xs
xsm
sm
md
lg

สงครามนิวเคลียร์! สื่อเกาหลีเหนือเอ่ยปากเตือน หลังมะกันจะประจำการสินทรัพย์ทางทหารในภูมิภาค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เกาหลีเหนือวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงเมื่อเร็วๆ นี้ระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ในการประจำการสินทรัพย์ทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาในภูมิภาค ว่าเป็นการโหมกระพือสถานการณ์ความตึงเครียดให้ลุกลามบานปลาย ถลำเข้าสู่ "ขอบเหวแห่งสงครามนิวเคลียร์" ตามรายงานของเคซีเอ็นเอ สื่อมวลชนแห่งรัฐของเปียงยางเมื่อวันจันทร์ (1 พ.ค.)

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และยุน ซุกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จัดการประชุมซัมมิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระหว่างนั้น ไบเดน รับปากให้ข้อมูลเชิงลึกแก่รัฐบาลเกาหลีใต้มากขึ้นเกี่ยวกับแผนการด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวกับความขัดแย้งใดๆ กับเกาหลีเหนือ ท่ามกลางความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อโครงการอาวุธของเปียงยางและการป้องปรามอย่างครอบคลุมของสหรัฐฯ หรือก็คือร่มนิวเคลียร์ของอเมริกาสำหรับปกป้องเหล่าพันธมิตร

ทั้ง 2 ผู้นำเห็นพ้องกันยกระดับการป้องกันตนเองของเกาหลีใต้และประจำการทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เป็นประจำ โดยส่วนหนึ่งในความพยายามดังกล่าว เรือดำน้ำขีปนาวุธที่ติดอาวุธนิวเคลียร์ของกองทัพเรืออเมริกา จะเดินทางเยือนเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980

เคซีเอ็นเอ ระบุว่าข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ในการใช้พฤติกรรมที่เป็นปรปักษ์และก้าวร้าวที่สุดกับเกาหลีเหนือ โดยอ้างอิงความเห็นของ "โช จู ฮยอน" นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ

รายงานของเคซีเอ็นเอ ระบุว่าการประจำการทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์ของอเมริกา ทำให้สถานการณ์ของคาบสมุทรเกาหลีอยู่ใน "หล่มแห่งความไร้เสถียรภาพ" และเป็นความจงใจที่จะสร้าง "กลุ่มทหารที่ก้าวร้าวและผูกขาด" ในภูมิภาคนี้

"มันมีเป้าหมายเพียงเพื่อหลบเลี่ยงความรับผิดชอบ สำหรับอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทำลายและละเมิดระบบการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์อย่างเป็นระบบ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันกำลังผลักสถานการณ์ของคาบสมุทรเกาหลีไปสู่ขอบเหวของสงครามนิวเคลียร์"

"มันเป็นเป้าหมายชั่วร้ายที่ครอบงำโดยสหรัฐฯ เพื่อเปลี่ยนทั้งเกาหลีใต้ให้กลายเป็นด่านหน้าของสงครามนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกไกล และใช้มันอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์การครองโลก" เคซีเอ็นเอระบุ

ระหว่างการหารือ ไบเดน และยุน ได้ส่งเสียงเตือนไปยังเกาหลีเหนือว่าจะเผชิญการตอบโต้ทางนิวเคลียร์และเป็นจุดจบของผู้นำคิม จองอึน หากว่าเปียงยางใช้คลังแสงนิวเคลียร์ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ฝ่ายอเมริกาเน้นว่าไม่มีแผนประจำการอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีใต้ และโซลบอกเช่นกันว่าจะไม่เสาะหาคลังแสงนิวเคลียร์ของตนเองเช่นกัน

คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เรียก "ปฏิญญาวอชิงตัน" ที่เห็นพ้องกันระหว่าง ไบเดน และ ยุน ว่าเป็นผลผลิตของนโยบายที่เป็นปรปักษ์เลวทรามที่มีต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งสะท้อนถึงเจตจำนงของการกระทำที่เป็นศัตรูและก้าวร้าวอย่างที่สุด

โยจอง กล่าวต่อว่าในขณะที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้นำพาทรัพย์สินนิวเคลียร์เข้าสู่ภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น ทางเกาหลีเหนือจะตอบโต้ด้วยการยกระดับคลังแสงนิวเคลียร์ของตนเองในสัดส่วนที่ทัดเทียมกัน

แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเกาหลีเหนือ แต่มีรายงานล่าสุดระบุว่า กองทัพอากาศสหรัฐฯ กำลังพิจารณาข้อเสนอหนึ่งสำหรับลงจอดเครื่องบินระเบิดทางยุทธศาสตร์ในเกาหลีใต้ และทำการประจำการอากาศยานทรงแสนยานุภาพนี้เป็นประจำทั้งในและรอบๆ คาบสมุทรเกาหลี

ความเป็นไปได้ของการประจำการเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ มีขึ้นไม่นานหลังจากมีคำแถลงเกี่ยวกับการประจำการเรือดำน้ำติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1981 ภายใต้ข้อตกลงที่เรียกว่า "ปฏิญญาวอชิงตัน"

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิกเกอิ เมื่อวันที่ 27 เมษายน พล.อ.เคนเนธ สตีเฟน วิลส์บาค ผู้บัญชาการกองกำลังทางอากาศ ประจำภูมิภาคแปซิฟิกของสหรัฐฯ ได้พูดถึงแนวโน้มของการประจำการเครื่องบินทิ้งระเบิดในเกาหลีใต้

พล.อ.วิลส์บาค เน้นว่าเขาสังเกตเห็นว่าเกาหลีเหนือสามารถลดความล้มเหลวของการยิงขีปนาวุธในช่วง 5 ปีหลังสุดและปรับปรุงศักยภาพการยิงขีปนาวุธของพวกเขา "บางทีพวกเขาอาจสมบูรณ์แบบ หรืออาจไม่สมบูรณ์แบบ แต่ที่แน่ๆ ศักยภาพการยิงขีปนาวุธของพวกเขานั้นดีขึ้น"

(ที่มา : รอยเตอร์/นิกเกอิ)


กำลังโหลดความคิดเห็น