็นถึงความเป็นระดับล่างของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ตามรายงานขาวของหนังสือพิมพ์ยอนฮับ
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าความเห็นของ โยจอง จะเป็นการยกระดับการยั่งยุของเกาหลีเหนือหรือไม่ ในขณะที่ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เปียงยางทำการยิงขีปนาวุธในอัตราที่ถี่อย่างมาก
เกาหลีเหนือกำลังพยายามยกระดับศักยภาพในการเปิดการโจมตีทางนิวเคลียร์ที่มีความน่าเชื่อถือสำหรับเล่นงานแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ และ 2 ชาติพันธมิตรของอเมริกาในเอเชีย ได้แก่ เกาหลีใต้กับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพบุคลากรทางทหารของสหรัฐฯ ในภูมิภาค
ไบเดน เน้นย้ำระหว่างพบปะกับ ยุน ว่าการโจมตีทางนิวเคลียร์ใดๆ ของเกาหลีเหนือใส่สหรัฐฯ และพันธมิตรของอเมริกา จะเป็นจุดจบของระบอบคิม พร้อมแถลงความพยายามครั้งใหม่ร่วมกับเกาหลีใต้ ในการตอบโต้ความเคลื่อนไหวยกระดับทางนิวเคลียร์ของเปียงยาง
ยูน เรียกปฏิญญาวอชิงตัน ว่าเป็น "การขยับขยายและเสริมสร้างความแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของยุทธศาสตร์ป้องปรามที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น" ซึ่งหมายถึงระบบป้องกันปรมาณูของอเมริกา (American nuclear umbrella) ที่มีเนื้อหาระบุว่า สหรัฐฯ จะตอบโต้การโจมตีใดๆ ก็ตามต่อพันธมิตรและหุ้นส่วนของตน ที่รวมความถึงทั้งการอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์และที่ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์
ในรายงานของสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ โยจอง ยังได้เหน็บแนมไบเดน ที่กำลังหาทางได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ว่าเป็นคนแก่ที่ไม่มีอนาคต ไม่มีความสามารถที่จะรับผิดชอบความมั่นคงและความรุ่งเรืองของสหรัฐฯ และมากเกินไปสำหรับไบเดนที่จะดำรงตำแหน่งในอีก 2 ปีที่เหลือ
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไปแล้วกว่า 17 ลูกในปี 2023 ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีป 3 ลูก ที่ออกแบบมาเพื่อปล่อยหัวรบนิวเคลียร์โจมตีได้ถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้ในปี 2022 พวกเขายิงทดสอบขีปนาวุธไปมากกว่า 70 ลูก
เปียงยางแสดงให้เห็นว่าขีปนาวุธของพวกเขาสามารถพุ่งไปไกลถึงสหรัฐฯ แต่ยังมีคำถามว่าหัวรบจะสามารถคงสภาพได้นานเพียงพอที่จะไปถึงเป้าหมายหรือไม่
(ที่มา : บลูมเบิร์ก)